xs
xsm
sm
md
lg

SCBAMติดใจกองทุนบอนด์ใหม่ ส่งลงตลาดดูดเม็ดเงินอย่างต่อเนื่อง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

 บลจ.ไทยพาณิชย์ส่งกองทุนเปิดไทยพาณิชย์เอฟดีเอ็น 1Y2 มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท อายุโครงการประมาณ 1 ปี เน้นลงทุนผสม 3 แอสเซท ทั้งเงินฝากของแบงก์ลอดช่อง เครดิตลิงก์โน๊ตที่อ้างอิงกับรัฐบาลไทย และ ECP เปิดไอพีโอถึง 18 พ.ค.นี้
   รายงานจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดขายกองทุนเปิดไทยพาณิชย์เอฟดีเอ็น 1Y2 (SCBFDN1Y2) มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท อายุโครงการประมาณ 1 ปี มีนโยบายเน้นลงทุนในเงินฝาก และตราสารหนี้ที่มีคุณภาพชั้นดีที่เสนอขายในต่างประเทศ มีระดับความน่าเชื่อถือ 2 อันดับแรก  โดยแบ่งเป็นลงทุนในเงินฝากระยะสั้นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ในประเทศสิงคโปร์ ที่ได้รับการค้ำประกันเงินฝากจากรัฐบาลสิงคโปร์ สัดส่วน 45%  ลงทุนใน Credit Linked Note ซึ่งมีหลักทรัพย์อ้างอิงเป็นพันธบัตรรัฐบาลไทยที่เสนอขายในต่างประเทศ สัดส่วน 20-25%  และลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ เช่น Euro Commercial paper (ECP) ที่สถาบันการเงินต่างประเทศชั้นนำเป็นผู้ออก ซึ่งอายุของ ECP ที่ออกจำหน่ายตั้งแต่ 7-365 วัน ในสัดส่วน 30-35% โดยได้เปิดเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) และครั้งเดียวตั้งแต่วันนี้  – 18 พฤษภาคม 2552 และมีมูลค่าเม็ดเงินลงทุนขั้นต่ำที่ 10,000 บาท 

 สำหรับกองทุนเปิดไทยพาณิชย์เอฟดีเอ็น 1Y2 จะลงทุนเงินฝากภาคสถาบันการเงินต่างประเทศ และ/หรือตราสารแห่งหนี้ที่มีคุณภาพและให้ผลตอบแทนที่ดีเหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่เสนอขาย

ในต่างประเทศ อาทิ ตราสารแห่งหนี้ที่ออกโดยภาครัฐและ/หรือรัฐวิสาหกิจ ตราสารแห่งหนี้ภาคเอกชนหรือตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์หรือบริษัทเอกชนชั้นดี ตราสารหนี้ที่ได้รับการจัด อันดับความน่าเชื่อถือจากสถาบันจัดอันดับที่ได้รับการยอมรับจากสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. เป็นต้น โดยอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือของผู้ออกตราสารอยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้  (investment grade) นอกจากนี้ กองทุนอาจลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note) ประเภท Credit Linked Note ที่เสนอขายในต่างประเทศ และ มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงเหตุการณ์ที่มีผลต่อการชำระหนี้ของตราสารภาครัฐไทย ทั้งนี้ กองทุนจะนำเงินไปลงทุนในต่างประเทศเป็นหลัก ไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
 
 ส่วนที่เหลือ บริษัทจัดการอาจพิจารณาลงทุนในเงินฝาก หรือตราสารแห่งหนี้ในประเทศโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสำรองเงินไว้สำหรับการดำเนินงาน รอการลงทุน หรือรักษาสภาพคล่อง การลงทุนใน ตราสารหนี้ดังกล่าวข้างต้นอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์ที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. และธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด ตลอดจนหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นอย่างใด อย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง ตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.ประกาศกำหนดหรือให้ความเห็นชอบ

 ทั้งนี้ กองทุนจะ เข้าทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยง (Hedging) จากอัตราแลกเปลี่ยน (Foreign Exchange Rate Risk) เช่น การทำสัญญาสวอ ปและ/หรือสัญญาฟอร์เวิร์ดที่อ้างอิงกับอัตราแลกเปลี่ยน เป็นต้น โดยกองทุนจะไม่ลงทุนในตราสารหนี้ที่มีลักษณะสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note) รวมถึงตราสารหนี้ที่มีอันดับความ น่าเชื่อถือต่ำกว่าที่สามารถลงทุนได้ (non – investment grade) และตราสารหนี้ที่ไม่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Unrated Securities)

 อนึ่ง กองทุนอาจมีไว้ซึ่งตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าที่สามารถลงทุนได้ (non – investment grade) เฉพาะกรณีที่ตราสารหนี้นั้นได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่สามารถลงทุนได้  (Investment grade)
 ขณะที่กองทุนลงทุนเท่านั้นก่อนหน้านี้ นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บลจ.ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ขณะนี้บริษัท อยู่ระหว่างการเสนอขายกองทุนเปิดไทยพาณิชย์เอฟดีเอ็น 1Y1 (SCB Foreign Deposit & Note Fund 1Y1) อายุโครงการ 1 ปี มูลค่ากองทุน 5,000 ล้านบาท สามารถจองซื้อขั้นต่ำ 10,000 บาท ตั้งแต่วันนี้ – 7 พ.ค. 2552

 โดยกองทุนดังกล่าวมีนโยบายเน้นลงทุนในเงินฝาก และตราสารหนี้ที่มีคุณภาพชั้นดีที่เสนอขายในต่างประเทศ มีระดับความน่าเชื่อถือ 2 อันดับแรก โดยแบ่งเป็นลงทุนในเงินฝากระยะสั้นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ในประเทศสิงคโปร์ ที่ได้รับการค้ำประกันเงินฝากจากรัฐบาลสิงคโปร์ สัดส่วน 45% ลงทุนใน Credit Linked Note ซึ่งมีหลักทรัพย์อ้างอิงเป็นพันธบัตรรัฐบาลไทยที่เสนอขายในต่างประเทศ สัดส่วน 20-25% และลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ เช่น Euro Commercial paper (ECP) ที่สถาบันการเงินต่างประเทศชั้นนำเป็นผู้ออก ซึ่งอายุของ ECP ที่ออกจำหน่ายตั้งแต่ 7-365 วัน ในสัดส่วน 30-35%

 นางโชติกา กล่าวว่า สาเหตุผลที่บริษัทเลือกลงทุนในกองทุนเปิดไทยพาณิชย์เอฟดีเอ็น 1Y1 เนื่องจากตราสารมีความมั่นคง และความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ โดยมีระดับความน่าเชื่อถือ 2 อันดับแรก ซึ่งสูงกว่าประเทศไทย และมีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝากในประเทศไทย นอกจากนี้กองทุนดังกล่าวได้ทำการปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งหมดแล้ว โดยจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติเพียงครั้งเดียวเมื่อครบอายุกองทุน และนำเงินลงทุนต่อในกองทุนเปิดไทยพาณิชย์สะสมทรัพย์ตราสารหนี้

 ทั้งนี้ การที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ในปัจจุบันมีค่อนข้างต่ำ บริษัทจึงต้องการออกกองทุนนี้มาเพื่อรองรับนักลงทุนที่ต้องการได้ผลตอบแทนที่ดีกว่า โดยคาดว่าจะสามารถออกกองทุนประเภทดังกล่าวได้ประมาณ 2 – 3 กองทุน และมีมูลค่าโครงการละ 5,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นมูลค่าเม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น 15,000 ล้านบาท แต่เชื่อว่าอาจจะสามารถออกได้ประมาณ 30,000 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับจังหวะ และโอกาสในการออกกองทุนด้วย

 "กองทุนนี้เหมาะกับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในช่วงระยะเวลาประมาณ 1 ปี และผู้ลงทุนที่ต้องการกระจายการลงทุนไปต่างประเทศ ซึ่งการที่ออกกองทุนยาว 1 ปี เนื่องจากมองว่าสามารถให้ผลตอบแทนได้ในระดับที่น่าสนใจ หากออกกองทุนที่มีอายุโครงการเพียง 9 เดือนหรือน้อยกว่านี้ จะไม่สามารถให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจได้ ขณะเดียวกัน บริษัทจะมองหาตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงต่ำ อาทิ ตราสารหนี้ของภาครัฐในประเทศต่างๆ ทั่วโลก เนื่องจากมองว่าภาวะเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวกลับมา จึงมีการลงทุนอย่างระมัดระวัง หรือลงทุนแบบอนุรักษ์นิยมนั่นเอง" นางโชติกา กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น