บลจ. บีที เร่งมือปั้นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์กองทุนที่ 2 แย้มลุยธุรกิจโรงแรมภาคใต้ ชูผลประกอบเยี่ยมถึง แม้ไม่ถึง 5 ดาว คาดเดือนหน้า เตรียมยื่นเรื่อง ก.ล.ต. หวังขายให้ทันปลายปีนี้
นายนกุล ไชยนิล ผู้จัดการกองทุนอสังหาริมทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) บีที จำกัด เปิดเผยถึงความเคลื่อนไหวกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์กองที่ 2 ของบริษัทว่า ขณะนี้ได้ทำการประเมินโครงการที่จะเข้าไปจัดตั้งกองทุนเรียบร้อยแล้ว โดยจะเริ่มยื่นเรื่องให้ทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พิจารณาในช่วงเดือนนี้ และคาดว่าจะสามารถเปิดขายไอพีโอได้ประมาณช่วงปลายปีนี้ได้อย่างแน่นอน เนื่องจากว่าประเมินสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมืองแล้ว ไม่น่ามีอะไรที่น่าเป็นห่วงเหมือนอย่างช่วงปลายปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวจะมีมูลค่าโครงการประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยจุดเด่นและความน่าสนใจของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์กองที่ 2 นี้ เป็นธุรกิจประเภทโรงแรม อยู่ทางภาคใต้ที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้แล้ว โรงแรมดังกล่าวไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม แม้ว่าโรงแรมดังกล่าวจะไม่ถึงกับ 5 ดาว แต่ผลประกอบการมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
"ช่วงปลายปีบริษัทมีแผนที่จะออกกองทุนอสังหาริมทรัพย์กองทุนที่สองต่อหลังจากกองทุนรวมอสัหาริมทรัพย์กองแรกที่ประสบความสำเร็จก่อนหน้านี้ โดยสินทรัพย์ที่จะเลือกลงทุนนั้น จะเป็นธุรกิจประเภทโรงแรม โดยขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการประเมินเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะเน้นการลงทุนในธุรกิจโรงแรมที่มีนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติเข้ามาพักเป็นจำนวนมาก" นายนกุล กล่าว
นายนกุล กล่าวต่อว่า สำหรับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่ จะเป็นนักลงทุนที่มีฐานะและสามารถซื้อสะสมไว้เก็งกำไรได้เป็นอย่างดี เนื่องจากว่าราคาที่ดิน ราคาอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันมีแต่จะเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ แต่สำหรับนักลงทุนสมัยใหม่ การเข้ามาลงทุนผ่านกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าลงทุนเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งขณะนี้อัตราดอกเบี้ยมีการปรับลดลง ส่งผลให้นักลงทุนหลายรายต่างหาช่องทางใหม่ ๆ ในการลงทุน และในปีนี้ถือว่าเป็นปีทองของกองทุนอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากว่ากองทุนประเภทดังกล่าวในขณะนี้สามารถให้ผลตอบแทนเป็นที่น่าดึงดูดนักลงทุนสูงและถือว่าให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าเงินฝากในขณะนี้
อย่างไรก็ตาม การเข้าไปลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์ต้องเข้าเป็นการลงทุนในระยะยาว ถึงจะสามารถให้ผลตอบแทนที่ดี ดังนั้น ถ้านักลงทุนจะหาอีกหนึ่งช่องทางในการลงทุน น่าจะแบ่งเงินบางส่วนเพื่อเป็นการกระจายการลงทุนในอีกรูปแบบหนึ่งด้วย
“กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ถือว่าเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ดี เพราะเมื่อลองพิจารณาดูแล้วแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยจะขึ้นก็ยังเป็นที่ยาก และมองว่าจะยังคงซึม ๆ อย่างนี้ไปอีกระยะยาว ดังนั้นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์จึงถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่นักลงทุนควรแบ่งเงินเข้ามาลงทุนเพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงในอีกรูปแบบหนึ่ง” นายนกุล กล่าว
นายนกุล ไชยนิล ผู้จัดการกองทุนอสังหาริมทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) บีที จำกัด เปิดเผยถึงความเคลื่อนไหวกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์กองที่ 2 ของบริษัทว่า ขณะนี้ได้ทำการประเมินโครงการที่จะเข้าไปจัดตั้งกองทุนเรียบร้อยแล้ว โดยจะเริ่มยื่นเรื่องให้ทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พิจารณาในช่วงเดือนนี้ และคาดว่าจะสามารถเปิดขายไอพีโอได้ประมาณช่วงปลายปีนี้ได้อย่างแน่นอน เนื่องจากว่าประเมินสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมืองแล้ว ไม่น่ามีอะไรที่น่าเป็นห่วงเหมือนอย่างช่วงปลายปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวจะมีมูลค่าโครงการประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยจุดเด่นและความน่าสนใจของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์กองที่ 2 นี้ เป็นธุรกิจประเภทโรงแรม อยู่ทางภาคใต้ที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้แล้ว โรงแรมดังกล่าวไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม แม้ว่าโรงแรมดังกล่าวจะไม่ถึงกับ 5 ดาว แต่ผลประกอบการมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
"ช่วงปลายปีบริษัทมีแผนที่จะออกกองทุนอสังหาริมทรัพย์กองทุนที่สองต่อหลังจากกองทุนรวมอสัหาริมทรัพย์กองแรกที่ประสบความสำเร็จก่อนหน้านี้ โดยสินทรัพย์ที่จะเลือกลงทุนนั้น จะเป็นธุรกิจประเภทโรงแรม โดยขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการประเมินเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะเน้นการลงทุนในธุรกิจโรงแรมที่มีนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติเข้ามาพักเป็นจำนวนมาก" นายนกุล กล่าว
นายนกุล กล่าวต่อว่า สำหรับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่ จะเป็นนักลงทุนที่มีฐานะและสามารถซื้อสะสมไว้เก็งกำไรได้เป็นอย่างดี เนื่องจากว่าราคาที่ดิน ราคาอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันมีแต่จะเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ แต่สำหรับนักลงทุนสมัยใหม่ การเข้ามาลงทุนผ่านกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าลงทุนเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งขณะนี้อัตราดอกเบี้ยมีการปรับลดลง ส่งผลให้นักลงทุนหลายรายต่างหาช่องทางใหม่ ๆ ในการลงทุน และในปีนี้ถือว่าเป็นปีทองของกองทุนอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากว่ากองทุนประเภทดังกล่าวในขณะนี้สามารถให้ผลตอบแทนเป็นที่น่าดึงดูดนักลงทุนสูงและถือว่าให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าเงินฝากในขณะนี้
อย่างไรก็ตาม การเข้าไปลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์ต้องเข้าเป็นการลงทุนในระยะยาว ถึงจะสามารถให้ผลตอบแทนที่ดี ดังนั้น ถ้านักลงทุนจะหาอีกหนึ่งช่องทางในการลงทุน น่าจะแบ่งเงินบางส่วนเพื่อเป็นการกระจายการลงทุนในอีกรูปแบบหนึ่งด้วย
“กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ถือว่าเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ดี เพราะเมื่อลองพิจารณาดูแล้วแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยจะขึ้นก็ยังเป็นที่ยาก และมองว่าจะยังคงซึม ๆ อย่างนี้ไปอีกระยะยาว ดังนั้นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์จึงถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่นักลงทุนควรแบ่งเงินเข้ามาลงทุนเพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงในอีกรูปแบบหนึ่ง” นายนกุล กล่าว