xs
xsm
sm
md
lg

KTAMขายบอนด์กิมจิให้ยิลด์4.75%เน้นลงทุนตราสารภาครัฐอายุ12เดือน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สมชัย บุญนำศิริ
ASTVผู้จัดการรายวัน – บลจ.กรุงไทย ส่งกองทุนตราสารภาครัฐเกาหลีใต้ อายุ 12 เดือน เปิดไอพีโอ 17 -23 มี.คนี้ ชูผลตอบแทนที่ 4.75 %ต่อปี พร้อมส่งกองทุนโรลโอเวอร์ 1 กองทุน ขณะที่ บลจ.นครหลวงไทยลุยเข็นกองทุนใหม่ 4 กองรวด เน้นลงทุนในตราสารหนี้ของประเทศเกาหลีใต้ เปิดไอพีโอ 18 – 24 มี.ค.นี้
 
 นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเปิดจำหน่ายกองทุนรวมกรุงไทยตราสารภาครัฐต่างประเทศ 12 เดือน 4  (KTGF12M4 ) ในระหว่างวันที่ 17-23 มีนาคม 2552 อายุโครงการ 1 ปี มูลค่า 3,000 ล้านบาท เป็นกองทุนที่เน้นการลงทุนในตราสารการเงินในประเทศเกาหลีใต้ ประเภท Euro  Commercial Paper  (ECP)  /Euro Medium Term Note (EMTN) ที่ออกโดยสถาบันการเงินภาครัฐของประเทศเกาหลีใต้   ซึ่งเป็นตราสารที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระยะสั้นในอันดับสูงสุด คือ A1 โดย  S&P    และ F1   โดย  Fitch
                โดยกองทุนจะลงทุนใน Export - Import  Bank of  Korea และ Korea  Development  Bank ในสัดส่วนสถาบันการเงินละ 50 % ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่งผลให้กองทุนได้รับผลตอบแทนประมาณการที่ 4.75 %ต่อปี ซึ่งเป็นอัตราผลตอบแทนที่หักค่าใช้จ่ายในการดำเนินการแล้ว รวมถึงเงินลงทุนจะมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน จึง เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนที่สูงกว่า การลงทุนตราสารหนี้ในประเทศที่มีระดับความเสี่ยงใกล้เคียงกัน
นายสมชัย กล่าวต่อไปว่า สถาบันการเงินทั้ง 2  แห่ง ที่กองทุนลงทุนจัดตั้งขึ้นตามกฎหมายเฉพาะ เป็นกลไกที่สำคัญของรัฐบาลเกาหลีใต้ในการดำเนินนโยบายต่างๆ (Policy Bank)  โดยปัจจุบันรัฐบาลเกาหลีใต้ถือหุ้นใน Export - Import  Bank of  Korea และ Korea  Development  Bank ทั้ง100%
 นอกจากนี้  บริษัทยังได้เปิดซื้อขายหน่วยลงทุนกองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ท  อินเวส 3 เดือน 3 (KTSIV3M3)  ประเภท Roll  Over โดยรับคำสั่งซื้อหน่วยลงทุนในวันที่ 16-20  มีนาคม 2552 และรับคำสั่งขายคืนหน่วยลงทุนในวันที่ 16-19  มีนาคม 2552 เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชนภายในประเทศ ที่มีความมั่นคงสูง และเงินฝากสถาบันการเงิน อายุโครงการ3 เดือน มูลค่า 2,000 ล้านบาท
 โดยกองทุนจะลงทุนในเงินฝาก /บัตรเงินฝาก/ตั๋วแลกเงิน ของธนาคารสินเอเชีย และลงทุนในหุ้นกู้ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด  ในสัดส่วนสถาบันละ 25% ลงทุนในตั๋วแลกเงินของบมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม และบมจ.ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น ในสัดส่วนสถาบันละ 25% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม ส่งผลให้กองทุนได้รับผลตอบแทนประมาณการที่ 1.35% ต่อปี
 นายสมชัย กล่าวต่อไปว่า อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ภาครัฐในประเทศรุ่นอายุไม่เกิน 1 ปี ยังแกว่งตัวอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากคาดการณ์ว่า แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายมีโอกาสปรับลดลงอีก ขณะที่ความต้องการลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐระยะสั้นยังมีอยู่สูงจากทั้งฝั่งกองทุนรวมและธนาคาร โดยล่าสุด อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทยอยู่ในช่วง 1.05-1.12% ตามลำดับ
 สำหรับผลตอบแทนจากการลงทุนตราสารภาคเอกชนในประเทศจะขึ้นอยู่กับความมั่นคงทางการเงิน การคาดการณ์กระแสเงินสดของกิจการ และอันดับความน่าเชื่อถือ โดยอัตราผลตอบแทนของผู้ออกตราสารหลายแห่งยังคงอยู่ในระดับสูงโดยได้สะท้อนถึงความเสี่ยงด้านเครดิต (Down Grade and Default Risk) 
ด้านรายข่าวจาก บลจ.นครหลวงไทย เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดขายกองทุนใหม่จำนวน 4 กองทุน โดยเบื้องต้นเป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในตราสราหนี้ของประเทศเกาหลีใต้ทั้งหมด โดยจะมีอายุโครงการให้เลือกลงทุนทั้ง 3 เดือน 6 เดือน 9 เดือน และ 12 เดือนตามาลำดับ โดยยังอยู่ในระหว่างการขออนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) โดยคาดว่าจะเปิดขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) และครั้งเดียวได้ในระหว่างวันที่ 18 – 24 มีนาคม 2552 และมีมูลค่าเม็ดเงินลงทุนขั้นต่ำ 2,000 บาท
 ขณะเดียวกัน บลจ.นครหลวงไทยยังอยู่ในระหว่างการเปิดขายกองทุนตราสารหนี้ใหม่ 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดเอสซีไอ ฟิกซ์เทอม เอเอฟ 3M2/09 (SCI FTAF3M2/09) และกองทุนเปิดเอสซีไอ ตราสารหนี้ต่างประเทศ จีไอ 12M3/09 (SCI INGI12M3/09) โดยได้เปิดขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) และครั้งเดียวในระหว่างวันที่ 11-17 มีนาคม 2552
 สำหรับกองทุนFTAF3M2/09 มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท และมีอายุโครงการประมาณ 3 เดือน โดยจะเน้นลงทุน ใน Euro Commercial Paper (ECP) ของ The Export-Import Bank of Korea (KEXIM) ประมาณ 75% ซึ่งมีอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารอยู่ใน 2 อันดับแรก และส่วนที่เหลือจะลงทุนในตั๋วแลกเงินที่ออกโดยบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โดยประมาณการผลตอบแทน 2.75% ต่อปี ส่วนกองทุนINGI12M3/09 มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท และมีอายุโครงการประมาณ 12 เดือน ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ FIFลงทุน ใน Euro Commercial Paper (ECP) ของ The Export-Import Bank of Korea (KEXIM) เกือบทั้งหมด ประมาณการผลตอบแทน 4.40% ต่อปี ทั้ง 2 กองทุน ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน
กำลังโหลดความคิดเห็น