บลจ.ไทยพาณิชย์แตะเบรกออกกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์กองใหม่ หลังจากคว้าดีลกองทุน “CPN รีเทล โกรท” พร้อมเดินหน้าลุยเพิ่มทุนเพื่อลงทุนในโครงการเซ็นทรัลปิ่นเกล้าอีก 6,000 ล้านบาท คาดว่าแล้วเสร็จประมาณเดือนตุลาคมนี้ ส่งผลให้กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ทะลุ 20,000 ล้านบาท
นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด หรือ SCBAM เปิดเผยว่า บริษัทได้ชะลอแผนออกกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (พร็อพเพอร์ตี้ฟันด์) จากเดิมที่ให้ความสนใจลงทุนในสินทรัพย์หลายประเภท ทั้งคลังสินค้า โรงแรมระดับ 4 ดาว และออฟฟิศ โดยมีทั้งรูปแบบที่เป็นเจ้าของเองและเช่าซื้อ ซึ่งมีขนาดกองทุนละประมาณ 2,000 – 3,000 ล้านบาท ทั้งนี้ แผนงานเหล่านี้ คาดว่าจะเลื่อนแผนดังกล่าวไปในปีหน้าแทน เพราะภายหลังจากที่บริษัทได้รับความไว้วางใจจากผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท (CPNRF) ให้บริหารกองทุนแทน บลจ.ทหารไทย จึงต้องการทำกองทุนนี้ให้สำเร็จก่อน
อย่างไรก็ตาม การปรับเปลี่ยนผู้บริหารกองทุน CPNRF มาจากความต้องการของผู้ถือหน่วยลงทุนส่วนใหญ่ และมีหลาย บลจ.ให้ความสนใจเข้าไปยื่นข้อเสนอกับกองทุนดังกล่าว แต่มองว่ากลุ่มไทยพาณิชย์ได้เสนอผลตอบแทนดีที่สุดจึงได้รับการคัดเลือกให้เข้าบริหารกองทุนในครั้งนี้ โดยบริษัทได้จ่ายค่าใช้จ่ายบางส่วนให้กองทุน อาทิ ค่าที่ปรึกษา ค่าจัดพิมพ์หนังสือชี้ชวน เป็นต้น
ทั้งนี้ กองทุน CPNRF อยู่ระหว่างการเพิ่มทุนโครงการอีกประมาณ 6,000 ล้านบาท เพื่อลงทุนการเช่าอาคารศูนย์การค้า (บางส่วน) จำนวน 1 อาคารและอาคารสำนักงาน จำนวน 2 อาคาร (ทั้งอาคาร) ซึ่งตั้งอยู่ในโครงการเซ็นทรัลพลาซ่า ปิ่นเกล้า รวมทั้งที่จอดรถยนต์ภายในอาคารด้วย โดยกองทุนรวมจะพิจารณาลงทุนในอสังหาริมทรัพย์โครงการเซ็นทรัล พลาซา ปิ่นเกล้า เป็นระยะเวลาประมาณ 15 ปี และยังมีแผนที่จะเพิ่มสินทรัพย์เข้าไปในกองทุนนี้ประมาณปีละ 1 สินทรัพย์ เพื่อช่วยเพิ่มสภาพคล่องของกองทุน
นางโชติกา กล่าวว่า บริษัทได้ว่าจ้างผู้ประเมินราคาอิสระ 2 รายในการประเมินราคาของสินทรัพย์ในโครงการเซ็นทรัล พลาซา ปิ่นเกล้า โดยรายแรกประเมินราคาสูงสุดที่ 5,800 ล้านบาท ขณะที่อีกรายได้ประเมินราคาไว้ที่ 5,400 ล้านบาท ส่งผลให้ต้องใช้ราคาประเมินต่ำสุดมาใช้ ซึ่งกฏของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ระบุว่าประมูลราคาสินทรัพย์ไม่เกิน 120% ของราคาขั้นต่ำที่เสนอมา เพื่อไม่ให้เป็นการชี้นำราคาตลาด
ปัจจุบัน บริษัทยังอยู่ในระหว่างการเตรียมข้อมูล ตลอดจนรายละเอียดในการประมูลสินทรัพย์ดังกล่าว และยังอยู่ในระหว่างการนำเสนอข้อมูลให้กับนักลงทุนที่มีความสนใจ (โรดโชว์) คาดว่าจะสามารถเพิ่มทุนแล้วเสร็จประมาณเดือนตุลาคม 2552 นี้ โดยในปัจจุบันสินทรัพย์ของกองทุน CPNRF มีอยู่ประมาณ 11,000 ล้านบาท และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ควอลิตี้ เฮ้าส์ (QHPF) มีสินทรัพย์อยู่ประมาณ 5,600 ล้านบาท และหากเพิ่มทุนได้สำเร็จจะทำให้มูลค่ารวมของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทปรับเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่เหนือระดับ 20,000 ล้านบาทได้
นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด หรือ SCBAM เปิดเผยว่า บริษัทได้ชะลอแผนออกกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (พร็อพเพอร์ตี้ฟันด์) จากเดิมที่ให้ความสนใจลงทุนในสินทรัพย์หลายประเภท ทั้งคลังสินค้า โรงแรมระดับ 4 ดาว และออฟฟิศ โดยมีทั้งรูปแบบที่เป็นเจ้าของเองและเช่าซื้อ ซึ่งมีขนาดกองทุนละประมาณ 2,000 – 3,000 ล้านบาท ทั้งนี้ แผนงานเหล่านี้ คาดว่าจะเลื่อนแผนดังกล่าวไปในปีหน้าแทน เพราะภายหลังจากที่บริษัทได้รับความไว้วางใจจากผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท (CPNRF) ให้บริหารกองทุนแทน บลจ.ทหารไทย จึงต้องการทำกองทุนนี้ให้สำเร็จก่อน
อย่างไรก็ตาม การปรับเปลี่ยนผู้บริหารกองทุน CPNRF มาจากความต้องการของผู้ถือหน่วยลงทุนส่วนใหญ่ และมีหลาย บลจ.ให้ความสนใจเข้าไปยื่นข้อเสนอกับกองทุนดังกล่าว แต่มองว่ากลุ่มไทยพาณิชย์ได้เสนอผลตอบแทนดีที่สุดจึงได้รับการคัดเลือกให้เข้าบริหารกองทุนในครั้งนี้ โดยบริษัทได้จ่ายค่าใช้จ่ายบางส่วนให้กองทุน อาทิ ค่าที่ปรึกษา ค่าจัดพิมพ์หนังสือชี้ชวน เป็นต้น
ทั้งนี้ กองทุน CPNRF อยู่ระหว่างการเพิ่มทุนโครงการอีกประมาณ 6,000 ล้านบาท เพื่อลงทุนการเช่าอาคารศูนย์การค้า (บางส่วน) จำนวน 1 อาคารและอาคารสำนักงาน จำนวน 2 อาคาร (ทั้งอาคาร) ซึ่งตั้งอยู่ในโครงการเซ็นทรัลพลาซ่า ปิ่นเกล้า รวมทั้งที่จอดรถยนต์ภายในอาคารด้วย โดยกองทุนรวมจะพิจารณาลงทุนในอสังหาริมทรัพย์โครงการเซ็นทรัล พลาซา ปิ่นเกล้า เป็นระยะเวลาประมาณ 15 ปี และยังมีแผนที่จะเพิ่มสินทรัพย์เข้าไปในกองทุนนี้ประมาณปีละ 1 สินทรัพย์ เพื่อช่วยเพิ่มสภาพคล่องของกองทุน
นางโชติกา กล่าวว่า บริษัทได้ว่าจ้างผู้ประเมินราคาอิสระ 2 รายในการประเมินราคาของสินทรัพย์ในโครงการเซ็นทรัล พลาซา ปิ่นเกล้า โดยรายแรกประเมินราคาสูงสุดที่ 5,800 ล้านบาท ขณะที่อีกรายได้ประเมินราคาไว้ที่ 5,400 ล้านบาท ส่งผลให้ต้องใช้ราคาประเมินต่ำสุดมาใช้ ซึ่งกฏของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ระบุว่าประมูลราคาสินทรัพย์ไม่เกิน 120% ของราคาขั้นต่ำที่เสนอมา เพื่อไม่ให้เป็นการชี้นำราคาตลาด
ปัจจุบัน บริษัทยังอยู่ในระหว่างการเตรียมข้อมูล ตลอดจนรายละเอียดในการประมูลสินทรัพย์ดังกล่าว และยังอยู่ในระหว่างการนำเสนอข้อมูลให้กับนักลงทุนที่มีความสนใจ (โรดโชว์) คาดว่าจะสามารถเพิ่มทุนแล้วเสร็จประมาณเดือนตุลาคม 2552 นี้ โดยในปัจจุบันสินทรัพย์ของกองทุน CPNRF มีอยู่ประมาณ 11,000 ล้านบาท และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ควอลิตี้ เฮ้าส์ (QHPF) มีสินทรัพย์อยู่ประมาณ 5,600 ล้านบาท และหากเพิ่มทุนได้สำเร็จจะทำให้มูลค่ารวมของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทปรับเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่เหนือระดับ 20,000 ล้านบาทได้
