xs
xsm
sm
md
lg

ยูโอบีปรับเกมรุกธุรกิจกองทุน ขยายขอบเขตลุยหุ้น-ตราสารหนี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วนา พูลผล
บลจ.ยูโอบี (ไทย) เผยแผนงานครึ่งปีหลัง ขยายขอบเขตลงทุนกว้างขึ้น เน้นลงทุนในตราสารหนี้ และหุ้น พร้อมตั้งเป้ารักษาฐานกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และดึงลูกค้าพ้นวัยเกษียณอายุมาลงทุนต่อในสินทรัพย์อื่น เดินหน้ารับจ้างเอาท์ซอร์สให้บริษัทอื่น หวังเพิ่มปริมาณลูกค้ากองทุนส่วนบุคคล

นายวนา พูลผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ยูโอบี (ไทย) จำกัด เปิดเผยว่า แผนงานของบริษัทในช่วงครึ่งปีหลังจะมีขอบเขตการลงทุนกว้างมากขึ้น โดยจะเน้นลงทุนในตราสารหนี้ และหุ้น เพราะว่าภาวะเศรษฐกิจมีแนวโน้มดีขึ้น แต่กองทุนที่ออกมาจะต้องเหมาะสมกับนักลงทุนที่เล่นหุ้นได้ โดยประเทศไทยไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง หลังจากเพิ่งประสบกับบาดเจ็บไปไม่นานนัก ส่วนราคาอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐอเมริกายังไม่แน่ใจว่าจะปรับลดลงไปอีกหรือไม่ คิดว่าเรื่องนี้ยังมีปัญหาอยู่บ้าง
อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นในปัจจุบันได้สะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกรวดเร็วเกินไป คาดว่าราคาหุ้นในช่วงจากนี้ไปน่าจะปรับตัวลงมาเพื่อเป็นการปรับฐาน ซึ่งเยอรมนีและฝรั่งเศส ตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ออกมาแสดงให้เห็นว่าได้ออกจากภาวะวิกฤติแล้ว ด้านญี่ปุ่นก็เช่นกัน ส่วนไทยค่อนข้างผันผวน แต่เคยผ่านภาวะวิกฤติเศรษฐกิจไม่นานมานี้

นายวนา กล่าวต่อว่า สำหรับธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund) สามารถเติบโตไปเรื่อยๆ โดยจะพยายามรักษาฐานลูกค้า และเพิ่มลูกค้าให้มากขึ้น ซึ่งจะแยกออกเป็น 2 กลุ่มด้วยกัน ลูกค้ากลุ่มแรกลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ส่วนกลุ่มที่ 2 เป็นนักลงทุนที่ใกล้จะพ้นวัยเกษียณอายุ เพราะว่าหลังเกษียณอายุแล้วก็ไม่ได้ลงทุนในกองสำรองเลี้ยงชีพอีก ส่งผลให้ต้องไปลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆ ด้วยตนเองแทน ซึ่งมองว่ายังมีโอกาสที่เข้าไปเจาะตรงนั้นได้
ส่วนกองทุนส่วนบุคคล (Private Fund) นักลงทุนบางคนไม่มีเวลาศึกษาเอง โดยบริษัทจะเข้าไปให้คำแนะนำการลงทุนให้ และในปัจจุบันมองว่าสามารถเข้าไปลงทุนในต่างประเทศได้แล้ว ซึ่งจะช่วยให้นักลงทุนตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ในภาวะเศรษฐกิจอย่างนี้น่าจะไปได้เรื่อยๆ และในปัจจุบันสัดส่วนการลงทุนของกองทุนนี้ค่อนข้างกระจาย โดยในแง่บัญชีจะมีนักลงทุนประเภทบุคคลธรรมดาค่อนข้างมาก ขณะที่หากวัดกันที่มูลค่าสินทรัพย์จะเป็นนักลงทุนประเภทสถาบันที่มีจำนวนมากกว่า

 ปัจจุบัน มูลค่าสินทรัพย์ของกองทุนส่วนบุคคลอยุ่ที่ 4,000 ล้านบาท โดยนักลงทุนสนใจเข้ามาซื้อหุ้นมากขึ้น เพราะว่าเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนกลับมาให้ความสนใจซื้อหุ้น เชื่อว่าหลักทรัพย์เป็นโอกาสอีกครั้ง ขณะเดียวกัน นักลงทุนที่จะเข้ามาลงทุนแบบกองทุนส่วนบุคคลจะต้องสามารถยอมรับความเสี่ยงได้สูง โดยจะหาเอกชนรองรับกองทุน
ทั้งนี้ บริษัทจะไปเจาะด้านเอาท์ซอร์ส เพื่อนำเสนอให้บริษัทที่ต้องการลงทุน โดยบางบริษัทอาจจะมีฝ่ายลงทุนเป็นของตนเอง แต่หากบริษัทดังกล่าวว่าจ้างบลจ.ยูโอบีมาช่วยดูแลการลงทุน อาจจะช่วยประหยัดต้นทุนค่าใช้จ่ายได้มากกว่า ซึ่งในส่วนของธนาคารยูโอบีก็มีการแนะนำการลงทุนด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลาย เชื่อว่ายังมีโอกาสอีกมาก แต่ต้องรอโอกาสและจังหวะ  ทั้งนี้ ลูกค้าบางส่วนจะมาจากธนาคารยูโอบี และผ่านทางการแนะนำของลูกค้าเดิม

 นายวนา กล่าวว่า นักลงทุนที่เข้าลงทุนในตราสารหนี้ในส่วนของกองทุนส่วนบุคคล จะต้องมีเงินลงทุนประมาณ 100 ล้านบาทขึ้นไปจึงจะสามารถกระจายการลงทุนได้อย่างเหมาะสม ขณะที่การลงทุนในหุ้น นักลงทุนมีเงินลงทุนตั้งแต่ 50 ล้านบาทขึ้นไปก็สามารถลงทุนได้แล้ว เพราะว่าหุ้นมีสภาพคล่องสูงกว่า แต่ไม่ได้ปิดโอกาสลูกค้าที่มีวงเงินลงทุนไม่ถึงจำนวนดังกล่าวเข้ามาลงทุน โดยที่ผ่านมา นักลงทุนอาจจะเจ็บไปมาก แต่ส่วนใหญ่บริษัทจะดูที่ศักยภาพของนักลงทุนเป็นหลัก หากมีศักยภาพที่ดีอาจจะเริ่มต้นด้วยวงเงินลงทุนที่ต่ำกว่าที่บริษัทตั้งไว้ได้
กำลังโหลดความคิดเห็น