คอลัมน์ ตลาดทุนไทยในสายตาต่างชาติ
โดย บริษัท เน็กซ์วิว (ประเทศไทย) จำกัด
หลังจากสัปดาห์ที่เหน็ดเหนื่อย เมื่อยล้า อันเนื่องมาจากกิจกรรมของทางบริษัทฯ ที่ถาโถมเข้ามาตลอดสัปดาห์ถึง 3 งานด้วยกัน ภายในเวลาที่ไล่เลี่ยกัน ไม่ว่าจะเป็นงานอบรมนักลงทุนภายใต้หัวข้อ “Increase Profit with NextVIEW Advisor” ที่บังเอิญต้องจัดพร้อมๆ กันถึง 2 วัน คือ วันพฤหัสบดีที่ 16 กรกฎาคม และ วันเสาร์ที่ 21 กรกฏาคม โดยมีนักลงทุนและผู้สนใจเข้าร่วมทั้งสองวันเกือบร้อยคน โดยทางมหาวิทยาลัยรังสิต ศูนย์ศึกษาสาทรธานี เป็นผู้สนับสนุนสถานที่ในการจัดงานในครั้งนี้ นอกจากนี้ในช่วงบ่ายวันเสาร์ ผมยังต้องช่วยอำนวยความสะดวกให้กับพันธมิตรของบริษัทฯ ในการจัดงานสัมมนาช่วงบ่าย ภายใต้หัวข้อ “How to Trade Oversea?” ซึ่งเป็นการจัดร่วมกับ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป เพื่อนำเสนอทางเลือกด้านการลงทุน สำหรับนักลงทุน ที่สนใจลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งมีนักลงทุนกว่าร้อยคน ให้ความสนใจเข้าร่วมฟังการบรรยายในครั้งนี้
ในฐานะที่อยู่ในแวดวงการลงทุนมาค่อนข้างนาน และพอมีประสบการณ์จากการได้สัมผัส พูดคุย กับนักลงทุนมาหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนรายย่อย (ย่อยจนป่น) หรือนักลงทุนรายใหญ่ ที่มีมูลค่าการซื้อ-ขาย ต่อวันมากกว่าพันล้านเป็นต้น ซึ่งทุกคนล้วนมีจุดมุ่งหมายเดียวกันในการเพิ่มมูลค่า ความมั่งคั่งให้กับตนเอง ผ่านการลงทุนโดยตรงในตลาดเงิน ผ่านสินค้าที่มีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น หุ้น ทองคำแท่ง สัญญาซื้อ-ขาย ล่วงหน้า เป็นต้น
อาจเป็นโชคดีสำหรับผมที่ได้มีโอกาสพูดคุยกับทีมผู้บริหารหนุ่มไฟแรงของบริษัทค้าทองน้องใหม่ในวงการ คือ พัศพงศ์ เจริญฐานวงค์ ประธานกรรมการ บริษัท Q Gold Exchange จำกัด เกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจการเป็นผู้ค้าทองคำแท่งรายใหญ่แห่งหนึ่งในประเทศไทย และกำลังอยู่ระหว่างการยื่นขอใบอนุญาติการเป็นนายหน้าสำหรับ Gold Futures ในอนาคตอันใกล้นี้
คุณพัศพงศ์ ได้ให้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์กับผมมาก เกี่ยวกับวิธีในการทำตลาดแบบ CSR นั่นคือ ซึ่งเป็นการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่สนใจลงทุนในทองคำแท่ง โดยเน้นการลงทุนระยะยาว ซึ่งกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ ล้วนแล้วแต่เป็นระดับเจ้าของกิจการ และผู้บริหารระดับสูง ในองค์กรต่างๆ ที่อาจแบ่งเงินจำนวนหนึ่งเข้ามาลงทุนในทองคำแท่ง โดยไม่ค่อยให้น้ำหนักกับการเก็งกำไรระยะสั้นสักเท่าไหร่ แต่อาจเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตในอีก 5-10 ปี ขึ้นไป ซึ่งโดยส่วนใหญ่ทางบริษัทฯ จะเน้นการทำตลาดผ่านกิจกรรมที่จัดเตรียมไว้เฉพาะสมาชิก โดยป็นการเชิญลูกค้าของทางบริษัทฯ มาทำกิจกรรมร่วมกัน เป็นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มนักธุรกิจของบริษัทฯ กับลูกค้า มากกว่าจะเน้นการทำกำไร หรือสำหรับลูกค้าบางคน อาจต้องการซื้อไว้เพียงเพื่อมอบเป็นมรดกให้กับบุตรหลานในอนาคต ซึ่งลูกค้าในกลุ่มนี้ ก็ยังมีจำนวนเยอะพอสมควร (หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อโดยตรงได้ที่บริษัท Q Gold Exchange Co.,Ltd ที่หมายเลข 02 260 6900 ในวันและเวลาทำการครับ)
ขอย้อนกลับมาที่การเก็งกำไรกันบ้าง ที่นักลงทุนหลายท่านอาจพบโอกาส และหาจังหวะทำกำไรได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย จากสัญญาณที่ผมได้เขียนเอาไว้ในเว็บไซต์ www.technicalday.com เมื่อวานนี้ (วันจันทร์ที่ 20 กรกฏาคม 2552) โดยบทวิเคราะห์ได้แสดงให้เห็นถึงจังหวะในการเข้าตลาด เพื่อลงทุนโดยการซื้อล่วงหน้า (Long) ใน SET50 Index Futures โดยเข้าตลาด ในวันศุกร์ ณ ขณะตลาดปิด ซึ่งจะได้ผลตอบแทนประมาณ 17,000 บาท ต่อการลงทุน 1 สัญญา (ประมาณ 10,000 บาท) ซึ่งทำให้ผลตอบแทนเท่ากับ 170% ภายในเวลาเพียงแค่วันเดียว หากแต่ถ้าไม่สามารถเปิด Position ได้ทันในช่วงเย็นวันศุกร์ แต่เข้ามาเปิดสัญญาในช่วงเช้าวันจันทร์แทน ผลตอบแทนที่ได้ก็จะเป็น 130% ต่อการลงทุน 1 สัญญา หรือ หนึ่งหมื่นบาท (พิจารณาจากรูปด้านล่าง)
สำหรับนักลงทุน ที่ลงทุนในทองคำ ก็เช่นเดียว ผมได้ให้การประมาณการราคาเป้าหมายไว้ที่ 955 USD เช่นกันในวันเดียวกัน ซึ่งหมายความว่า ถ้าเราคำนวนผลตอบแทนแบบคร่าวๆ ณ เช้าวันอังคาร (ในกรณีเปิดสัญญาช่วงเช้าวันจันทร์) ผลตอบแทนโดยประมาณ จะเท่ากับ 7,000 กว่าบาท (ถือข้ามวัน) ก็นับเป็นผลตอบแทนที่น่าสนใจไม่น้อยเช่นกัน
โดย บริษัท เน็กซ์วิว (ประเทศไทย) จำกัด
หลังจากสัปดาห์ที่เหน็ดเหนื่อย เมื่อยล้า อันเนื่องมาจากกิจกรรมของทางบริษัทฯ ที่ถาโถมเข้ามาตลอดสัปดาห์ถึง 3 งานด้วยกัน ภายในเวลาที่ไล่เลี่ยกัน ไม่ว่าจะเป็นงานอบรมนักลงทุนภายใต้หัวข้อ “Increase Profit with NextVIEW Advisor” ที่บังเอิญต้องจัดพร้อมๆ กันถึง 2 วัน คือ วันพฤหัสบดีที่ 16 กรกฎาคม และ วันเสาร์ที่ 21 กรกฏาคม โดยมีนักลงทุนและผู้สนใจเข้าร่วมทั้งสองวันเกือบร้อยคน โดยทางมหาวิทยาลัยรังสิต ศูนย์ศึกษาสาทรธานี เป็นผู้สนับสนุนสถานที่ในการจัดงานในครั้งนี้ นอกจากนี้ในช่วงบ่ายวันเสาร์ ผมยังต้องช่วยอำนวยความสะดวกให้กับพันธมิตรของบริษัทฯ ในการจัดงานสัมมนาช่วงบ่าย ภายใต้หัวข้อ “How to Trade Oversea?” ซึ่งเป็นการจัดร่วมกับ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป เพื่อนำเสนอทางเลือกด้านการลงทุน สำหรับนักลงทุน ที่สนใจลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งมีนักลงทุนกว่าร้อยคน ให้ความสนใจเข้าร่วมฟังการบรรยายในครั้งนี้
ในฐานะที่อยู่ในแวดวงการลงทุนมาค่อนข้างนาน และพอมีประสบการณ์จากการได้สัมผัส พูดคุย กับนักลงทุนมาหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนรายย่อย (ย่อยจนป่น) หรือนักลงทุนรายใหญ่ ที่มีมูลค่าการซื้อ-ขาย ต่อวันมากกว่าพันล้านเป็นต้น ซึ่งทุกคนล้วนมีจุดมุ่งหมายเดียวกันในการเพิ่มมูลค่า ความมั่งคั่งให้กับตนเอง ผ่านการลงทุนโดยตรงในตลาดเงิน ผ่านสินค้าที่มีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น หุ้น ทองคำแท่ง สัญญาซื้อ-ขาย ล่วงหน้า เป็นต้น
อาจเป็นโชคดีสำหรับผมที่ได้มีโอกาสพูดคุยกับทีมผู้บริหารหนุ่มไฟแรงของบริษัทค้าทองน้องใหม่ในวงการ คือ พัศพงศ์ เจริญฐานวงค์ ประธานกรรมการ บริษัท Q Gold Exchange จำกัด เกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจการเป็นผู้ค้าทองคำแท่งรายใหญ่แห่งหนึ่งในประเทศไทย และกำลังอยู่ระหว่างการยื่นขอใบอนุญาติการเป็นนายหน้าสำหรับ Gold Futures ในอนาคตอันใกล้นี้
คุณพัศพงศ์ ได้ให้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์กับผมมาก เกี่ยวกับวิธีในการทำตลาดแบบ CSR นั่นคือ ซึ่งเป็นการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่สนใจลงทุนในทองคำแท่ง โดยเน้นการลงทุนระยะยาว ซึ่งกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ ล้วนแล้วแต่เป็นระดับเจ้าของกิจการ และผู้บริหารระดับสูง ในองค์กรต่างๆ ที่อาจแบ่งเงินจำนวนหนึ่งเข้ามาลงทุนในทองคำแท่ง โดยไม่ค่อยให้น้ำหนักกับการเก็งกำไรระยะสั้นสักเท่าไหร่ แต่อาจเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตในอีก 5-10 ปี ขึ้นไป ซึ่งโดยส่วนใหญ่ทางบริษัทฯ จะเน้นการทำตลาดผ่านกิจกรรมที่จัดเตรียมไว้เฉพาะสมาชิก โดยป็นการเชิญลูกค้าของทางบริษัทฯ มาทำกิจกรรมร่วมกัน เป็นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มนักธุรกิจของบริษัทฯ กับลูกค้า มากกว่าจะเน้นการทำกำไร หรือสำหรับลูกค้าบางคน อาจต้องการซื้อไว้เพียงเพื่อมอบเป็นมรดกให้กับบุตรหลานในอนาคต ซึ่งลูกค้าในกลุ่มนี้ ก็ยังมีจำนวนเยอะพอสมควร (หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อโดยตรงได้ที่บริษัท Q Gold Exchange Co.,Ltd ที่หมายเลข 02 260 6900 ในวันและเวลาทำการครับ)
ขอย้อนกลับมาที่การเก็งกำไรกันบ้าง ที่นักลงทุนหลายท่านอาจพบโอกาส และหาจังหวะทำกำไรได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย จากสัญญาณที่ผมได้เขียนเอาไว้ในเว็บไซต์ www.technicalday.com เมื่อวานนี้ (วันจันทร์ที่ 20 กรกฏาคม 2552) โดยบทวิเคราะห์ได้แสดงให้เห็นถึงจังหวะในการเข้าตลาด เพื่อลงทุนโดยการซื้อล่วงหน้า (Long) ใน SET50 Index Futures โดยเข้าตลาด ในวันศุกร์ ณ ขณะตลาดปิด ซึ่งจะได้ผลตอบแทนประมาณ 17,000 บาท ต่อการลงทุน 1 สัญญา (ประมาณ 10,000 บาท) ซึ่งทำให้ผลตอบแทนเท่ากับ 170% ภายในเวลาเพียงแค่วันเดียว หากแต่ถ้าไม่สามารถเปิด Position ได้ทันในช่วงเย็นวันศุกร์ แต่เข้ามาเปิดสัญญาในช่วงเช้าวันจันทร์แทน ผลตอบแทนที่ได้ก็จะเป็น 130% ต่อการลงทุน 1 สัญญา หรือ หนึ่งหมื่นบาท (พิจารณาจากรูปด้านล่าง)
สำหรับนักลงทุน ที่ลงทุนในทองคำ ก็เช่นเดียว ผมได้ให้การประมาณการราคาเป้าหมายไว้ที่ 955 USD เช่นกันในวันเดียวกัน ซึ่งหมายความว่า ถ้าเราคำนวนผลตอบแทนแบบคร่าวๆ ณ เช้าวันอังคาร (ในกรณีเปิดสัญญาช่วงเช้าวันจันทร์) ผลตอบแทนโดยประมาณ จะเท่ากับ 7,000 กว่าบาท (ถือข้ามวัน) ก็นับเป็นผลตอบแทนที่น่าสนใจไม่น้อยเช่นกัน
