สำนักงาน ก.ล.ต. เปิดทางกองทุนอสังหาฯ กู้เงิน 10% ของเอ็นเอวี ให้ใช้เป็นสภาพคล่อง หาผลประโยชน์เข้ากองทุน ย้ำผลประโยชน์ลูกค้าเป็นสำคัญ มีผล 16 ส.ค.นี้
รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า สำนักงานฯ ได้แก้ไขหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการกู้ยืมเงินในนามของกองทุนรวมและการก่อภาระผูกพันแก่ทรัพย์สินของกองทุนรวม โดยกำหนดให้บริษัทจัดการกองทุนรวมที่มีเหตุจำเป็นต้องบริหารสภาพคล่องของกองทุนรวมเปิดเป็นการชั่วคราว บริษัทจัดการกองทุนรวมอาจกู้ยืมเงินหรือเข้าทำธุรกรรมการขายโดยมีสัญญาซื้อคืนได้ ทั้งนี้ คู่สัญญานั้นต้องเป็นบุคคลประเภทสถาบัน และระยะเวลาการชำระหนี้จัดอยู่ในช่วงเวลาอันสั้น ส่วนอัตราส่วนของการกู้ยืมเงินหรือการเข้าทำธุรกรรมดังกล่าว ต้องอยู่ในอัตราที่เหมาะสมต่อความจำเป็นในการบริหารสภาพคล่องที่เกิดขึ้นเป็นการชั่วคราว ขณะเดียวกัน การทำธุรกรรมการขายโดยมีสัญญาซื้อคืนต้องใช้รูปแบบสัญญาที่เป็นมาตรฐานตามที่สำนักงานยอมรับ
ทั้งนี้ ในส่วนของการจัดการกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ บริษัทจัดการกองทุนรวมอาจกู้ยืมเงินได้ต่อเมื่อ ได้ระบุไว้อย่างชัดเจนในโครงการจัดการกองทุนรวมและในหนังสือชี้ชวน ไม่ว่าจะมีการให้หลักประกันไว้ด้วยหรือไม่ก็ตาม และต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ คือ เป็นการกู้ยืมเงินเฉพาะเพื่อดำเนินการปรับปรุงอสังหาริมทรัพย์ของกองทุนรวม หรืออสังหาริมทรัพย์ที่กองทุนรวม
มีสิทธิการเช่าให้อยู่ในสภาพดีและมีความพร้อมที่จะใช้หาผลประโยชน์ ต่อเติมหรือก่อสร้างอาคารเพิ่มเติมบนที่ดินที่มีอยู่แล้วซึ่งเป็นของกองทุนรวมหรือที่กองทุนรวมมีสิทธิการเช่า เพื่อประโยชน์ในการจัดหาผลประโยชน์ของกองทุนรวม หรือลงทุนในอสังหาริมทรัพย์หรือสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพิ่มเติม
นอกจากนี้ ยังต้องเป็นการกู้ยืมเงินโดยคำนึงถึงประโยชน์ของผู้ถือหน่วยลงทุนเป็นสำคัญ ซึ่งในกรณีที่เป็นการกู้ยืมเงินเพื่อปรับปรุงอสังหาริมทรัพย์ที่กองทุนรวมมีสิทธิการเช่า หรือเพื่อต่อเติมหรือก่อสร้างอาคารเพิ่มเติมบนที่ดินที่มีอยู่แล้วที่กองทุนรวมมีสิทธิการเช่า บริษัทจัดการกองทุนรวมต้องคำนึงถึงกำหนดเวลาเช่าที่เหลืออยู่ตามสัญญาเช่าด้วย และจำนวนเงินที่กู้ยืมต้องไม่เกิน 10% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม
ทั้งนี้ ในกรณีที่ต่อมาภายหลังจำนวนเงินที่กู้ยืมเกินอัตราส่วนดังกล่าว แต่การเกินอัตราส่วนนั้นมิได้เกิดจากการกู้ยืมเงินเพิ่มเติม บริษัทจัดการกองทุนรวมจะคงอัตราส่วนการกู้ยืมเงินไว้ต่อไปก็ได้ แต่จะกู้ยืมเงินเพิ่มเติมอีกไม่ได้จนกว่าอัตราส่วนการกู้ยืมเงินจะลดลงจนน้อยกว่า 10% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม
ส่วนการก่อภาระผูกพันแก่ทรัพย์สินของกองทุนรวมโดยการขายหลักทรัพย์ โดยที่ยังไม่มีหลักทรัพย์นั้นอยู่ในครอบครอง ให้บริษัทจัดการกองทุนรวมกระทำได้ต่อเมื่อเป็นไปตามประกาศของคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่กำหนดให้บริษัทจัดการกองทุนรวมสามารถขายหลักทรัพย์เพื่อกองทุนรวม โดยที่ยังไม่มีหลักทรัพย์นั้นอยู่ในครอบครองได้ โดยประกาศนี้ ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2552 เป็นต้นไป
รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า สำนักงานฯ ได้แก้ไขหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการกู้ยืมเงินในนามของกองทุนรวมและการก่อภาระผูกพันแก่ทรัพย์สินของกองทุนรวม โดยกำหนดให้บริษัทจัดการกองทุนรวมที่มีเหตุจำเป็นต้องบริหารสภาพคล่องของกองทุนรวมเปิดเป็นการชั่วคราว บริษัทจัดการกองทุนรวมอาจกู้ยืมเงินหรือเข้าทำธุรกรรมการขายโดยมีสัญญาซื้อคืนได้ ทั้งนี้ คู่สัญญานั้นต้องเป็นบุคคลประเภทสถาบัน และระยะเวลาการชำระหนี้จัดอยู่ในช่วงเวลาอันสั้น ส่วนอัตราส่วนของการกู้ยืมเงินหรือการเข้าทำธุรกรรมดังกล่าว ต้องอยู่ในอัตราที่เหมาะสมต่อความจำเป็นในการบริหารสภาพคล่องที่เกิดขึ้นเป็นการชั่วคราว ขณะเดียวกัน การทำธุรกรรมการขายโดยมีสัญญาซื้อคืนต้องใช้รูปแบบสัญญาที่เป็นมาตรฐานตามที่สำนักงานยอมรับ
ทั้งนี้ ในส่วนของการจัดการกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ บริษัทจัดการกองทุนรวมอาจกู้ยืมเงินได้ต่อเมื่อ ได้ระบุไว้อย่างชัดเจนในโครงการจัดการกองทุนรวมและในหนังสือชี้ชวน ไม่ว่าจะมีการให้หลักประกันไว้ด้วยหรือไม่ก็ตาม และต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ คือ เป็นการกู้ยืมเงินเฉพาะเพื่อดำเนินการปรับปรุงอสังหาริมทรัพย์ของกองทุนรวม หรืออสังหาริมทรัพย์ที่กองทุนรวม
มีสิทธิการเช่าให้อยู่ในสภาพดีและมีความพร้อมที่จะใช้หาผลประโยชน์ ต่อเติมหรือก่อสร้างอาคารเพิ่มเติมบนที่ดินที่มีอยู่แล้วซึ่งเป็นของกองทุนรวมหรือที่กองทุนรวมมีสิทธิการเช่า เพื่อประโยชน์ในการจัดหาผลประโยชน์ของกองทุนรวม หรือลงทุนในอสังหาริมทรัพย์หรือสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพิ่มเติม
นอกจากนี้ ยังต้องเป็นการกู้ยืมเงินโดยคำนึงถึงประโยชน์ของผู้ถือหน่วยลงทุนเป็นสำคัญ ซึ่งในกรณีที่เป็นการกู้ยืมเงินเพื่อปรับปรุงอสังหาริมทรัพย์ที่กองทุนรวมมีสิทธิการเช่า หรือเพื่อต่อเติมหรือก่อสร้างอาคารเพิ่มเติมบนที่ดินที่มีอยู่แล้วที่กองทุนรวมมีสิทธิการเช่า บริษัทจัดการกองทุนรวมต้องคำนึงถึงกำหนดเวลาเช่าที่เหลืออยู่ตามสัญญาเช่าด้วย และจำนวนเงินที่กู้ยืมต้องไม่เกิน 10% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม
ทั้งนี้ ในกรณีที่ต่อมาภายหลังจำนวนเงินที่กู้ยืมเกินอัตราส่วนดังกล่าว แต่การเกินอัตราส่วนนั้นมิได้เกิดจากการกู้ยืมเงินเพิ่มเติม บริษัทจัดการกองทุนรวมจะคงอัตราส่วนการกู้ยืมเงินไว้ต่อไปก็ได้ แต่จะกู้ยืมเงินเพิ่มเติมอีกไม่ได้จนกว่าอัตราส่วนการกู้ยืมเงินจะลดลงจนน้อยกว่า 10% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม
ส่วนการก่อภาระผูกพันแก่ทรัพย์สินของกองทุนรวมโดยการขายหลักทรัพย์ โดยที่ยังไม่มีหลักทรัพย์นั้นอยู่ในครอบครอง ให้บริษัทจัดการกองทุนรวมกระทำได้ต่อเมื่อเป็นไปตามประกาศของคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่กำหนดให้บริษัทจัดการกองทุนรวมสามารถขายหลักทรัพย์เพื่อกองทุนรวม โดยที่ยังไม่มีหลักทรัพย์นั้นอยู่ในครอบครองได้ โดยประกาศนี้ ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2552 เป็นต้นไป