บลจ.พรีมาเวสท์สุดปลื้มนักลงทุนแห่ซื้อกองทุนตราสารหนี้เกลี้ยงทั้ง 2 กอง ระดมเงินได้กว่า 1,200 ล้านบาท ขณะเดียวกันเปิดขายอีกกองต่อเนื่อง”พรีมาเวสท์ตราสารหนี้ ออโต้ โบนัส” เปิดช่องลูกค้ารับผลตอบแทนเพิ่มทุก 6 เดือน จากอายุโครงการประมาณ 2 ปี
นางสาวศรีเนตร ฤทธิรงค์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม พรีมาเวสท์ จำกัด บริษัทฯ ในเครือธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากที่พรีมาเวสท์ส่ง 2 กองทุนตราสารหนี้ ออกมาเสนอขายแก่ผู้ลงทุน ปรากฏว่าได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุนเป็นอย่างดี ส่งผลให้มียอดจองซื้อหน่วยลงทุนเข้ามามากมายจนล้นเต็มมูลค่าโครงการทั้ง 2 กองทุน และสามารถระดมเงินลงทุนรวมกันได้กว่า1,200 ล้านบาท
ทั้งนี้ กองทุนตราสารหนี้ภาคเอกชนระยะสั้น กองทุนเปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์ ฟิกซ์ อินคัม 6M 1 หรือ KPF6M1 ได้นำออกมาเสนอขายระหว่างวันที่ 17-24 มีนาคมที่ผ่านมา ส่วนอีกกองทุนเป็นกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ กองทุนเปิดพรีมาเวสท์ อินเตอร์เนชั่นแนล อินเวสท์เม้นท์ ฟันด์ 6M หรือ PIF6M ที่มีนโยบายเน้นลงทุนในตราสารหนี้ของรัฐวิสาหกิจของประเทศเกาหลีใต้ โดยนำออกมาเสนอขายระหว่างวันที่ 23-30 มีนาคม โดยหลังจากที่ทั้ง 2 กองทุนนี้ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน ทำให้หลังจากนี้บริษัทจึงเตรียมทยอยส่งกองทุนใหม่ๆ ออกมา เพื่อเติมเต็มความต้องการของผู้ลงทุนอย่างต่อเนื่อง
นางสาวศรีเนตร กล่าวอีกว่า ในช่วงนี้พรีมาเวสท์ยังคงเดินหน้าเสนอขายหน่วยลงทุนกองทุนตราสารหนี้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากยังมีกระแสความนิยมในกองทุนประเภทนี้อยู่มาก โดยในสัปดาห์นี้ก็มีกองทุนใหม่ที่นำออกมาเสนอขายต่อเนื่องทันที เพื่อเป็นทางเลือกแก่ผู้ลงทุน คือ กองทุนเปิดพรีมาเวสท์ตราสารหนี้ ออโต้ โบนัส หรือ PFA ซึ่งเป็นกองทุนที่ให้โอกาสผู้ลงทุนได้รับผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นทุกๆ 6 เดือน โดยกองทุน PFA นี้มีอายุโครงการประมาณ 2 ปี 5 เดือน เสนอขายแล้วตั้งแต่วันที่ 25-31 มีนาคมนี้
"เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ลงทุนในช่วงที่ดอกเบี้ยอยู่ในภาวะขาลง เพราะกองทุนนี้สามารถให้ผลตอบแทนได้ในเกณฑ์ดีและสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก หรือผลตอบแทนที่ได้จากพันธบัตรรัฐบาลไทย อีกทั้งจากการคาดการณ์กันว่า กนง. จะปรับดอกเบี้ยลดลงอีกในปีนี้ ซึ่งหากเป็นดังนั้นผู้ลงทุนก็จะหาการลงทุนที่สามารถให้ผลตอบแทนที่ดีแบบนี้ได้ยากขึ้น ดังนั้นกองทุนนี้ จึงน่าจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนเป็นอย่างดี”นางสาวศรีเนตรกล่าว
อนึ่ง เป้าหมายของบลจ.พรีมาเวสท์ในปีนี้ นางสาวศรีเนตร ฤทธิรงค์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) พรีมาเวสท์ จำกัด ได้เคยเปิดเผยว่า จะพยายามขยายสินทรัพย์ภายใต้การบริหารสำหรับธุรกิจกองทุนรวมเพิ่มขึ้นประมาณ 60% หรือคิดเป็นจำนวนเงินที่เพิ่มขึ่น 6,000 ล้านบาท จากสินทรัพย์รวมประมาณ 1.1 หมื่นล้านบาทในปีที่ผ่านมา ซึ่งหากเป็นไปตามเป้า จะทำให้สินทรัพย์ทั้งปีนี้ขยบัขึ้นไปอยู่ที่ 1.8 หมื่นล้านบาท
สำหรับกองทุนที่บลจ.พรีมาเวสท์วางแผนจะนำเสนอให้กับนักลงทุนในปีนี้ จะทยอยเปิดขายเดือนละ 1 กองทุนรวมทั้งสิ้น 12 กองทุน ประกอบด้วยกองทุนตราสารหนี้ ที่ลงทุนทั้งในพันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้เอกชนในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (พร็อพเพอร์ตี้ฟันด์) และกองทุนต่างประเทศที่จะลงทุนในดัชนีอีทีเอฟของสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทใดประเภทหนึ่ง ส่วนกองทุนหุ้นในประเทศที่อาจจะนำกลับมาปัดฝุ่นทำการตลาดอีกครั้ง หลังจากที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นปรับลดลงค่อนข้างมาก
นางสาวศรีเนตร ฤทธิรงค์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม พรีมาเวสท์ จำกัด บริษัทฯ ในเครือธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากที่พรีมาเวสท์ส่ง 2 กองทุนตราสารหนี้ ออกมาเสนอขายแก่ผู้ลงทุน ปรากฏว่าได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุนเป็นอย่างดี ส่งผลให้มียอดจองซื้อหน่วยลงทุนเข้ามามากมายจนล้นเต็มมูลค่าโครงการทั้ง 2 กองทุน และสามารถระดมเงินลงทุนรวมกันได้กว่า1,200 ล้านบาท
ทั้งนี้ กองทุนตราสารหนี้ภาคเอกชนระยะสั้น กองทุนเปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์ ฟิกซ์ อินคัม 6M 1 หรือ KPF6M1 ได้นำออกมาเสนอขายระหว่างวันที่ 17-24 มีนาคมที่ผ่านมา ส่วนอีกกองทุนเป็นกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ กองทุนเปิดพรีมาเวสท์ อินเตอร์เนชั่นแนล อินเวสท์เม้นท์ ฟันด์ 6M หรือ PIF6M ที่มีนโยบายเน้นลงทุนในตราสารหนี้ของรัฐวิสาหกิจของประเทศเกาหลีใต้ โดยนำออกมาเสนอขายระหว่างวันที่ 23-30 มีนาคม โดยหลังจากที่ทั้ง 2 กองทุนนี้ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน ทำให้หลังจากนี้บริษัทจึงเตรียมทยอยส่งกองทุนใหม่ๆ ออกมา เพื่อเติมเต็มความต้องการของผู้ลงทุนอย่างต่อเนื่อง
นางสาวศรีเนตร กล่าวอีกว่า ในช่วงนี้พรีมาเวสท์ยังคงเดินหน้าเสนอขายหน่วยลงทุนกองทุนตราสารหนี้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากยังมีกระแสความนิยมในกองทุนประเภทนี้อยู่มาก โดยในสัปดาห์นี้ก็มีกองทุนใหม่ที่นำออกมาเสนอขายต่อเนื่องทันที เพื่อเป็นทางเลือกแก่ผู้ลงทุน คือ กองทุนเปิดพรีมาเวสท์ตราสารหนี้ ออโต้ โบนัส หรือ PFA ซึ่งเป็นกองทุนที่ให้โอกาสผู้ลงทุนได้รับผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นทุกๆ 6 เดือน โดยกองทุน PFA นี้มีอายุโครงการประมาณ 2 ปี 5 เดือน เสนอขายแล้วตั้งแต่วันที่ 25-31 มีนาคมนี้
"เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ลงทุนในช่วงที่ดอกเบี้ยอยู่ในภาวะขาลง เพราะกองทุนนี้สามารถให้ผลตอบแทนได้ในเกณฑ์ดีและสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก หรือผลตอบแทนที่ได้จากพันธบัตรรัฐบาลไทย อีกทั้งจากการคาดการณ์กันว่า กนง. จะปรับดอกเบี้ยลดลงอีกในปีนี้ ซึ่งหากเป็นดังนั้นผู้ลงทุนก็จะหาการลงทุนที่สามารถให้ผลตอบแทนที่ดีแบบนี้ได้ยากขึ้น ดังนั้นกองทุนนี้ จึงน่าจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนเป็นอย่างดี”นางสาวศรีเนตรกล่าว
อนึ่ง เป้าหมายของบลจ.พรีมาเวสท์ในปีนี้ นางสาวศรีเนตร ฤทธิรงค์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) พรีมาเวสท์ จำกัด ได้เคยเปิดเผยว่า จะพยายามขยายสินทรัพย์ภายใต้การบริหารสำหรับธุรกิจกองทุนรวมเพิ่มขึ้นประมาณ 60% หรือคิดเป็นจำนวนเงินที่เพิ่มขึ่น 6,000 ล้านบาท จากสินทรัพย์รวมประมาณ 1.1 หมื่นล้านบาทในปีที่ผ่านมา ซึ่งหากเป็นไปตามเป้า จะทำให้สินทรัพย์ทั้งปีนี้ขยบัขึ้นไปอยู่ที่ 1.8 หมื่นล้านบาท
สำหรับกองทุนที่บลจ.พรีมาเวสท์วางแผนจะนำเสนอให้กับนักลงทุนในปีนี้ จะทยอยเปิดขายเดือนละ 1 กองทุนรวมทั้งสิ้น 12 กองทุน ประกอบด้วยกองทุนตราสารหนี้ ที่ลงทุนทั้งในพันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้เอกชนในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (พร็อพเพอร์ตี้ฟันด์) และกองทุนต่างประเทศที่จะลงทุนในดัชนีอีทีเอฟของสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทใดประเภทหนึ่ง ส่วนกองทุนหุ้นในประเทศที่อาจจะนำกลับมาปัดฝุ่นทำการตลาดอีกครั้ง หลังจากที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นปรับลดลงค่อนข้างมาก