บลจ.นครหลวงไทย เดินหน้าขายกองทุนตราสารหนี้เกาหลีใต้ เปิดขายพร้อมกัน 2 กองทุน เลือกลงทุนได้ทั้ง 6 เดือนและ 12 เดือน คาดให้ผลตอบแทนประมาณ 3.3% และ 4.4% ต่อปีตามลำดับ ระบุบอนด์เกาหลีใต้กลับมาเนื้อหอมอีกครั้ง เหตุยังมีอันดับความน่าเชื่อถือ และดอกเบี้ยสูงกว่าไทย ย้ำปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งหมดแล้ว เปิดขายไอพี 25 – 31 มีนาคมนี้
นายธีรพันธุ์ จิตตาลาน กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) นครหลวงไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเปิดเสนอขายกองทุนกองทุนตราสารหนี้ใหม่ 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดเอสซีไอ ตราสารหนี้ต่างประเทศจีไอ 12M6/09 (SCI International Fixed Income Fund GI 12M6/09 : SCI INGI12M6/09) มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท และมีอายุโครงการประมาณ 12 เดือน เป็นกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น FIF ที่ออกโดย The Export-Import Bank of Korea (KEXIM) ประมาณ 95% ซึ่งมีอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารอยู่ใน 2 อันดับแรก และส่วนที่เหลือจะลงทุนในเงินฝากธนาคารพาณิชย์ โดยประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายแล้วอยู่ที่ 4.40% ต่อปี
.
ขณะที่กองทุนเปิดเอสซีไอ ตราสารหนี้ต่างประเทศ จีไอ 6M4/09 (SCI International Fixed Income Fund GI 6M4/09 : SCI INGI6M4/09) มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท และมีอายุโครงการประมาณ 6 เดือน เป็นกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น FIF ลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นที่ออกโดย The Export-Import Bank of Korea (KEXIM) ประมาณ 95% และส่วนที่เหลือจะลงทุนในเงินฝากธนาคารเช่นเดียวกัน โดยประมาณการผลตอบแทนอยู่ที่ 3.30% ต่อปี เพื่อเป็นทางเลือกแก่นักลงทุนในภาวะดอกเบี้ยขาลง และต้องการได้รับผลตอบแทนมากกว่าการลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศ
สำหรับกองทุนทั้งสองโครงการจะเปิดเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) และครั้งเดียวพร้อมกันตั้งแต่วันที่ 25 – 31 มีนาคม 2552 นี้ และมีมูลค่าเม็ดเงินลงทุนขั้นต่ำของกองทุนเพียง 2,000 บาท ราคา 10 บาทต่อหน่วยลงทุน ซึ่งลูกค้าที่เป็นบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษีจากกำไรที่ได้รับ
ทั้งนี้ การลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐหรือรัฐวิสาหกิจของประเทศเกาหลีใต้กลับมาได้รับความสนใจจากนักลงทุนในปัจจุบันค่อนข้างมากเนื่องจากประเทศเกาหลีใต้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) ของประเทศสูงกว่าประเทศไทย แต่มีระดับอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าประเทศไทยเรา โดยประเทศเกาหลีใต้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ A- และประเทศไทยได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ BBB จึงทำให้นักลงทุนกลับมาให้ความสนใจในการลงทุนในประเทศเกาหลีใต้อีกครั้ง
นอกจากนี้ การลงทุนในกองทุนของ บลจ. นครหลวงไทยเป็นการลงทุนในรูปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯไม่ใช่เงินวอน ดังนั้น หากค่าเงินวอนเปลี่ยนแปลงหรือแข็งค่าขึ้นก็จะไม่มีผลกระทบต่อการลงทุน นอกจากนี้ นักลงทุนที่กังวลกับปัญหาการชำระคืนหนี้คืนเป็นสกุลเงินดอลล่าห์สหรัฐเมื่อครบกำหนดอายุของตราสารนั้น ที่ผ่านมารัฐบาลประเทศเกาหลีใต้ได้เปิด swap line กับหลายประเทศ เช่น ประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศญี่ปุ่น ที่สำคัญกองทุนของ บลจ.นครหลวงไทย ได้ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน ผู้ลงทุนในกองทุนจึงไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนแต่อย่างใด
นายธีรพันธุ์ จิตตาลาน กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) นครหลวงไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเปิดเสนอขายกองทุนกองทุนตราสารหนี้ใหม่ 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดเอสซีไอ ตราสารหนี้ต่างประเทศจีไอ 12M6/09 (SCI International Fixed Income Fund GI 12M6/09 : SCI INGI12M6/09) มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท และมีอายุโครงการประมาณ 12 เดือน เป็นกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น FIF ที่ออกโดย The Export-Import Bank of Korea (KEXIM) ประมาณ 95% ซึ่งมีอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารอยู่ใน 2 อันดับแรก และส่วนที่เหลือจะลงทุนในเงินฝากธนาคารพาณิชย์ โดยประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายแล้วอยู่ที่ 4.40% ต่อปี
.
ขณะที่กองทุนเปิดเอสซีไอ ตราสารหนี้ต่างประเทศ จีไอ 6M4/09 (SCI International Fixed Income Fund GI 6M4/09 : SCI INGI6M4/09) มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท และมีอายุโครงการประมาณ 6 เดือน เป็นกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น FIF ลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นที่ออกโดย The Export-Import Bank of Korea (KEXIM) ประมาณ 95% และส่วนที่เหลือจะลงทุนในเงินฝากธนาคารเช่นเดียวกัน โดยประมาณการผลตอบแทนอยู่ที่ 3.30% ต่อปี เพื่อเป็นทางเลือกแก่นักลงทุนในภาวะดอกเบี้ยขาลง และต้องการได้รับผลตอบแทนมากกว่าการลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศ
สำหรับกองทุนทั้งสองโครงการจะเปิดเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) และครั้งเดียวพร้อมกันตั้งแต่วันที่ 25 – 31 มีนาคม 2552 นี้ และมีมูลค่าเม็ดเงินลงทุนขั้นต่ำของกองทุนเพียง 2,000 บาท ราคา 10 บาทต่อหน่วยลงทุน ซึ่งลูกค้าที่เป็นบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษีจากกำไรที่ได้รับ
ทั้งนี้ การลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐหรือรัฐวิสาหกิจของประเทศเกาหลีใต้กลับมาได้รับความสนใจจากนักลงทุนในปัจจุบันค่อนข้างมากเนื่องจากประเทศเกาหลีใต้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) ของประเทศสูงกว่าประเทศไทย แต่มีระดับอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าประเทศไทยเรา โดยประเทศเกาหลีใต้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ A- และประเทศไทยได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ BBB จึงทำให้นักลงทุนกลับมาให้ความสนใจในการลงทุนในประเทศเกาหลีใต้อีกครั้ง
นอกจากนี้ การลงทุนในกองทุนของ บลจ. นครหลวงไทยเป็นการลงทุนในรูปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯไม่ใช่เงินวอน ดังนั้น หากค่าเงินวอนเปลี่ยนแปลงหรือแข็งค่าขึ้นก็จะไม่มีผลกระทบต่อการลงทุน นอกจากนี้ นักลงทุนที่กังวลกับปัญหาการชำระคืนหนี้คืนเป็นสกุลเงินดอลล่าห์สหรัฐเมื่อครบกำหนดอายุของตราสารนั้น ที่ผ่านมารัฐบาลประเทศเกาหลีใต้ได้เปิด swap line กับหลายประเทศ เช่น ประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศญี่ปุ่น ที่สำคัญกองทุนของ บลจ.นครหลวงไทย ได้ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน ผู้ลงทุนในกองทุนจึงไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนแต่อย่างใด
