xs
xsm
sm
md
lg

บลจ.แอสเซทพลัสเปิดโรลโอเวอร์กองบอนด์6เดือน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ.แอสเซท พลัส เปิดเสนอขายและรับซื้อคืนรอบใหม่ กองทุนเปิดแอสเซทพลัสทรัพย์มั่นคง 6M1 ลงทุนในตราสารหนี้เอกชนคุณภาพ รอบการลงทุนทุก 6 เดือน เปิดเสนอขายและรับซื้อคืนวันเดียว วันที่ 2 กุมภาพันธ์ นี้

นายวสุ สุทธิพงษ์ชัย ผู้จัดการกองทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แอสเซท พลัส จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงนี้ ตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไปล่าสุดของเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ปรับตัวลดลงเหลือ 0.4% ในขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐานซึ่งไม่รวมราคาอาหาร และน้ำมันได้ปรับสู่ระดับ 1.8% และคาดว่ามีโอกาสที่จะต่ำกว่า 1.0% ในบางเดือนของปีนี้ โดยทางบริษัทฯ คาดว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย น่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอัตราดอกเบี้ยธุรกรรมซื้อคืนพันธบัตร (RP-1D) น่าจะปรับลงอีก 0.50%-1.00% ภายในกลางปี 2552 จากปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 2% เพื่อบรรเทาผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ และการส่งออกชะลอตัว อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับรู้การคาดการณ์ปรับลดดอกเบี้ยไปเรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 0-2 ปี อยู่ที่ระดับไม่ถึง 2% ทำให้ขณะนี้ ตราสารหนี้เอกชนไทย ทั้งตั๋วแลกเงิน และหุ้นกู้ กลับมาได้รับความสนใจมากขึ้น

นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แอสเซท พลัส จำกัด สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ ที่ลงทุนในตราสารหนี้เอกชน บริษัทฯ ขอแนะนำกองทุนเปิดแอสเซทพลัสทรัพย์มั่นคง 6M1 (SIF-6M1) ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ รอบการลงทุนประมาณ 6 เดือน จะเปิดขายและรับซื้อคืนรอบใหม่ วันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้ โดยรอบการลงทุนนี้กองทุนจะเน้นลงทุนในตั๋วแลกเงินของบริษัทเอกชนในประเทศไทย ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือตั้งแต่ A- ขึ้นไป เช่น บมจ.ปตท.อะโรมาติกส์และการกลั่น (PTTAR) บมจ.ทุนธนชาต (TCAP) บมจ.แลนแอนด์เฮาส์ (LH) บมจ.ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น (TICON) และบจ.น้ำตาลมิตรผล (MPSC) เป็นต้น

โดยผู้ลงทุนสามารถมั่นใจในคุณภาพตราสารที่บริษัทฯ เลือกสรรในการลงทุนได้ว่าเป็นบริษัทที่มีฐานะการเงินที่มั่นคง มีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องและมีการกำกับดูแลกิจการที่ดี ในส่วนของผลตอบแทน จะสามารถให้ผลตอบแทนที่มากกว่าพันธบัตรรัฐบาลอายุ 6 เดือน อย่างน้อย 1-1.20% โดยขณะนี้พันธบัตรรัฐบาล ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 1.5-1.6%
กำลังโหลดความคิดเห็น