xs
xsm
sm
md
lg

นักลงทุนโยกเงินหาผลตอบแทนสูง ดันยอด"ทิสโก้สเปเชี่ยลพลัส"6กองทะลุพันล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ.ทิสโก้เผยนักลงทุนทยอยลุยหุ้นกู้ต่อเนื่อง พบ 6 เดือน 6 กองทุนระดมเงินได้แล้วกว่า 1 พันล้านบาท ส่วนกองล่าสุดกวาดยอดไอพีโอเบาะๆ 60 ล้านบาท ระบุลูกค้าบางกลุ่มเริ่มปรับตัวหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น หลังดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวลดลงอย่างมาก

นางสาวธีรินทร์ สุวรรณเตมีย์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด-ธุรกิจกองทุนรวม และกองทุนส่วนบุคคล บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ทิสโก้ เปิดเผยว่า การเปิดขายกองทุนตราสารหนี้ภายในประเทศช่วงที่ผ่านมาของบลจ.ทิสโก้ ถือว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี 2552 ที่ทำการเปิดขาย“กองทุนเปิด ทิสโก้ สเปเชี่ยล พลัส 6”โดยมียอดลงทุนรวมทั้ง 6 กองทุนที่ทำการเปิดขายแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 1 พันล้านบาท

"กองประเภทนี้จะมีกลุ่มลูกค้าของเราที่เขามองหาอะไรที่มีผลตอบแทนคุ้มค่า และความเสี่ยงอยู่ในระดับที่รับได้ เพราะตอนนี้หากมองอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลในระดับ 1% กว่าๆ นั้นถือว่าต่ำมาก และกองทุนนี้เองก็มีการคัดเลือกบริษัทที่จะเข้าไปลงทุนเป็นอย่างดีอีกด้วย"นางสาวธีรินทร์กล่าว

ทั้งนี้ ล่าสุดบริษัทได้ทำการเปิดขาย“กองทุนเปิด ทิสโก้ สเปเชี่ยล พลัส 12”ในระหว่างวันที่ 25 พ.ค.- 2 มิ.ย. 52 ที่ผ่านมา โดยมียอดเงินลงทุนรวมแล้วประมาณ 60 ล้านบาท ซึ่งหลังจากนี้บริษัทคาดว่าจะนำเสนอกองทุนประเภทนี้ให้กับนักลงทุนตามเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ 1 เดือนต่อ 1 กองทุน

อย่างไรก็ตาม กองทุนเปิดในตระกูลสเปเชี่ยลมีนโยบายการลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกเชนเหมือนกันทุกกอง แต่เงื่อนไขแตกต่างกันในบ้างกองทุนสำหรับ“กองทุนเปิด ทิสโก้ สเปเชี่ยล พลัส 12"นั้น มีเงื่อนไขพิเศษให้ผู้ถือหน่วยสามารถเลิกกองทุนและรับเงินต้นคืนพร้อมผลตอบแทนได้ก่อนครบอายุโครงการ หากหน่วยลงทุน (NAV) มีมูลค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 10.42 บาท หรือคิดเป็นผลตอบแทนประมาณ 4% ณ วันทำการใด ภายในระยะเวลา 1 ปี

นางสาวธีรินทร์ กล่าวอีกว่า ความนิยมระหว่างตราสารหนี้ในประเทศกับต่างประเทศนั้นคงจะนำมาเปรียบเทียบกันไม่ได้ เนื่องจากขึ้นอยู่กับนักลงทุนเองว่าต้องการลงทุนในรูปแบบไหน ซึ่งกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศนั้นจะมีผลตอบแทนที่ต่ำกว่า แต่ในด้านความเสี่ยงน่าจะน้อยกว่า นอกจากนี้การลงทุนในต่างประเทศยังมีปัจจัยเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนของค่าเงินเข้ามาเกี่ยวข้องอีกด้วยทำให้ผลตอบแทนที่ได้อาจมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงในกรณีที่ไม่ทำการป้องกันความเสี่ยง

"คงจะเป็นคนละแบบกันเพราะความเสี่ยงมันไม่เท่ากัน ซึ่งกองทุนหุ้นกู้ในประเทศนั้นจะต้องเปรียบเทียบกับพันธบัตรรัฐบาลในอายุเดียวกัน แต่จะมีส่วนต่างหรือสเปรดด้านอัตราผลตอบแทนที่เพิ่มตามความเสี่ยงที่ต่างกันออกไป ส่วนกองบอนด์ต่างประเทศอย่างที่ออกกันมาแน่นอนว่าความน่าเชื่อถือจะสูงกว่าของบ้านเรา ซึ่งหากลองนึกภาพจะเหมือนกับประเทศอังกฤษกับอาร์เจนติน่าที่พอจะมองออกได้ว่าที่ไหนมีความน่าเชื่อถือมากกว่า แต่ที่สำคัญจะเป็นเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยนที่น่าจะมีผลกระทบต่อยิลด์มากที่สุดในกรณีที่ไม่ทำการป้องกันความเสี่ยง"นางสาวธีรินทร์กล่าว

รายงานจากบลจ.ทิสโก้ เปิดเผยว่า บริษัทได้ทำการเปิดขาย กองทุนเปิดทิสโก้ โกลด์ ฟันด์อีกครั้งหลังจากทำการเสนอขายครั้งแรกให้กับนักลงทุน โดยนักลงทุนสามารถซื้อขายกองทุนนี้ได้ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยการระดมทุนในการเสนอขายครั้งนั้นมียอดประมาณ 42.53 ล้านบาท

สำหรับกองทุนดังกล่าว มีนโยบายการลงทุนในหน่วยลงทุนหลักคือ SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุนอีทีเอฟ (ETF) ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงและมีนโยบายมุ่งเน้นลงทุนในทองคำแท่ง เพื่อสร้างผลตอบแทนของกองทุนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของราคาทองคำ ทั้งนี้กองทุนดังกล่าวบริหารจัดการโดย World Gold Trust Services, LLC ที่ถือหุ้นโดย World Gold Council (WGC) ของประเทศสวิสเซอร์แลนด์
กำลังโหลดความคิดเห็น