บลจ.บีทีชี้ตลาดหุ้นทั่วโลกรับปัจจัยบวกจากสหรัฐฯ หลังนักลงทุนเชื่อว่าเศรษฐกิจไม่แย่ลงไปกว่านี้ ผู้บริหารเผย ต้นเดือนหน้า เตรียมออกกองทุนอสังหาในประเทศ 1 กองลงทุนในแวร์เฮ้าส์ ขณะเดียวกันยังเดินหน้าออกกองบอนด์ ยุโรปต่อเนื่องถึงสินปี
นายอนุสรณ์ บูรณกานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บีที จำกัด กล่าวถึง ภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศรวมถึงประเทศไทยว่า ตลาดหุ้นในต่างประเทศนั้นกำลังได้รับปัจจัยบวกเข้ามาหลังจากผ่านช่วงไตรมาสแรก ที่เห็นได้ชัดคือ ในส่วนของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ในสหรัฐอเมริกานั้นซึ่งมีข่าวดีออกมา ไม่ว่าจะเป็นกรณีของ บริษัท จีเอ็ม ที่ได้รับอนุมัติเงินช่วยเหลือเพิ่มจากรัฐบาล หรือจะเป็นกรณีที่ บริษัท ฟอร์ด ที่ยังมีตัวเลขมาร์เก็ตแชร์ในตลาดเพิ่มขึ้นอยู่ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้เป็นตัวสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯนั้นจะไม่ยํ่าแย่ลงไปมากกว่านี้อีกแล้ว
ขณะที่ตลาดหุ้นของภูมิภาคเอเชียรวมถึงอาเซียนนั้น ตลาดหุ้นได้ทำการปรับตัวขึ้นมาในช่วงหนึ่งแล้ว โดยเฉพาะประเทศจีนหลังจากที่ประกาศออกมาว่าเศรษฐกิจของจีนในปีนี้จะโตอยู่ที่ 6% ขณะเดียวกันจะเห็นได้ว่าเศรษฐกิจของอาเซียนนั้นไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตที่เกิดขึ้นมากนัก จึงเป็นปัจจัยที่นักลงทุนเกิดความเชื่อมั่นขึ้นมา ส่วนตลาดหุ้นของไทยนั้นจะเห็นได้ว่าได้รับผลกระทบจากเรื่องของการเมืองเป็นหลักส่งผลให้ตลาดไทยยังโตตามหลังตลาดหุ้นในภูมิภาคเดียวกัน อย่างไรก็ตามพื้นฐานแล้วเศรษฐกิจของไทยยังไม่มีข่าวดีออกมามากนัก แต่ในเรื่องของการลงทุนนั้นยังคงมีแรงซื้อจากต่างชาติเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และเชื่อว่าหากไม่มีปัจจัยการเมืองเข้ามาอีกตลาดหุ้นไทยน่าจะดีขึ้นมากกว่ากว่านี้
ด้านผลกระทบที่เกิดขึ้นจากปัญหาในเรื่องของไข้หวักเม็กซิโกขึ้นเรื่องดังกล่าวคงไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นในระยะต่อไปนี้เพราะประเทศต่างๆมีมาตรการป้องกันในเรื่องนี้อย่างเต็มที่ อีกทั้งตลาดหุ้นได้สะท้อนผลกระทบจากเรื่องนี้ออกไปแล้ว
ทั้งนี้ในส่วนของกองทุนหุ้นนั้นทาง บลจ. บีที เองก็ได้ทำการเทขายหุ้นออกมาเมื่อหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น และกลับเข้าซื้อเมื่อหุ้นปรับตัวลดลง โดยหุ้นที่บริษัทเข้าซื้อนั้นจะเป็นหุ้นที่มีสภาพคล่องสูง ไม่ว่าจะเป็นหุ้นในกลุ่มพลังงาน กลุ่มแบงก์ รวมถึงหุ้นในกลุ่มสื่อสารด้วย
นายอนุสรณ์ กล่าวต่อว่า บริษัทได้มีการลงทุนในต่างประเทศอยู่ โดยเข้าลงทุนอยู่ในตราสารหนี้ของประเทศยุโรปซึ่งคํ้าประกันโดยธนาคารกลางของประเทศยุโรปซึ่งให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากในประเทศ โดยทางบริษัทจะออกกองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ของยุโรปนี้อย่างต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี นอกจากนี้จากสถานการณ์เศรษฐกิจที่เริ่มมีแนวโน้มดีขึ้นทางบริษัทได้เตรียมเปิดขายกองทุนอสังหาริมทรัพย์อีก 1 กองทุนซึ่งลงทุนในแวร์เฮ้าส์ในประเทศ ซึ่งจะเปิดขายหน่วยลงทุนในช่วงต้นเดือนมิถุนายนนี้
นายอนุสรณ์ บูรณกานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บีที จำกัด กล่าวถึง ภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศรวมถึงประเทศไทยว่า ตลาดหุ้นในต่างประเทศนั้นกำลังได้รับปัจจัยบวกเข้ามาหลังจากผ่านช่วงไตรมาสแรก ที่เห็นได้ชัดคือ ในส่วนของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ในสหรัฐอเมริกานั้นซึ่งมีข่าวดีออกมา ไม่ว่าจะเป็นกรณีของ บริษัท จีเอ็ม ที่ได้รับอนุมัติเงินช่วยเหลือเพิ่มจากรัฐบาล หรือจะเป็นกรณีที่ บริษัท ฟอร์ด ที่ยังมีตัวเลขมาร์เก็ตแชร์ในตลาดเพิ่มขึ้นอยู่ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้เป็นตัวสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯนั้นจะไม่ยํ่าแย่ลงไปมากกว่านี้อีกแล้ว
ขณะที่ตลาดหุ้นของภูมิภาคเอเชียรวมถึงอาเซียนนั้น ตลาดหุ้นได้ทำการปรับตัวขึ้นมาในช่วงหนึ่งแล้ว โดยเฉพาะประเทศจีนหลังจากที่ประกาศออกมาว่าเศรษฐกิจของจีนในปีนี้จะโตอยู่ที่ 6% ขณะเดียวกันจะเห็นได้ว่าเศรษฐกิจของอาเซียนนั้นไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตที่เกิดขึ้นมากนัก จึงเป็นปัจจัยที่นักลงทุนเกิดความเชื่อมั่นขึ้นมา ส่วนตลาดหุ้นของไทยนั้นจะเห็นได้ว่าได้รับผลกระทบจากเรื่องของการเมืองเป็นหลักส่งผลให้ตลาดไทยยังโตตามหลังตลาดหุ้นในภูมิภาคเดียวกัน อย่างไรก็ตามพื้นฐานแล้วเศรษฐกิจของไทยยังไม่มีข่าวดีออกมามากนัก แต่ในเรื่องของการลงทุนนั้นยังคงมีแรงซื้อจากต่างชาติเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และเชื่อว่าหากไม่มีปัจจัยการเมืองเข้ามาอีกตลาดหุ้นไทยน่าจะดีขึ้นมากกว่ากว่านี้
ด้านผลกระทบที่เกิดขึ้นจากปัญหาในเรื่องของไข้หวักเม็กซิโกขึ้นเรื่องดังกล่าวคงไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นในระยะต่อไปนี้เพราะประเทศต่างๆมีมาตรการป้องกันในเรื่องนี้อย่างเต็มที่ อีกทั้งตลาดหุ้นได้สะท้อนผลกระทบจากเรื่องนี้ออกไปแล้ว
ทั้งนี้ในส่วนของกองทุนหุ้นนั้นทาง บลจ. บีที เองก็ได้ทำการเทขายหุ้นออกมาเมื่อหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น และกลับเข้าซื้อเมื่อหุ้นปรับตัวลดลง โดยหุ้นที่บริษัทเข้าซื้อนั้นจะเป็นหุ้นที่มีสภาพคล่องสูง ไม่ว่าจะเป็นหุ้นในกลุ่มพลังงาน กลุ่มแบงก์ รวมถึงหุ้นในกลุ่มสื่อสารด้วย
นายอนุสรณ์ กล่าวต่อว่า บริษัทได้มีการลงทุนในต่างประเทศอยู่ โดยเข้าลงทุนอยู่ในตราสารหนี้ของประเทศยุโรปซึ่งคํ้าประกันโดยธนาคารกลางของประเทศยุโรปซึ่งให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากในประเทศ โดยทางบริษัทจะออกกองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ของยุโรปนี้อย่างต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี นอกจากนี้จากสถานการณ์เศรษฐกิจที่เริ่มมีแนวโน้มดีขึ้นทางบริษัทได้เตรียมเปิดขายกองทุนอสังหาริมทรัพย์อีก 1 กองทุนซึ่งลงทุนในแวร์เฮ้าส์ในประเทศ ซึ่งจะเปิดขายหน่วยลงทุนในช่วงต้นเดือนมิถุนายนนี้
