บลจ.ทหารไทย หวังยอดเม็ดเงินลงทุนใหม่ปีนี้ไม่ติดลบ เน้นสร้างยิลด์-การให้บริหาร ดันเม็ดเงิน 7,000 ล้านกลบตัวแดง คาดส่วนใหญ่มาจากกองทุนตราสารหนี้ เผยกองทุนบอนด์ไทยเริ่มน่าสนใจ พร้อมระบุสถานการณ์วุ่นวายไม่กระทบกองทุน เตรียมพบตลท.ขอแก้เกณฑ์ช่วงราคาพร็อพเพอร์ตี้ฟันด์ในตลาดรอง แก้ปัญหาความผันผวนของตลาดฉุดราคาร่วง
นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2551 บริษัทจะพยายามรักษายอดเม็ดเงินลงทุนใหม่ (Net New Cash Flow) ให้เป็น 0 จากปัจจุบันที่บริษัทมียอดเม็ดเงินลงทุนติดลบกว่า 7,000 ล้านบาท โดยในช่วง 4 เดือนที่เหลือของปีนี้นั้นบริษัทจะเร่งขยายขนาดเม็ดเงินลงทุนด้วยการสร้างผลตอบแทนที่น่าพึงพอใจและเน้นให้บริการแก่ลูกค้าที่ดี ซึ่งคาดว่าเม็ดเงินลงทุนส่วนใหญ่จะเติบโตมาจากกองทุนตราสารหนี้
ทั้งนี้ ปัจจุบันหลังจากที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย ส่งผลทำให้ความน่าสนใจของกองทุนตราสารหนี้ในประเทศมีความน่าสนใจมากขึ้น โดยปัจจุบันส่วนต่างของอัตราผลตอบแทนระหว่างกองทุนตราสารหนี้ในประเทศกับกองทุนที่ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้มีส่วนต่างประมาณ 0.10% ทำให้บลจ.จะเน้นขายกองทุนตราสารหนี้ในประเทศมากขึ้น ซึ่งถ้านักลงทุนที่มีการกระจายการลงทุนออกไปนอกประเทศแล้ว แนะนำให้มาลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ในประเทศเพิ่มมากขึ้นแทน
ส่วนสถานการณ์ความไม่สงบในปัจจุบันนั้น นางโชติกา กล่าวว่า สถานการณ์ความไม่สงบดังกล่าวไม่น่าจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมกองทุนรวม แต่เหตุการณ์เพิ่งจะเกิดขึ้นจึงยังเร็วเกินไปที่จะกล่าวถึงผลกระทบ อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่สงบ นักลงทุนมักจะหยุดลงทุนและหันมาหาทางเลือกการลงทุนที่มีความเสี่ยงน้อยกว่า และที่ผ่านมาพบว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่สงบจะมีเม็ดเงินบางส่วนที่ไหลเข้ามาลงทุนในธุรกิจกองทุนรวมมากขึ้น
"ที่ผ่านมาผู้ถือหน่วยลงทุนที่เป็นชาวต่างชาติไม่ได้มีการถอนหน่วยลงทุนออกไป แถมยังมีการเข้ามาซื้อหน่วยลงทุนเพิ่มขึ้น โดยตั้งแต่ต้นปีที่กองทุนหุ้นของบลจ.ทหารไทยมีมูลค่าการซื้อสุทธิกว่า 1 พันล้านบาทแล้ว ซึ่งเหตุความไม่สงบที่เกิดขึ้นน่าจะทำให้มีเงินไหลเข้ามามากกว่าเงินไหลออก เพราะลูกค้ารู้ว่าเรามีการจัดพอร์ตการลงทุนให้" นางโชติกา กล่าว
นางโชติกา กล่าวต่อถึงธุรกิจกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ว่า ส่วนตัวคาดว่าจะมีการเข้าไปพูดคุยกับทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เพื่อขอแก้ไขช่วงราคา (TickSite) ของกองทุนอสังหาริมทรัพย์จากปัจจุบันที่กำหนดช่วงราคาที่ 0.10 บาท เป็น 0.01 บาท ซึ่งจะช่วยลดความผันผวนของตลาดหุ้นที่ส่งผลต่อกองทุนอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดรอง
อย่างไรก็ตามความไม่สงบที่เกิดขึ้น แม้จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจการท่องเที่ยวของประเทศไทย แต่สำหรับผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ลักซ์ชัวรี่ (LUXF) ซึ่งเน้นลงทุนในสินทรัพย์ของโครงการ ซิกส์เซ้นส์ ไฮด์อะเวย์ ยาวน้อย ซึ่งเป็นรีสอร์ตบนเกาะยาวน้อยนั้นจะไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด เนื่องมาจากกองทุนมีการทำการการันตีผลตอบแทนไว้แล้ว
ขณะที่แผนการเพิ่มทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท (CPNRF) จำนวนไม่เกิน 11,420 ล้านบาทจากมูลค่าเงินทุนของกองทุนรวมเดิมจำนวน 10,915 ล้านบาท เป็นเงินทุนใหม่จำนวนไม่เกิน 22,335 ล้านบาทนั้น บลจ.อาจจะมีการจัดโรดโชว์ เพื่อกระตุ้นยอดการเพิ่มทุนอีกครั้ง หลังจากที่ในช่วงก่อนขอมติผู้ถือหน่วย บลจ.ได้มีการจัดโรดโชว์แล้วและได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้ถือหน่วย
ส่วนการเปิดขายหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดทหารไทย USD Money Market ที่ลงทุนในในตราสารหนี้ระยะสั้นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐนั้น หลังจากที่เปิดระดมทุนเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม - 4 กันยายน 2551 ปรากฎว่าสามารถระดมทุนได้ประมาณ 50 ล้านบาท ตามกฎเกณฑ์ของก.ล.ต. และคาดว่าหลังจากนี้กองทุนดังกล่าวจะสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องมาจากเป็นกองทุนเปิดซึ่งนักลงทุนสามารถเข้าทำการซื้อขายได้โดยตลอด
ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวมีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่มีคุณภาพและมีความมั่นคง โดยมีอายุคงเหลือต่ำกว่า 1 ปี ซึ่งสามารถสร้างผลตอบแทนที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างสม่ำเสมอและมีสภาพคล่องสูง เช่น ตราสารหนี้ภาครัฐ ตราสารหนี้ภาคสถาบันการเงิน ตราสารหนี้ภาคเอกชนชั้นดี หรือหน่วยลงทุนของกองทุนรวมตลาดเงินต่างประเทศ ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือระยะสั้นอยู่ในสองอันดับแรกในระดับ International Scale ไม่ต่ำกว่า F1 หรือเทียบเท่า
โดยกองทุนดังกล่าวเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการถือครองสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ เช่น ผู้ประกอบการนำเข้าหรือส่งออกสินค้าต่างประเทศ หรือผู้ที่ต้องการฝากเงินในสกุลดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ยังเหมาะกับผู้ปกครองที่วางแผนจะส่งบุตรไปศึกษายังประเทศสหรัฐอเมริกาตลอดจนผู้ลงทุนที่มีการคาดการณ์ในอนาคตว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐจะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินบาท
"ด้านการจัดตั้งกองทุนแมชชิ่งฟันด์นั้น บริษัทก็มีความสนใจเช่นเดียวกัน แต่คงจะไม่ใช้เกิดมาจากการระดมทุนเพียงครั้งเดียว เพราะสไตล์ของบลจ.ทหารไทยจะเน้นการเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไปมากกว่า"นางโชติกา กล่าว
นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2551 บริษัทจะพยายามรักษายอดเม็ดเงินลงทุนใหม่ (Net New Cash Flow) ให้เป็น 0 จากปัจจุบันที่บริษัทมียอดเม็ดเงินลงทุนติดลบกว่า 7,000 ล้านบาท โดยในช่วง 4 เดือนที่เหลือของปีนี้นั้นบริษัทจะเร่งขยายขนาดเม็ดเงินลงทุนด้วยการสร้างผลตอบแทนที่น่าพึงพอใจและเน้นให้บริการแก่ลูกค้าที่ดี ซึ่งคาดว่าเม็ดเงินลงทุนส่วนใหญ่จะเติบโตมาจากกองทุนตราสารหนี้
ทั้งนี้ ปัจจุบันหลังจากที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย ส่งผลทำให้ความน่าสนใจของกองทุนตราสารหนี้ในประเทศมีความน่าสนใจมากขึ้น โดยปัจจุบันส่วนต่างของอัตราผลตอบแทนระหว่างกองทุนตราสารหนี้ในประเทศกับกองทุนที่ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้มีส่วนต่างประมาณ 0.10% ทำให้บลจ.จะเน้นขายกองทุนตราสารหนี้ในประเทศมากขึ้น ซึ่งถ้านักลงทุนที่มีการกระจายการลงทุนออกไปนอกประเทศแล้ว แนะนำให้มาลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ในประเทศเพิ่มมากขึ้นแทน
ส่วนสถานการณ์ความไม่สงบในปัจจุบันนั้น นางโชติกา กล่าวว่า สถานการณ์ความไม่สงบดังกล่าวไม่น่าจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมกองทุนรวม แต่เหตุการณ์เพิ่งจะเกิดขึ้นจึงยังเร็วเกินไปที่จะกล่าวถึงผลกระทบ อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่สงบ นักลงทุนมักจะหยุดลงทุนและหันมาหาทางเลือกการลงทุนที่มีความเสี่ยงน้อยกว่า และที่ผ่านมาพบว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่สงบจะมีเม็ดเงินบางส่วนที่ไหลเข้ามาลงทุนในธุรกิจกองทุนรวมมากขึ้น
"ที่ผ่านมาผู้ถือหน่วยลงทุนที่เป็นชาวต่างชาติไม่ได้มีการถอนหน่วยลงทุนออกไป แถมยังมีการเข้ามาซื้อหน่วยลงทุนเพิ่มขึ้น โดยตั้งแต่ต้นปีที่กองทุนหุ้นของบลจ.ทหารไทยมีมูลค่าการซื้อสุทธิกว่า 1 พันล้านบาทแล้ว ซึ่งเหตุความไม่สงบที่เกิดขึ้นน่าจะทำให้มีเงินไหลเข้ามามากกว่าเงินไหลออก เพราะลูกค้ารู้ว่าเรามีการจัดพอร์ตการลงทุนให้" นางโชติกา กล่าว
นางโชติกา กล่าวต่อถึงธุรกิจกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ว่า ส่วนตัวคาดว่าจะมีการเข้าไปพูดคุยกับทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เพื่อขอแก้ไขช่วงราคา (TickSite) ของกองทุนอสังหาริมทรัพย์จากปัจจุบันที่กำหนดช่วงราคาที่ 0.10 บาท เป็น 0.01 บาท ซึ่งจะช่วยลดความผันผวนของตลาดหุ้นที่ส่งผลต่อกองทุนอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดรอง
อย่างไรก็ตามความไม่สงบที่เกิดขึ้น แม้จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจการท่องเที่ยวของประเทศไทย แต่สำหรับผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ลักซ์ชัวรี่ (LUXF) ซึ่งเน้นลงทุนในสินทรัพย์ของโครงการ ซิกส์เซ้นส์ ไฮด์อะเวย์ ยาวน้อย ซึ่งเป็นรีสอร์ตบนเกาะยาวน้อยนั้นจะไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด เนื่องมาจากกองทุนมีการทำการการันตีผลตอบแทนไว้แล้ว
ขณะที่แผนการเพิ่มทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท (CPNRF) จำนวนไม่เกิน 11,420 ล้านบาทจากมูลค่าเงินทุนของกองทุนรวมเดิมจำนวน 10,915 ล้านบาท เป็นเงินทุนใหม่จำนวนไม่เกิน 22,335 ล้านบาทนั้น บลจ.อาจจะมีการจัดโรดโชว์ เพื่อกระตุ้นยอดการเพิ่มทุนอีกครั้ง หลังจากที่ในช่วงก่อนขอมติผู้ถือหน่วย บลจ.ได้มีการจัดโรดโชว์แล้วและได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้ถือหน่วย
ส่วนการเปิดขายหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดทหารไทย USD Money Market ที่ลงทุนในในตราสารหนี้ระยะสั้นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐนั้น หลังจากที่เปิดระดมทุนเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม - 4 กันยายน 2551 ปรากฎว่าสามารถระดมทุนได้ประมาณ 50 ล้านบาท ตามกฎเกณฑ์ของก.ล.ต. และคาดว่าหลังจากนี้กองทุนดังกล่าวจะสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องมาจากเป็นกองทุนเปิดซึ่งนักลงทุนสามารถเข้าทำการซื้อขายได้โดยตลอด
ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวมีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่มีคุณภาพและมีความมั่นคง โดยมีอายุคงเหลือต่ำกว่า 1 ปี ซึ่งสามารถสร้างผลตอบแทนที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างสม่ำเสมอและมีสภาพคล่องสูง เช่น ตราสารหนี้ภาครัฐ ตราสารหนี้ภาคสถาบันการเงิน ตราสารหนี้ภาคเอกชนชั้นดี หรือหน่วยลงทุนของกองทุนรวมตลาดเงินต่างประเทศ ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือระยะสั้นอยู่ในสองอันดับแรกในระดับ International Scale ไม่ต่ำกว่า F1 หรือเทียบเท่า
โดยกองทุนดังกล่าวเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการถือครองสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ เช่น ผู้ประกอบการนำเข้าหรือส่งออกสินค้าต่างประเทศ หรือผู้ที่ต้องการฝากเงินในสกุลดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ยังเหมาะกับผู้ปกครองที่วางแผนจะส่งบุตรไปศึกษายังประเทศสหรัฐอเมริกาตลอดจนผู้ลงทุนที่มีการคาดการณ์ในอนาคตว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐจะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินบาท
"ด้านการจัดตั้งกองทุนแมชชิ่งฟันด์นั้น บริษัทก็มีความสนใจเช่นเดียวกัน แต่คงจะไม่ใช้เกิดมาจากการระดมทุนเพียงครั้งเดียว เพราะสไตล์ของบลจ.ทหารไทยจะเน้นการเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไปมากกว่า"นางโชติกา กล่าว
