ต้องบอกว่าตอนนี้ กระแสกองทุนต่างประเทศที่ลงทุนในตราสารหนี้ของประเทศเกาหลีใต้ ยังคงแรงต่อเนื่องไม่มีผ่อน แม้จะมีช่วงสูญญากาศไปพักหนึ่งจากความเสี่ยงวิกฤตการเงินโลก แต่กระแสก็กลับมาได้อีกครั้ง ซึ่งประเด็นที่บรรดาบริษัทจัดการกองทุน (บลจ.) หยิบมาเป็นประเด็นที่ใช้จูงใจ ดึงความเชื่อมั่นนักลงทุน เห็นจะเป็นการมีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ (Foreign Reserves) ที่สูงเป็นอันดับ 6 ของโลก ทำให้ความกังวลว่าจะเกิดการผิดชำระหนี้ เป็นไปได้น้อยลง ยิ่งเป็นพันธบัตรรัฐบาล หรือตราสารหนี้ที่ออกได้รัฐวิสาหกิจด้วยแล้ว
อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงที่กล่าวไปข้างต้น เป็นความเสี่ยงที่ไม่มีใครคาดเดาได้ ดังนั้น คนที่ลงทุนอยู่หกรือกำลังจะตัดสินใจลงทุน ต้องสามารถยอมรับความเสี่ยงนี้ด้วย
และเพื่อให้เข้ากับกระแส คอลัมน์ "Mutualfund IPO" วันนี้ ขอเสนอกองทุนต่างประเทศที่ลงทุนในตราสารหนี้ของประเทศเกาหลีอีกครั้ง ซึ่งในช่วงนี้ ผลตอบแทนที่ได้ ยังคงอยู่ในระดับสูง ดึงความสนใจจากผู้ฝากเงินที่ได้ดอกเบี้ยต่ำติดดินได้มากพอสมควร
กองทุนแรกที่อยากจะแนะนำวันนี้ คือ กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี พันธบัตรเกาหลีใต้ 1 หรือ M-Korea 1 ของ บลจ.เอ็มเอฟซี ...กองทุนนี้ เน้นลงทุนในตราสารหนี้ของเกาหลีใต้ ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือของผู้ออกตราสารอยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment grade) เน้นลงทุนในตราสารอายุไม่เกิน 1 ปี และลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และลงทุนในตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note) รวมถึง Credit Linked Note ที่ออกโดยสถาบันการเงินต่างประเทศซึ่งอ้างอิงกับพันธบัตรรัฐบาล
พิชิต อัคราทิตย์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.เอ็มเอฟซี บอกว่า กองทุนเปิด M-Korea1 ออกมาเพื่อเป็นทางเลือกสำหรับนักลงทุนที่สนใจลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ และต้องการโอกาสในการรับผลตอบแทนที่ดีกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร ซึ่งกองทุนนี้ เมื่อครบอายุกองทุน บริษัทจะดำเนินการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนกองทุนเปิด M-Korea 1 และสับเปลี่ยนอัตโนมัติไปยังกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี พันธบัตรตลาดเงิน (MM-GOV) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตลาดเงินที่มีความมั่นคงสูง ที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ โดยตราสารมีอายุไม่เกิน 1 ปี เพื่อสนับสนุนการลงทุนอย่างต่อเนื่องของผู้ถือหน่วยลงทุน ..นักลงทุนที่สนใจ บลจ.เอ็มเอฟซี จะเปิดขายกองทุนนี้ ถึงวันที่ 28 เมษายนนี้เท่านั้น
บลจ.แอสเซท พลัส ก็มีกองทุนเกาหลีออกมาขายเช่นกัน...โดยกำลังอยู่ระหว่างการเสนอขาย กองทุนเปิดแอ็คทีฟเอฟไอเอฟ 2 (ACFIF2) ซึ่งกองทุนนี้ มีรอบการลงทุนแรกประมาณ 6 เดือน ซึ่งลงทุนในตราสารภาครัฐเกาหลีใต้ Export – Import Bank of Korea (KEXIM) 100% มีอายุประมาณ 6 เดือน ทั้งนี้คาดว่าหลังจากหักค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมทั้งค่าการทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงเต็มจำนวนแล้ว จะสามารถสร้างโอกาสรับผลตอบแทน 3.3125%ต่อปี
วิน อุดมรัชตวนิชย์ ผู้จัดการกองทุนอาวุโส บลจ.แอสเซท พลัส ให้ความมั่นใจว่า ประเทศเกาหลีใต้ยังคงมีสภาพคล่องและมีความสามารถในการชำระหนี้อยู่ในระดับดีจากเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ (Foreign Reserves) ที่ยังคงอยู่ในระดับสูง โดย ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2552 มี ทุนสำรองอยู่ที่ 206 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมากเป็นอันดับ 6 ในโลก ภาระหนี้ระยะสั้นสกุลเงินต่างประเทศไม่มากอย่างที่เป็นกังวล
นอกจากนี้ ขนาดเศรษฐกิจของประเทศเกาหลีใต้อยู่ที่ประมาณ 900 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมีขนาดใหญ่ประมาณ 4 เท่าของเศรษฐกิจประเทศไทย ในขณะที่ดุลบัญชีเดินสะพัดเป็นบวก และมีสัดส่วนหนี้สาธารณะต่ำ ทำให้มีความสามารถในการใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่ยืดหยุ่นมากขึ้น จึงมองว่าแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจปัจจุบันนั้นไม่น่าจะมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อความสามารถในการชำระหนี้ของประเทศเกาหลีใต้แต่อย่างใด ทั้งนี้ บลจ.แอสเซท พลัส จะเสนอขายกองทุนดังกล่าว ไปจนถึงวันที่ 30 เมษายนนี้
ธีรพันธุ์ จิตตาลาน กรรมการผู้จัดการ บลจ.นครหลวงไทย ก็ส่ง กองทุนเปิดเอสซีไอ ตราสารหนี้ต่างประเทศ จีไอ 9M1/09 มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาทลุยตลาดด้วยเช่นกัน...ซึ่งกองทุนนี้ มีอายุโครงการประมาณ 9 เดือน และเน้นลงทุนในตราสารหนี้ที่ออกโดย The Export-Import Bank of Korea (KEXIM) ประมาณ 98% ซึ่งมีอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารอยู่ใน 2 อันดับแรก คาดว่ากองทุนจะให้ผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายแล้วโดยประมาณอยู่ที่ 4.00% ต่อปี
เขาบอกว่า การออกกองทุนเกาหลีอายุ 9 เดือนนั้น จะเป็นทางเลือกสำหรับนักลงทุนที่สนใจการลงทุนในประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งส่วนใหญ่ในตลาด ณ ขณะนี้เป็นกองทุนเกาหลีประเภท 1 ปี อย่างไรก็ตาม การลงทุนระยะเวลา 9 เดือน ก็นับว่าเป็นการลงทุนที่มีระยะเวลาที่ไม่สั้นมากเกินไป เพราะแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยอาจจะมีการปรับตัวลงได้อีกเล็กน้อย หรือยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำต่อไปภายในปีนี้ ซึ่งการลงทุนที่ไม่สั้นเกินไปจะทำให้ไม่เสียโอกาสจากภาวะอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำเช่นปัจจุบัน
สนใจกองทุนดังกล่าว บลจ.นครหลวงไทย จะเปิดขายหน่วยลงทุนครั้งแรกถึงวันที่ 28 เมษายน ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 2,000 บาท สำหรับลูกค้าที่เป็นบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษีจากกำไรที่ได้รับ
ต่อด้วย บลจ.กรุงไทย ...ต้องบอกว่าค่ายนี้ มีกองทุนเกาหลีออกมาจำนวนมากที่สุดและต่อเนื่องที่สุดก็ว่าได้ กองทุนล่าสุด คือ กองทุนรวมกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 12เดือน 1 อายุโครงการ 1 ปี มีมูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท โดยกองทุนทจะลงทุนในตราสารหนี้สถาบันการเงินภาครัฐต่างประเทศ ได้แก่ Export – Import Bank of Korea และ Korea Development Bank ซึ่งสถาบันการเงินทั้ง 2 แห่ง รัฐบาลเกาหลีถือหุ้นทั้ง 100 %
กองทุนนี้ คาดการณ์ผลตอบแทนประมาณ 4.60% ต่อปี ซึ่งผลตอบแทนดังกล่าวถือว่าจูงใจกว่าการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลในประเทศ ที่มีอายุใกล้เคียงกัน โดยเงินลงทุนจะมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวนด้วย...สนใจ ซื้อหน่วยลงทุนได้ถึง 28 เมษายนนี้
ปิดท้ายกันด้วย บลจ.ทหารไทย ...แม้จะออกมาช้ากว่าค่ายอื่นบ้าง แต่กองทุนที่ออกไป 4 กองทุนก่อนหน้านี้ ก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ล่าสุด กับกองทันที่ 5 "กองทุนเปิดทหารไทยเกาหลีใต้รุ่น 5" มูลค่า 1,000 ล้านบาท อายุ 1 ปี โดยกองทุนมีนโยบายการลงทุนในพันธบัตรของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าของเกาหลีใต้ทั้งหมดเช่นเดิม ขณะเดียวกันยังมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวนด้วย กองนี้ คาดว่าจะให้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับกองทุนอื่นๆ คือ 4.6% ต่อปี
นักลงทุนท่านใดสนใจกองทุนนี้ บลจ.ทหารไทย จะเปิดขายหน่วยลงทุนครั้งแรก ตั้งแต่วันนี้ (27 เม.ย.) ไปจนถึงวันที่ 4 พฤษภาคมนี้...