ASTVผู้จัดการรายวัน - บลจ.พรีมาเวสท์ ตั้งเป้าขยายตลาดกองทุนส่วนบุคคล เดินหน้าเพิ่มตัวแทนขายจากฐานเดิม พร้อมเพิ่ม IP อิสระ เน้นเข้าถึงลูกค้ามากขึ้น ชูกลยุทธ์สร้างความรู้ความเข้าใจทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย
นางสาวศรีเนตร ฤทธิรงค์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) พรีมาเวสท์ จำกัด เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทจะเน้นทำการตลาดในส่วนของกองทุนส่วนบุคคล (ไพรเวทฟันด์) มากขึ้น โดยมีเป้าหมายอยู่ 2 ส่วนคือ การเพิ่มตัวแทนขายจากฐานเดิมที่มีอยู่แล้ว ขณะเดียวกัน ยังมีแผนเพิ่ม IP อิสระ (Investment Planner) อีกประมาณ 3-5 ราย เพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่ให้มากขึ้นจากปัจจุบัน ซึ่งในส่วนนี้ ได้เริมต้นไปบ้างแล้วในเดือนนี้
ทั้งนี้ ในส่วนของกองทุนส่วนบุคคลเอง มีโพรดักส์บางตัวที่น่าสนใจ และไม่มีความซับซ้อนอย่างกองทุนรวมทั่วไป ดังนั้น จึงเชื่อว่่าในปีนี้ กองทุนส่วนบุคคลจะขยายตัวได้เช่นกัน
โดยปัจจุบัน บลจ.พรีมาเวสท์ มีสินทรัพย์ในส่วนของกองทุนส่วนบุคคลอยู่ที่ 289.11 ล้านบาท จากจำนวนกองทุนทั้งหมด 3 กองทุน ส่วนตัวเลขเงินลงทุนในกองทุนส่วนบุคคลทั้งระบบในเดือนมกราคม 2552 พบว่า ทั้งอุตสาหกรรมมีเงินลงทุนลดลงรวมกันทั้งสิ้น 21,582.15 ล้านบาท ทำให้เดือนแรกของปี กองทุนส่วนบุคคลทั้งระบบมีสินทรัพย์รวม 146,694.81 ล้านบาท ลดลงจากจำนวนเงินทั้งระบบ 168,276.96 ล้านบาทในช่วงปลายปี 2551 ที่ผ่านมา
นางสาวศรีเนตรกล่าวต่อว่า การขยายตลาดของพรีมาเวสท์ จะเน้นการเป็นบริษัทจัดการที่มีการอธิบายลูกค้าให้เข้าใจ และมีความรู้จริงๆ ก่อนตัดสินใจลงทุน ซึ่งในส่วนนี้เราเองจะเน้นให้ความรู้กับพนักงานและตัวแทนขายด้วย นั้นคือ ต้องให้ความรู้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายด้วย เพราะหากคนขายเองไม่เข้าใจ ก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาเนื่องจากลูกค้าไม่เข้าใจโพรดักส์ตามมาได้ โดยในปีนี้ เราต้องการให้เป็นปีแห่งการเรียนรู้ของพรีมาเวสท์ ซึ่งเราอยากให้นักลงทุนเข้ามาคุยกับเราก่อน เพื่ออธิบายให้ฟังว่าการลงทุนมีความเสี่ยงยังไง ต้องวิเคราะห์อะไรบ้าง
ทั้งนี้ ในส่วนของบริษัทอยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี.ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ซึ่งเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นในบลจ.พรีมาเวสท์เอง ที่ผ่านมาเป็นที่ปรึกษาให้เราเป็นอย่างดี โดยเฉพาะในช่วงที่เราจะออกโพรดักส์ ก็จะเข้ามาร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์อยู่ตลอด โดยปัจจุบัน อยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี.ประกันชีวิต ถือหุ้นพรีมาเวสท์อยู่ 22.50% ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด(มหาชน) 10.00% และบริษัท บีบีทีวี เอ็คควิตี้ จำกัด 67.50%
"ปีนี้เป็นปีที่ค่อนข้างยากสำหรับธุรกิจกองทุนรวมและสำหรับเรา แต่ที่เห็นและดีใจคือ พนักงานของพรีมาเวสท์เองยังสู้ แม้ในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจจะไม่ดีเช่นนี้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ทำให้เราภูมิใจ และเชื่อว่าน่าจะนำไปสู่ความสำเร็จได้"นางสาวศรีเนตรกล่าว
นางสาวศรีเนตรกล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ บลจ.พรีมาเวสท์ กำลังอยู่ระหว่างการเปิดเสนอขายหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์ฟิกซ์อินคัม 6M 1 หรือ KPF6M1 แก่ผู้ลงทุนทั่วไป ซึ่งจะเปิดขายไปถึงวันที่ 24 มีนาคมเท่านั้น ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 5,000 บาท
โดยกองทุน KPF6M1 มีอายุโครงการเพียง 6 เดือนเท่านั้น และมีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชน ที่มีระดับความน่าเชื่อถือตั้งแต่ A- ขึ้นไป อาทิ ตั๋วแลกเงินของ บ. โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน), บ.น้ำตาลมิตรผล จำกัด, บ.อยุธยา ดิเวลลอปเม้น ลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน), บ. ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) และบ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) เป็นต้น โดยกอง KPF6M1 นี้ถือเป็นกองทุนที่เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่แสวงหาการลงทุนที่ให้โอกาส ได้รับผลตอบแทนที่ดี ในช่วงที่ดอกเบี้ยขาลง และผู้ลงทุนที่ชื่นชอบการลงทุนระยะสั้นๆ
นางสาวศรีเนตรกล่าวว่า จากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงแบบนี้ เรายังสามารถพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสได้ เนื่องจากยังมี บริษัทเอกชนบางรายที่มีความสามารถในการดำเนินธุรกิจที่ดี และพร้อมให้ผลตอบแทนของตราสารหนี้ระยะสั้นสูงกว่าผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาล กองทุนเปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์ฟิกซ์อินคัม 6M 1 (KPF6M1) เลือกลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชนที่มีคุณภาพดี มีระดับความน่าเชื่อถือตั้งแต่ A- ขึ้นไป และสามารถให้ผลตอบแทนในระดับที่สูงกว่าเงินฝาก และพันธบัตรรัฐบาลไทย ซึ่งการเลือกตราสารที่จะไปลงทุนนั้น พรีมาเวสท์จะให้ความสำคัญกับการคัดเลือกผู้ออกตราสารเป็นหลัก โดยเฉพาะแนวโน้มของอุตสาหกรรม ลักษณะธุรกิจของบริษัท รวมถึงฐานะทางการเงิน และความสามารถในการชำระหนี้
นอกจากนี้ ยังคาดว่าในปีนี้ กนง.จะยังคงมีแนวโน้มลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ดังนั้น กองทุน KPF6M1 จึงน่าจะเป็นทางเลือกการลงทุนที่ได้รับความสนใจ และได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุนเป็นอย่างดี เนื่องจากกองทุนนี้ สามารถให้ผลตอบแทนในระดับที่น่าพอใจ ภายใต้ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ อีกทั้งยังเหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการล็อคอัตราผลตอบแทนที่แน่นอนที่จะได้รับในช่วง 6 เดือน หากอัตราดอกเบี้ยปรับตัวลดลง
นางสาวศรีเนตร ฤทธิรงค์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) พรีมาเวสท์ จำกัด เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทจะเน้นทำการตลาดในส่วนของกองทุนส่วนบุคคล (ไพรเวทฟันด์) มากขึ้น โดยมีเป้าหมายอยู่ 2 ส่วนคือ การเพิ่มตัวแทนขายจากฐานเดิมที่มีอยู่แล้ว ขณะเดียวกัน ยังมีแผนเพิ่ม IP อิสระ (Investment Planner) อีกประมาณ 3-5 ราย เพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่ให้มากขึ้นจากปัจจุบัน ซึ่งในส่วนนี้ ได้เริมต้นไปบ้างแล้วในเดือนนี้
ทั้งนี้ ในส่วนของกองทุนส่วนบุคคลเอง มีโพรดักส์บางตัวที่น่าสนใจ และไม่มีความซับซ้อนอย่างกองทุนรวมทั่วไป ดังนั้น จึงเชื่อว่่าในปีนี้ กองทุนส่วนบุคคลจะขยายตัวได้เช่นกัน
โดยปัจจุบัน บลจ.พรีมาเวสท์ มีสินทรัพย์ในส่วนของกองทุนส่วนบุคคลอยู่ที่ 289.11 ล้านบาท จากจำนวนกองทุนทั้งหมด 3 กองทุน ส่วนตัวเลขเงินลงทุนในกองทุนส่วนบุคคลทั้งระบบในเดือนมกราคม 2552 พบว่า ทั้งอุตสาหกรรมมีเงินลงทุนลดลงรวมกันทั้งสิ้น 21,582.15 ล้านบาท ทำให้เดือนแรกของปี กองทุนส่วนบุคคลทั้งระบบมีสินทรัพย์รวม 146,694.81 ล้านบาท ลดลงจากจำนวนเงินทั้งระบบ 168,276.96 ล้านบาทในช่วงปลายปี 2551 ที่ผ่านมา
นางสาวศรีเนตรกล่าวต่อว่า การขยายตลาดของพรีมาเวสท์ จะเน้นการเป็นบริษัทจัดการที่มีการอธิบายลูกค้าให้เข้าใจ และมีความรู้จริงๆ ก่อนตัดสินใจลงทุน ซึ่งในส่วนนี้เราเองจะเน้นให้ความรู้กับพนักงานและตัวแทนขายด้วย นั้นคือ ต้องให้ความรู้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายด้วย เพราะหากคนขายเองไม่เข้าใจ ก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาเนื่องจากลูกค้าไม่เข้าใจโพรดักส์ตามมาได้ โดยในปีนี้ เราต้องการให้เป็นปีแห่งการเรียนรู้ของพรีมาเวสท์ ซึ่งเราอยากให้นักลงทุนเข้ามาคุยกับเราก่อน เพื่ออธิบายให้ฟังว่าการลงทุนมีความเสี่ยงยังไง ต้องวิเคราะห์อะไรบ้าง
ทั้งนี้ ในส่วนของบริษัทอยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี.ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ซึ่งเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นในบลจ.พรีมาเวสท์เอง ที่ผ่านมาเป็นที่ปรึกษาให้เราเป็นอย่างดี โดยเฉพาะในช่วงที่เราจะออกโพรดักส์ ก็จะเข้ามาร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์อยู่ตลอด โดยปัจจุบัน อยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี.ประกันชีวิต ถือหุ้นพรีมาเวสท์อยู่ 22.50% ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด(มหาชน) 10.00% และบริษัท บีบีทีวี เอ็คควิตี้ จำกัด 67.50%
"ปีนี้เป็นปีที่ค่อนข้างยากสำหรับธุรกิจกองทุนรวมและสำหรับเรา แต่ที่เห็นและดีใจคือ พนักงานของพรีมาเวสท์เองยังสู้ แม้ในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจจะไม่ดีเช่นนี้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ทำให้เราภูมิใจ และเชื่อว่าน่าจะนำไปสู่ความสำเร็จได้"นางสาวศรีเนตรกล่าว
นางสาวศรีเนตรกล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ บลจ.พรีมาเวสท์ กำลังอยู่ระหว่างการเปิดเสนอขายหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์ฟิกซ์อินคัม 6M 1 หรือ KPF6M1 แก่ผู้ลงทุนทั่วไป ซึ่งจะเปิดขายไปถึงวันที่ 24 มีนาคมเท่านั้น ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 5,000 บาท
โดยกองทุน KPF6M1 มีอายุโครงการเพียง 6 เดือนเท่านั้น และมีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชน ที่มีระดับความน่าเชื่อถือตั้งแต่ A- ขึ้นไป อาทิ ตั๋วแลกเงินของ บ. โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน), บ.น้ำตาลมิตรผล จำกัด, บ.อยุธยา ดิเวลลอปเม้น ลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน), บ. ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) และบ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) เป็นต้น โดยกอง KPF6M1 นี้ถือเป็นกองทุนที่เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่แสวงหาการลงทุนที่ให้โอกาส ได้รับผลตอบแทนที่ดี ในช่วงที่ดอกเบี้ยขาลง และผู้ลงทุนที่ชื่นชอบการลงทุนระยะสั้นๆ
นางสาวศรีเนตรกล่าวว่า จากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงแบบนี้ เรายังสามารถพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสได้ เนื่องจากยังมี บริษัทเอกชนบางรายที่มีความสามารถในการดำเนินธุรกิจที่ดี และพร้อมให้ผลตอบแทนของตราสารหนี้ระยะสั้นสูงกว่าผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาล กองทุนเปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์ฟิกซ์อินคัม 6M 1 (KPF6M1) เลือกลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชนที่มีคุณภาพดี มีระดับความน่าเชื่อถือตั้งแต่ A- ขึ้นไป และสามารถให้ผลตอบแทนในระดับที่สูงกว่าเงินฝาก และพันธบัตรรัฐบาลไทย ซึ่งการเลือกตราสารที่จะไปลงทุนนั้น พรีมาเวสท์จะให้ความสำคัญกับการคัดเลือกผู้ออกตราสารเป็นหลัก โดยเฉพาะแนวโน้มของอุตสาหกรรม ลักษณะธุรกิจของบริษัท รวมถึงฐานะทางการเงิน และความสามารถในการชำระหนี้
นอกจากนี้ ยังคาดว่าในปีนี้ กนง.จะยังคงมีแนวโน้มลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ดังนั้น กองทุน KPF6M1 จึงน่าจะเป็นทางเลือกการลงทุนที่ได้รับความสนใจ และได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุนเป็นอย่างดี เนื่องจากกองทุนนี้ สามารถให้ผลตอบแทนในระดับที่น่าพอใจ ภายใต้ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ อีกทั้งยังเหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการล็อคอัตราผลตอบแทนที่แน่นอนที่จะได้รับในช่วง 6 เดือน หากอัตราดอกเบี้ยปรับตัวลดลง
