xs
xsm
sm
md
lg

SCBAMชงทางเลือกใหม่ลงทุนบอนด์ ลุยเงินฝาก ธ.ลอดช่อง-CLNอิงรบ.ไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ.ไทยพาณิชย์ส่งกองทุนความเสี่ยงต่ำลุยตลาด เปิดขาย "กองทุนเปิดไทยพาณิชย์เอฟดีเอ็น 1Y1" เน้นลงทุนผสม 3 แอสเซท ทั้งเงินฝากของแบงก์ลอดช่อง เครดิตลิงก์โน๊ตที่อ้างอิงกับรัฐบาลไทย และECP เปิดไอพีโอถึง 7 พ.ค.นี้
นางโชติกา สวนานนท์
นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัท อยู่ระหว่างการเสนอขายกองทุนเปิดไทยพาณิชย์เอฟดีเอ็น 1Y1 (SCB Foreign Deposit & Note Fund 1Y1) อายุโครงการ 1 ปี มูลค่ากองทุน 5,000 ล้านบาท สามารถจองซื้อขั้นต่ำ 10,000 บาท ตั้งแต่วันนี้ – 7 พ.ค. 2552

โดยกองทุนดังกล่าวมีนโยบายเน้นลงทุนในเงินฝาก และตราสารหนี้ที่มีคุณภาพชั้นดีที่เสนอขายในต่างประเทศ มีระดับความน่าเชื่อถือ 2 อันดับแรก โดยแบ่งเป็นลงทุนในเงินฝากระยะสั้นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ในประเทศสิงคโปร์ ที่ได้รับการค้ำประกันเงินฝากจากรัฐบาลสิงคโปร์ สัดส่วน 45% ลงทุนใน Credit Linked Note ซึ่งมีหลักทรัพย์อ้างอิงเป็นพันธบัตรรัฐบาลไทยที่เสนอขายในต่างประเทศ สัดส่วน 20-25% และลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ เช่น Euro Commercial paper (ECP) ที่สถาบันการเงินต่างประเทศชั้นนำเป็นผู้ออก ซึ่งอายุของ ECP ที่ออกจำหน่ายตั้งแต่ 7-365 วัน ในสัดส่วน 30-35%

นางโชติกากล่าวว่า สาเหตุผลที่บริษัท เลือกลงทุนในกองทุนเปิดไทยพาณิชย์เอฟดีเอ็น 1Y1 เนื่องจากตราสารมีความมั่นคง และความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ โดยมีระดับความน่าเชื่อถือ 2 อันดับแรก ซึ่งสูงกว่าประเทศไทย และมีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝากในประเทศไทย นอกจากนี้กองทุนดังกล่าวได้ทำการปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งหมดแล้ว โดยจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติเพียงครั้งเดียวเมื่อครบอายุกองทุน และนำเงินลงทุนต่อในกองทุนเปิดไทยพาณิชย์สะสมทรัพย์ตราสารหนี้

ทั้งนี้ การที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ในปัจจุบันมีค่อนข้างต่ำ บริษัทจึงต้องการออกกองทุนนี้มาเพื่อรองรับนักลงทุนที่ต้องการได้ผลตอบแทนที่ดีกว่า โดยคาดว่าจะสามารถออกกองทุนประเภทดังกล่าวได้ประมาณ 2 – 3 กองทุน และมีมูลค่าโครงการละ 5,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นมูลค่าเม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น 15,000 ล้านบาท แต่เชื่อว่าอาจจะสามารถออกได้ประมาณ 30,000 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับจังหวะ และโอกาสในการออกกองทุนด้วย

"กองทุนนี้เหมาะกับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในช่วงระยะเวลาประมาณ 1 ปี และผู้ลงทุนที่ต้องการกระจายการลงทุนไปต่างประเทศ ซึ่งการที่ออกกองทุนยาว 1 ปี เนื่องจากมองว่าสามารถให้ผลตอบแทนได้ในระดับที่น่าสนใจ หากออกกองทุนที่มีอายุโครงการเพียง 9 เดือนหรือน้อยกว่านี้ จะไม่สามารถให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจได้ ขณะเดียวกัน บริษัทจะมองหาตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงต่ำ อาทิ ตราสารหนี้ของภาครัฐในประเทศต่างๆ ทั่วโลก เนื่องจากมองว่าภาวะเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวกลับมา จึงมีการลงทุนอย่างระมัดระวัง หรือลงทุนแบบอนุรักษ์นิยมนั่นเอง"นางโชติกากล่าว

ขณะที่กองทุนที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐของอิตาลี ที่เปิดขายหน่วยลงทุนไปแล้วก่อนหน้านี้ สามารถระดมทุนได้ทั้งสิ้น 10,000 ล้านบาท แต่ในปัจจุบันกองทุนประเภทนี้ไม่สามารถให้ผลตอบแทนในระดับที่น่าสนใจแล้ว โดยผลตอบแทนภายหลังจากการที่สวอปค่าเงินกลับมาได้ผลตอบแทนเพียง 1.05% ต่อปีเท่านั้น ซึ่งไม่คุ้มค่ากับความเสี่ยง และผลตอบแทนยังน้อยกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น