ทิสโก้โชว์ผลงานกองสตรัคเจอร์โน๊ตสิ้นเดือนเมษา ไชน่าลิ้งค์ ยิลด์บวกเหลือ 13.80% ขณะที่กองเซ็ท 50 ลิ้งค์ฟันด์ใกล้ครบอายุสิ้นเดือนนี้ผลตอบแทนไม่กระเตื่องบวกแค่ 1.48% ขณะเดียวกันเตรียมเลกกองโกลด์ ลิ้งค์ฟันด์ 22 พฤษภาคมนี้ หลังครบกำหนดอายุโครงการ
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทิสโก้ จำกัด ยังเปิดเผยอีกว่า การลงทุนของกองทุนตราสารหนี้จัดโครงสร้าง (Structured note) ของบริษัท 3 กองทุน ณ วันที่ 30 เมษายน 2552 ยังสามารถสร้างผลตอบแทนเป็นบวกอยู่ และมี 2 กองทุนที่ครบกำหนดอายุโครงการแล้วได้แก่ กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า ลิ้งค์ คุ้มครองเงินต้น 2 และกองทุนเปิด ทิสโก้ เจแปน ลิ้งค์ คุ้มครองเงินต้น
สำหรับผลการดำเนินงานกองทุนสตรัคเจอร์โน็ตของบลจ.ทิสโก้ ประกอบด้วย กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า ลิ้งค์ คุ้มครองเงินต้น มีผลตอบแทนสะสมตั้งแต่จัดตั้งกองทุนประมาณ 743 วันอยู่ที่ 13.24% จากการเปลี่ยนแปลงของดัชนี ณ วันที่เริ่มต้นลงทุน 10,361.40 จุด มาอยู่ที่ 9,084.91%จุด น้อยลงกว่าเดือนที่แล้วที่ 13.80% เล็กน้อย โดยกองทุนดังกล่าวเริ่มต้นสัญญาลงทุนตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2550 และจะครบกำหนดอายุโครงการในวันที่ 27 เมษายน 2553
ส่วนกองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า ลิ้งค์ ฟันด์ 3 มีผลผลตอบแทนสะสมตั้งแต่จัดตั้งกองทุนประมาณ 269 วันยังอยู่ที่ 0% โดยดัชนี ณ วันที่เริ่มต้นลงทุนมีการเปลี่ยนแปลงลดลงจาก 12,296.59 จุด เป็น 9,084.91 จุดโดยกองทุนนี้เริ่มต้นสัญญาลงทุนตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม 2551 และจะครบกำหนดอายุโครงการในวันที่ 9 สิงหาคม 2553
ขณะที่ผลการดำเนินงานของกองทุนเปิด ทิสโก้ เซ็ท 50 ลิ้งค์ ฟันด์ มีผลตอบแทนสะสมตั้งแต่จัดตั้งกองทุนประมาณ 554 วันอยู่ที่ 1.48% จากการเปลี่ยนแปลงของดัชนี ณ วันที่เริ่มต้นลงทุน 565.55 จุด เป็น 346.84 จุด น้อยลงกว่าเดือนที่แล้วที่ 1.55% เล็กน้อยโดยกองทุนได้เริ่มต้นสัญญาลงทุนตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม 2550 และจะครบกำหนดอายุโครงการในวันที่ 29 พฤษภาคม 2552
นอกจากนี้ บลจ. ทิสโก้ ยังได้ทำการประกาศเลิกกองทุนเปิด ทิสโก้ โกลด์ ลิ้งค์ ฟันด์ ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2552 เนื่องครบกำหนดอายุโครงการตามที่กำหนดไว้ในหนังสือชี้ชวนโครงการ โดยบลจ.ทิสโก้จะดำเนินการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนทั้งหมดของผู้ถือหน่วยลงทุนแต่ละรายโดยอัตโนมัติในวันที่ 21 พฤษภาคม 2552 และจะจ่ายเงินให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนต่อไปหลังจากนี้
สำหรับบลจ.ทิสโก้นั้นได้ทำการเสนอขายกองทุนให้กับนักลงทุนอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี ทั้งกองทุนตราสารหนี้ในประเทศ และกองทุนหุ้นต่างประเทศ โดยล่าสุดได้ทำการเปิดขายกองทุนเปิด ทิสโก้ โกลด์ ฟันด์ และกองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตรออสเตรเลีย สเปเชี่ยล ฟันด์ ระหว่างวันที่ 18-25 พฤษภาคมนี้
ทั้งนี้ ในปี 2552 บลจ.ทิสโก้ได้ตั้งเป้าการขยายตัวของสินทรัพย์รวมภายใต้การบริหาร(AUM)เอาไว้ที่ 20% โดยในปีที่ผ่านมาพบว่า AUM ของบลจ.ทิสโก้ใอยู่ที่ 106,985 ล้านบาท แบ่งเป็น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 68,525 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 64.1%, กองทุนส่วนบุคคล 23,848 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 22.3% และกองทุนรวม 14,612 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 13.7%
ส่วนการวางเป้าการออกกองทุนช่วงครึ่งปีแรกของบลจ.ทิสโก้ สำหรับกองทุนตราสารหนี้ สเปเชี่ยล พลัสไว้ที่ 12 กอง โดยจะออกประมาณเดือนละ 2 กองทุน ส่วนการออกกองทุนตราสารทุนจะเป็นกองทุนต่างประเทศประเภททาร์เก็ตฟันด์ได้แก่ กองทุนเปิด เอเชีย แปซิฟิก เอ็กซ์ เจแปน ทริกเกอร์ 15% ซึ่งจะทำการเสนอขายให้กับนักลงทุนประมาณเดือนละ 1 กอง
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทิสโก้ จำกัด ยังเปิดเผยอีกว่า การลงทุนของกองทุนตราสารหนี้จัดโครงสร้าง (Structured note) ของบริษัท 3 กองทุน ณ วันที่ 30 เมษายน 2552 ยังสามารถสร้างผลตอบแทนเป็นบวกอยู่ และมี 2 กองทุนที่ครบกำหนดอายุโครงการแล้วได้แก่ กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า ลิ้งค์ คุ้มครองเงินต้น 2 และกองทุนเปิด ทิสโก้ เจแปน ลิ้งค์ คุ้มครองเงินต้น
สำหรับผลการดำเนินงานกองทุนสตรัคเจอร์โน็ตของบลจ.ทิสโก้ ประกอบด้วย กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า ลิ้งค์ คุ้มครองเงินต้น มีผลตอบแทนสะสมตั้งแต่จัดตั้งกองทุนประมาณ 743 วันอยู่ที่ 13.24% จากการเปลี่ยนแปลงของดัชนี ณ วันที่เริ่มต้นลงทุน 10,361.40 จุด มาอยู่ที่ 9,084.91%จุด น้อยลงกว่าเดือนที่แล้วที่ 13.80% เล็กน้อย โดยกองทุนดังกล่าวเริ่มต้นสัญญาลงทุนตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2550 และจะครบกำหนดอายุโครงการในวันที่ 27 เมษายน 2553
ส่วนกองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า ลิ้งค์ ฟันด์ 3 มีผลผลตอบแทนสะสมตั้งแต่จัดตั้งกองทุนประมาณ 269 วันยังอยู่ที่ 0% โดยดัชนี ณ วันที่เริ่มต้นลงทุนมีการเปลี่ยนแปลงลดลงจาก 12,296.59 จุด เป็น 9,084.91 จุดโดยกองทุนนี้เริ่มต้นสัญญาลงทุนตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม 2551 และจะครบกำหนดอายุโครงการในวันที่ 9 สิงหาคม 2553
ขณะที่ผลการดำเนินงานของกองทุนเปิด ทิสโก้ เซ็ท 50 ลิ้งค์ ฟันด์ มีผลตอบแทนสะสมตั้งแต่จัดตั้งกองทุนประมาณ 554 วันอยู่ที่ 1.48% จากการเปลี่ยนแปลงของดัชนี ณ วันที่เริ่มต้นลงทุน 565.55 จุด เป็น 346.84 จุด น้อยลงกว่าเดือนที่แล้วที่ 1.55% เล็กน้อยโดยกองทุนได้เริ่มต้นสัญญาลงทุนตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม 2550 และจะครบกำหนดอายุโครงการในวันที่ 29 พฤษภาคม 2552
นอกจากนี้ บลจ. ทิสโก้ ยังได้ทำการประกาศเลิกกองทุนเปิด ทิสโก้ โกลด์ ลิ้งค์ ฟันด์ ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2552 เนื่องครบกำหนดอายุโครงการตามที่กำหนดไว้ในหนังสือชี้ชวนโครงการ โดยบลจ.ทิสโก้จะดำเนินการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนทั้งหมดของผู้ถือหน่วยลงทุนแต่ละรายโดยอัตโนมัติในวันที่ 21 พฤษภาคม 2552 และจะจ่ายเงินให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนต่อไปหลังจากนี้
สำหรับบลจ.ทิสโก้นั้นได้ทำการเสนอขายกองทุนให้กับนักลงทุนอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี ทั้งกองทุนตราสารหนี้ในประเทศ และกองทุนหุ้นต่างประเทศ โดยล่าสุดได้ทำการเปิดขายกองทุนเปิด ทิสโก้ โกลด์ ฟันด์ และกองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตรออสเตรเลีย สเปเชี่ยล ฟันด์ ระหว่างวันที่ 18-25 พฤษภาคมนี้
ทั้งนี้ ในปี 2552 บลจ.ทิสโก้ได้ตั้งเป้าการขยายตัวของสินทรัพย์รวมภายใต้การบริหาร(AUM)เอาไว้ที่ 20% โดยในปีที่ผ่านมาพบว่า AUM ของบลจ.ทิสโก้ใอยู่ที่ 106,985 ล้านบาท แบ่งเป็น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 68,525 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 64.1%, กองทุนส่วนบุคคล 23,848 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 22.3% และกองทุนรวม 14,612 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 13.7%
ส่วนการวางเป้าการออกกองทุนช่วงครึ่งปีแรกของบลจ.ทิสโก้ สำหรับกองทุนตราสารหนี้ สเปเชี่ยล พลัสไว้ที่ 12 กอง โดยจะออกประมาณเดือนละ 2 กองทุน ส่วนการออกกองทุนตราสารทุนจะเป็นกองทุนต่างประเทศประเภททาร์เก็ตฟันด์ได้แก่ กองทุนเปิด เอเชีย แปซิฟิก เอ็กซ์ เจแปน ทริกเกอร์ 15% ซึ่งจะทำการเสนอขายให้กับนักลงทุนประมาณเดือนละ 1 กอง
