การฝากเงินกับธนาคารพาณิชย์ในตอนนี้ ดูจะเป็นทางเลือกที่ไม่น่าสนใจไปเสียแล้ว โดยอัตราดอกเบี้ยที่ได้ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะฝากแบบประจำ 3 เดือน 6 เดือน แม้กระทั่งแบบ 12 เดือนก็ยังไม่จูงใจ ดังนั้น การมองหาช่องทางลงทุนใหม่ๆ ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าจึงน่าตอบโจทย์เอาชนะความผัวผวนต่างๆ นานา ที่เกิดขึ้นตอนนี้ได้
ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา การออกไปลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ ต้องบอกว่าได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะพันธบัตรเกาหลีใต้ และอิตาลี ซึ่งล้วนแล้วแต่ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าในประเทศทั้งนั้น...แต่ด้วยความเสี่ยงที่ประเมินลำบาก ทำให้การลงทุนต้องสรรหาแอสเซท ที่มั่งคงปลอยภัยที่สุด
ล่าสุด บลจ.ทหารไทย โดย "โชติกา สวนานนท์" เข็นกองทุนใหม่ออกมาเป็นทางเลือกให้กับนักลงทุน ด้วยการผสมผสามการลงทุนใน 3 แอสเซทเข้าด้วยกัน ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไรนั้น คอลัมน์ "Mutualfund IPO" มีรายละเอียดมาฝากกัน
สำหรับกองทุนเปิดไทยพาณิชย์เอฟดีเอ็น 1Y1 มีมูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท อายุโครงการประมาณ 1 ปี ซึ่งมีนโยบายเน้นลงทุนในเงินฝาก และตราสารหนี้ที่มีคุณภาพชั้นดีที่เสนอขายในต่างประเทศ มีระดับความน่าเชื่อถือ 2 อันดับแรก โดยแบ่งเป็นลงทุนในเงินฝากระยะสั้นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ในประเทศสิงคโปร์ ที่ได้รับการค้ำประกันเงินฝากจากรัฐบาลสิงคโปร์ สัดส่วน 45% ลงทุนในCredit Linked Note ซึ่งมีหลักทรัพย์อ้างอิงเป็นพันธบัตรรัฐบาลไทยที่เสนอขายในต่างประเทศ สัดส่วน 20-25% และลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ เช่น Euro Commercial paper (ECP) ที่สถาบันการเงินต่างประเทศชั้นนำเป็นผู้ออก ซึ่งอายุของ ECP ที่ออกจำหน่ายตั้งแต่ 7-365 วัน ในสัดส่วน 30-35%
สำหรับการจัดสัดส่วนการลงทุนของกองทุนนี้ โชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บลจ.ไทยพาณิชย์ บอกว่า การลงทุนในเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ของประเทศสิงคโปร์ประมาณ 45% นั้น เนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดทรัพย์ (ก.ล.ต.) อนุญาตให้ลงทุนได้เพียงเท่านั้น และเงินฝากดังกล่าวยังมีรัฐบาลสิงคโปร์เป็นผู้ค้ำประกันด้วย จึงทำให้มีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ
ส่วน 55% ที่ลงทุนในตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝงประเภท Credit Linked Note ของธนาคารพาณิชย์ในต่างประเทศที่มีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับสูง เป็นตราสารที่มีอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ AA และ AAA เป็นหลัก อาทิ ธนาคารกลางยุโรป และธนาคารเพื่อการลงทุนยุโรป โดยจะมีจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงเหตุการณ์ที่มีผลต่อการชำระหนี้ของตราสารภาครัฐไทย ซึ่งอันดับความน่าเชื่อถือของรัฐบาลไทยนับว่าต่ำที่สุดหากเปรียบเทียบกับตราสารที่เข้าไปลงทุน ดังนั้น หากจะมีความเสี่ยงคงอยู่ที่รัฐบาลไทยนั่นเอง
"อัตราดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ในปัจจุบันมีค่อนข้างต่ำ บริษัทจึงต้องการออกกองทุนนี้มาเพื่อรองรับนักลงทุนที่ต้องการได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่า และกองทุนนี้ ได้ทำการปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งหมดแล้ว โดยจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติเพียงครั้งเดียวเมื่อครบอายุกองทุน และนำเงินลงทุนต่อในกองทุนเปิดไทยพาณิชย์สะสมทรัพย์ตราสารหนี้"
"โชติกา" บอกด้วยว่า สาเหตุที่ออกกองทุนประเภทดังกล่าวที่มีอายุโครงการ 1 ปี เนื่องจากสามารถให้ผลตอบแทนได้ในระดับที่น่าสนใจ หากออกกองทุนที่มีอายุโครงการเพียง 9 เดือนหรือน้อยกว่านี้ จะไม่สามารถให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจได้ ขณะเดียวกัน บริษัทจะมองหาตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงต่ำ อาทิ ตราสารหนี้ของภาครัฐในประเทศต่างๆ ทั่วโลก เนื่องจากมองว่าภาวะเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวกลับมา จึงมีการลงทุนอย่างระมัดระวัง หรือลงทุนแบบอนุรักษ์นิยมนั่นเอง
....สำหรับรายละเอียดของกองทุนเปิดไทยพาณิชย์เอฟดีเอ็น 1Y1 จะเน้นลงทุนเงินฝากภาคสถาบันการเงินต่างประเทศ และ/หรือตราสารแห่งหนี้ที่มีคุณภาพและให้ผลตอบแทนที่ดีเหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่เสนอขายในต่างประเทศ อาทิ ตราสารแห่งหนี้ที่ออกโดยภาครัฐและ/หรือรัฐวิสาหกิจ ตราสารแห่งหนี้ภาคเอกชนหรือตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์หรือบริษัทเอกชนชั้นดี ตราสารหนี้ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากสถาบันจัดอันดับที่ได้รับการยอมรับจากสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. เป็นต้น โดยอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือของผู้ออกตราสารอยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (investment grade) นอกจากนี้ กองทุนอาจลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note) ประเภท Credit Linked Note ที่เสนอขายในต่างประเทศ และมีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงเหตุการณ์ที่มีผลต่อการชำระหนี้ของตราสารภาครัฐไทย ทั้งนี้ กองทุนจะนำเงินไปลงทุนในต่างประเทศเป็นหลัก ไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
ส่วนที่เหลือ บริษัทจัดการอาจพิจารณาลงทุนในเงินฝาก หรือตราสารแห่งหนี้ในประเทศโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสำรองเงินไว้สำหรับการดำเนินงาน รอการลงทุน หรือรักษาสภาพคล่อง การลงทุนในตราสารหนี้ดังกล่าวข้างต้นอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์ที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. และธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด ตลอดจนหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง ตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.ประกาศกำหนดหรือให้ความเห็นชอบ
ทั้งนี้ กองทุนจะ เข้าทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยง (Hedging) จากอัตราแลกเปลี่ยน (Foreign Exchange Rate Risk) เช่น การทำสัญญาสวอปและ/หรือสัญญาฟอร์เวิร์ดที่อ้างอิงกับอัตราแลกเปลี่ยน เป็นต้น โดยกองทุนจะไม่ลงทุนในตราสารหนี้ที่มีลักษณะสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note) รวมถึงตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าที่สามารถลงทุนได้ (non – investment grade) และตราสารหนี้ที่ไม่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Unrated Securities)
...นักลงทุนท่านใดที่สนใจกองทุนเปิดไทยพาณิชย์เอฟดีเอ็น 1Y1 ...บลจ.ไทยพาณิชย์จะเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) และครั้งเดียวตั้งแต่วันนี้ – 7 พฤษภาคม 2552 ด้วยเม็ดเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 10,000 บาท...สอบถามและติดต่อจองซื้อหน่วยลงทุนได้ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ทุกสาขา หรือ บลจ.ไทยพาณิชย์ จำกัด โทร. 0-2626-2222 ต่อ 88 หรือที่เว็บไซต์ www.scbam.com...