บลจ. ธนชาต ชี้อนาคตอุตกองทุนรวมครึ่งปีหลังอาจไม่คึก เหตุสถาการณ์เศรษฐกิจยังไม่นิ่งกดดันบรรยากาศการลงทุน พร้อมระบุการขยายตัวในครึ่งปีแรกมาจากการไหลของเงินทุนหาผลตอบแทนที่สูงกว่า หลังอัตราดอกเบี้ยปรับตัวอยู่ในระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง แต่ยังมั่นใจหุ้น-น้ำมันจะสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ในอนาคต
นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) ธนชาต จำกัด เปิดเผยถึงภาพรวมการลงทุนในกองทุนรวมครึ่งปีหลังนี้ว่า อาจมีการเติบโตไม่ค่อยมากนัก เนื่องจากยังต้องรอดูสถานการณ์เศรษฐกิจในหลาย ๆ ด้าน ทำให้บรรยากาศการลงทุนอาจไม่คึกคักเหมือนในช่วงครึ่งปีแรก ดังนั้นนักลงทุนควรจะต้องมีการกระจายการลงทุนอยู่ นอกจากนี้แล้วในเรื่องของอัตราดอกเบี้ยมองว่าในช่วงครึ่งปีหลังนี้จะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่จะเป็นการปรับขึ้นในอัตราที่เล็กน้อยเท่านั้น
ทั้งนี้ถ้าจะแนะนำนักลงทุนว่าควรจะกระจายการลงทุนไปยังอะไรบ้างนั้น มองว่าพันธบัตรรัฐบาล และตราสารหนี้ของภาครัฐ น่าจะให้ผลตอบแทนที่ไม่มากนัก ดังนั้นแนวโน้มที่นักลงทุนจะจะเข้ามาลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลคงมีไม่มากนัก ส่วนการลงทุนในหุ้นขณะนี้น่าจะมีการขยายตัวได้ดีกว่า แต่อย่างไรก็ตามการลงทุนในหุ้นเองก็ยังคงมีความเสี่ยงอยู่ ดังนั้นก็ต้องดูในเรื่องของสภาวะเศรษฐกิจและบริษัทจดทะเบียนด้วยว่าเป็นอย่างไร แต่ในความคิดเห็นส่วนตัวแล้วมองว่าการลงทุนในหุ้นน่าจะเป็นไปในทิศทางที่ดีในอนาคต ส่วนการลงทุนในคอมอนิตี้มองว่าก็ยังมีความน่าสนใจอยู่มากพอสมควร ซึ่งถ้าสภาพเศรษฐกิจมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาคการณ์ไว้ กองทุนประเภทก็นี้น่าจะให้ผลตอบแทนที่ดีได้
สำหรับในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาธุรกิจกองทุนรวมทั้งระบบมีมูลค่าทรัพย์สิน หรือเอ็นเอวีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีสาเหตุมาจากการอัตราดอกเบี้ยปรับลงมาอยู่ในระดับต่ำ ส่งผลให้ลูกค้าเงินฝากต่างไหลไปลงทุนในรูปแบบอื่น ๆ ที่ให้ผลตอบแทนเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะกองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในพันธบัตรเกาหลีใต้ และกองทุนรวมตลาดเงินหรือมันนีมาร์เก็ต
"จะเห็นได้ว่านักลงทุนต่างเข้ามาลงทุนในกองทุนเกาหลีมาก เพราะจะเห็นได้ว่าหลาย ๆ บลจ. ต่างออกกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในพันธบัตรเกาหลีออกมารองรับนักลงทุนเป็นจำนวนมากเช่นกัน นอกจากนี้แล้วยังมีนักลงทุนบางส่วนที่มีความกล้าลงทุนขึ้นมาหน่อย อาจจะไปลงทุนในจำพวกน้ำมัน ทองคำ หรือในตลาดอิมเมอร์จิ้งมาร์เก็ตต่าง ๆ ก็ได้ เพราะกองทุนจำพวกนี้ก็ยังให้ผลตอบแทนที่ดีเช่นกัน"นายบุญชัยกล่าว
นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) ธนชาต จำกัด เปิดเผยถึงภาพรวมการลงทุนในกองทุนรวมครึ่งปีหลังนี้ว่า อาจมีการเติบโตไม่ค่อยมากนัก เนื่องจากยังต้องรอดูสถานการณ์เศรษฐกิจในหลาย ๆ ด้าน ทำให้บรรยากาศการลงทุนอาจไม่คึกคักเหมือนในช่วงครึ่งปีแรก ดังนั้นนักลงทุนควรจะต้องมีการกระจายการลงทุนอยู่ นอกจากนี้แล้วในเรื่องของอัตราดอกเบี้ยมองว่าในช่วงครึ่งปีหลังนี้จะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่จะเป็นการปรับขึ้นในอัตราที่เล็กน้อยเท่านั้น
ทั้งนี้ถ้าจะแนะนำนักลงทุนว่าควรจะกระจายการลงทุนไปยังอะไรบ้างนั้น มองว่าพันธบัตรรัฐบาล และตราสารหนี้ของภาครัฐ น่าจะให้ผลตอบแทนที่ไม่มากนัก ดังนั้นแนวโน้มที่นักลงทุนจะจะเข้ามาลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลคงมีไม่มากนัก ส่วนการลงทุนในหุ้นขณะนี้น่าจะมีการขยายตัวได้ดีกว่า แต่อย่างไรก็ตามการลงทุนในหุ้นเองก็ยังคงมีความเสี่ยงอยู่ ดังนั้นก็ต้องดูในเรื่องของสภาวะเศรษฐกิจและบริษัทจดทะเบียนด้วยว่าเป็นอย่างไร แต่ในความคิดเห็นส่วนตัวแล้วมองว่าการลงทุนในหุ้นน่าจะเป็นไปในทิศทางที่ดีในอนาคต ส่วนการลงทุนในคอมอนิตี้มองว่าก็ยังมีความน่าสนใจอยู่มากพอสมควร ซึ่งถ้าสภาพเศรษฐกิจมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาคการณ์ไว้ กองทุนประเภทก็นี้น่าจะให้ผลตอบแทนที่ดีได้
สำหรับในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาธุรกิจกองทุนรวมทั้งระบบมีมูลค่าทรัพย์สิน หรือเอ็นเอวีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีสาเหตุมาจากการอัตราดอกเบี้ยปรับลงมาอยู่ในระดับต่ำ ส่งผลให้ลูกค้าเงินฝากต่างไหลไปลงทุนในรูปแบบอื่น ๆ ที่ให้ผลตอบแทนเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะกองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในพันธบัตรเกาหลีใต้ และกองทุนรวมตลาดเงินหรือมันนีมาร์เก็ต
"จะเห็นได้ว่านักลงทุนต่างเข้ามาลงทุนในกองทุนเกาหลีมาก เพราะจะเห็นได้ว่าหลาย ๆ บลจ. ต่างออกกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในพันธบัตรเกาหลีออกมารองรับนักลงทุนเป็นจำนวนมากเช่นกัน นอกจากนี้แล้วยังมีนักลงทุนบางส่วนที่มีความกล้าลงทุนขึ้นมาหน่อย อาจจะไปลงทุนในจำพวกน้ำมัน ทองคำ หรือในตลาดอิมเมอร์จิ้งมาร์เก็ตต่าง ๆ ก็ได้ เพราะกองทุนจำพวกนี้ก็ยังให้ผลตอบแทนที่ดีเช่นกัน"นายบุญชัยกล่าว
