บลจ.กรุงไทยมองแนวโน้มผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นทรงตัว ขณะที่ระยะกลางถึงยาวอาจร่วงหลังเงินเฟ้อคลี่คลาย-เศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัวชัดเจน เตรียมเข็นกองทุนตราสารหนี้ "กรุงไทยตราสารการเงินคุ้มครองเงินต้น48 - กรุงไทยตราสารต่างประเทศ 6 เดือน17" เป็นทางเลือกให้ลูกค้าเพิ่ม กระจายลงทุนทั้งในและนอกประเทศ ไอพีโอ 3-9 ก.ย.นี้ ขณะที่บลจ.ทหารไทยไม่น้อยหน้าออก "ทหารไทย พรีเมียร์ 3M11" เปิดขายถึง 9 กันยายนนี้
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% มาอยู่ที่ 3.75% ทำให้ปัจจุบันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะ 1-12 เดือน เมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่แล้วปรับตัวเพิ่มขึ้น 6-20 bps.
ทั้งนี้ตลาดส่วนใหญ่มีการคาดการณ์ว่าหลังจากนี้โอกาสที่กนง.จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกในการประชุมครั้งถัดไปมีโอกาสค่อนข้างน้อยแล้ว จึงทำให้คาดว่าอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ระยะสั้นจะทรงตัว แต่สำหรับระยะกลางถึงยาวมีโอกาสปรับตัวลดลง ซึ่งเป็นผลจากการคาดการณ์เงินเฟ้อที่มีแนวโน้มลดลง ขณะที่มีสัญญาณการชะลอตัวทางเศรษฐกิจค่อนข้างชัดเจน
อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงเดินหน้าเปิดจำหน่ายหน่วยลงทุนของกองทุนตราสารหนี้อย่างต่อเนื่อง โดยในระหว่างวันที่ 3-9 กันยายนนี้ บริษัทจะมีการเปิดจำหน่ายหน่วยลงทุนของกองทุนที่ลงทุนทั้งในและต่างประเทศ อีก 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนรวมกรุงไทยตราสารการเงินคุ้มครองเงินต้น48 (KT3M48) และกองทุนรวมกรุงไทยตราสารต่างประเทศ 6 เดือน17 (KTFIF6M17) เพื่อรองรับลูกค้าที่มีกองทุนครบกำหนดอายุโครงการ และเพิ่มทางเลือกในการลงทุน
โดยกองทุนรวมกรุงไทยตราสารการเงินคุ้มครองเงินต้น 48 มีอายุโครงการ 3 เดือน มูลค่า 2,000 ล้านบาท เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในตราสารที่ก่อให้เกิดการคุ้มครองเงินต้น ได้แก่ ตราสารภาครัฐไทย ตั๋วสัญญาใช้เงินหรือบัตรเงินฝากที่บริษัทเงินทุน หรือบริษัทเครดิตฟองซิเอร์เป็นผู้ออกเพื่อการกู้ยืมหรือรับเงินจากประชาชน เงินฝากในธนาคารพาณิชย์หรือบัตรเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์เป็นผู้ออก โดยอัตราผลตอบแทนของตราสารอยู่ที่ ประมาณ 3.45 % ยังไม่หักค่าใช่จ่ายในการดำเนินงานของกองทุน
ส่วนกองทุนรวมกรุงไทยตราสารต่างประเทศ 6 เดือน17 มีอายุโครงการ 6 เดือน มูลค่า 3,100 ล้านบาท เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ประเภทตราสารการเงิน ของสถาบันการเงินต่างประเทศ ( Euro Commercial Paper : ECP) ของสถาบันการเงินชั้นนำ ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือระยะสั้น 2 อันดับแรกขึ้นไป โดยภาวะการลงทุนในตราสารการเงินของสถาบันการเงินชั้นนำต่างประเทศให้ผลตอบแทนเมื่อแปลงกลับเป็นสกุลเงินบาทค่อนข้างทรงตัวเมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันการลงทุนใน ECP ระยะ 6 เดือน จะให้ผลตอบแทนประมาณ 4.30% ต่อปีซึ่งยังไม่หักค่าใช้จ่ายในการดำเนินการของกองทุน
ทหารไทยคลอดกองซีรีส์พรีเมี่ยมเพิ่ม
รายงานข่าวจากบลจ.ทหารไทย เปิดเผยว่า บริษัทได้ทำการเสนอขาย กองทุนเปิดทหารไทย พรีเมียร์ 3M11 (TMB Premier Fund 3M11 : TMBPM3M11) โดยกองทุนดังกล่าวมีอายุโครงการ 3 เดือนและมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน มีมูลค่าโครงการอยู่ที่ 5,000 ล้านบาท ซึ่งมีมูลค่าการซื้อขายขั้นต่ำครั้งแรกอยู่ที่ 2,000 บาท ทั้งนี้บริษัทจัดการจะดำเนินการจัดให้มีการรับซื้อคืนหน่วยลงทุน ในอัตราไม่ต่ำกว่า 3.60% และได้ทำการเปิดขายหน่วยลงทุนในวันที่ 2-9 กันยายน 2551
โดยกองทุนเปิดทหารไทย พรีเมียร์ 3M11 เป็นกองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ที่เสนอขายในต่างประเทศ โดยมีมูลค่ารวมกันทั้งสิ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ทั้งนี้บริษัทจัดการจะเน้นลงทุนในตราสารหนี้ที่ออก/ค้ำประกันโดยสถาบันการเงินและบริษัทชั้นดี ที่มีคุณภาพและให้ผลตอบแทนเหมาะสมกับความเสี่ยงโดยส่วนที่เหลือ กองทุนอาจพิจารณาลงทุนในเงินฝาก ตราสารแห่งหนี้ในประเทศที่มีอายุสัญญา อายุของตราสาร หรือระยะเวลาการฝากเงิน ไม่เกิน 1 ปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการสำรองไว้สำหรับการดำเนินงาน รอการลงทุน หรือรักษาสภาพคล่องของกองทุน
ขณะที่กองทุนดังกล่าวอาจทำสัญญาสวอร์ปและ/หครือ สวอร์ปฟอร์เวิร์ดที่อ้างอิงกับอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อป้องกันความเสี่ยง (Hedging)จากอัตราการแลกเปลี่ยน (Foreign Exchange Rate Risk)และอาจมีไว้ซึ่งตราสารที่มีลักษณะสัญญษซื้อขาายล่วงหน้าแฝง(Structured Note)โดยเป็นไปตามหลักเกณฑ์หรือได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการก.ล.ต.
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% มาอยู่ที่ 3.75% ทำให้ปัจจุบันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะ 1-12 เดือน เมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่แล้วปรับตัวเพิ่มขึ้น 6-20 bps.
ทั้งนี้ตลาดส่วนใหญ่มีการคาดการณ์ว่าหลังจากนี้โอกาสที่กนง.จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกในการประชุมครั้งถัดไปมีโอกาสค่อนข้างน้อยแล้ว จึงทำให้คาดว่าอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ระยะสั้นจะทรงตัว แต่สำหรับระยะกลางถึงยาวมีโอกาสปรับตัวลดลง ซึ่งเป็นผลจากการคาดการณ์เงินเฟ้อที่มีแนวโน้มลดลง ขณะที่มีสัญญาณการชะลอตัวทางเศรษฐกิจค่อนข้างชัดเจน
อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงเดินหน้าเปิดจำหน่ายหน่วยลงทุนของกองทุนตราสารหนี้อย่างต่อเนื่อง โดยในระหว่างวันที่ 3-9 กันยายนนี้ บริษัทจะมีการเปิดจำหน่ายหน่วยลงทุนของกองทุนที่ลงทุนทั้งในและต่างประเทศ อีก 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนรวมกรุงไทยตราสารการเงินคุ้มครองเงินต้น48 (KT3M48) และกองทุนรวมกรุงไทยตราสารต่างประเทศ 6 เดือน17 (KTFIF6M17) เพื่อรองรับลูกค้าที่มีกองทุนครบกำหนดอายุโครงการ และเพิ่มทางเลือกในการลงทุน
โดยกองทุนรวมกรุงไทยตราสารการเงินคุ้มครองเงินต้น 48 มีอายุโครงการ 3 เดือน มูลค่า 2,000 ล้านบาท เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในตราสารที่ก่อให้เกิดการคุ้มครองเงินต้น ได้แก่ ตราสารภาครัฐไทย ตั๋วสัญญาใช้เงินหรือบัตรเงินฝากที่บริษัทเงินทุน หรือบริษัทเครดิตฟองซิเอร์เป็นผู้ออกเพื่อการกู้ยืมหรือรับเงินจากประชาชน เงินฝากในธนาคารพาณิชย์หรือบัตรเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์เป็นผู้ออก โดยอัตราผลตอบแทนของตราสารอยู่ที่ ประมาณ 3.45 % ยังไม่หักค่าใช่จ่ายในการดำเนินงานของกองทุน
ส่วนกองทุนรวมกรุงไทยตราสารต่างประเทศ 6 เดือน17 มีอายุโครงการ 6 เดือน มูลค่า 3,100 ล้านบาท เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ประเภทตราสารการเงิน ของสถาบันการเงินต่างประเทศ ( Euro Commercial Paper : ECP) ของสถาบันการเงินชั้นนำ ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือระยะสั้น 2 อันดับแรกขึ้นไป โดยภาวะการลงทุนในตราสารการเงินของสถาบันการเงินชั้นนำต่างประเทศให้ผลตอบแทนเมื่อแปลงกลับเป็นสกุลเงินบาทค่อนข้างทรงตัวเมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันการลงทุนใน ECP ระยะ 6 เดือน จะให้ผลตอบแทนประมาณ 4.30% ต่อปีซึ่งยังไม่หักค่าใช้จ่ายในการดำเนินการของกองทุน
ทหารไทยคลอดกองซีรีส์พรีเมี่ยมเพิ่ม
รายงานข่าวจากบลจ.ทหารไทย เปิดเผยว่า บริษัทได้ทำการเสนอขาย กองทุนเปิดทหารไทย พรีเมียร์ 3M11 (TMB Premier Fund 3M11 : TMBPM3M11) โดยกองทุนดังกล่าวมีอายุโครงการ 3 เดือนและมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน มีมูลค่าโครงการอยู่ที่ 5,000 ล้านบาท ซึ่งมีมูลค่าการซื้อขายขั้นต่ำครั้งแรกอยู่ที่ 2,000 บาท ทั้งนี้บริษัทจัดการจะดำเนินการจัดให้มีการรับซื้อคืนหน่วยลงทุน ในอัตราไม่ต่ำกว่า 3.60% และได้ทำการเปิดขายหน่วยลงทุนในวันที่ 2-9 กันยายน 2551
โดยกองทุนเปิดทหารไทย พรีเมียร์ 3M11 เป็นกองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ที่เสนอขายในต่างประเทศ โดยมีมูลค่ารวมกันทั้งสิ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ทั้งนี้บริษัทจัดการจะเน้นลงทุนในตราสารหนี้ที่ออก/ค้ำประกันโดยสถาบันการเงินและบริษัทชั้นดี ที่มีคุณภาพและให้ผลตอบแทนเหมาะสมกับความเสี่ยงโดยส่วนที่เหลือ กองทุนอาจพิจารณาลงทุนในเงินฝาก ตราสารแห่งหนี้ในประเทศที่มีอายุสัญญา อายุของตราสาร หรือระยะเวลาการฝากเงิน ไม่เกิน 1 ปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการสำรองไว้สำหรับการดำเนินงาน รอการลงทุน หรือรักษาสภาพคล่องของกองทุน
ขณะที่กองทุนดังกล่าวอาจทำสัญญาสวอร์ปและ/หครือ สวอร์ปฟอร์เวิร์ดที่อ้างอิงกับอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อป้องกันความเสี่ยง (Hedging)จากอัตราการแลกเปลี่ยน (Foreign Exchange Rate Risk)และอาจมีไว้ซึ่งตราสารที่มีลักษณะสัญญษซื้อขาายล่วงหน้าแฝง(Structured Note)โดยเป็นไปตามหลักเกณฑ์หรือได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการก.ล.ต.