xs
xsm
sm
md
lg

แอสเซทพลัสขายโรลโอเวอร์2กอง ลงทุนพันธบัตรรัฐบาล-ตั๋วแลกเงิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ.แอสเซท พลัส เปิดขายและรับซื้อคืนรอบใหม่กองทุนตราสารหนี้ในประเทศ 2 ทางเลือก โดยกองทุนเปิดแอสเซทพลัสแอ็คทรัพย์มั่นคง 6 อายุโครงการประมาณ 6 เดือน เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล และเงินฝาก คาดให้ผลตอบแทน 1.90% ต่อปี เปิดเสนอขายและรับซื้อคืนวันเดียวในวันที่ 22 ธันวาคม ขณะที่กองทุนเปิดแอสเซทพลัสทวีเงินออม 4 อายุโครงการ 6 เดือน เน้นลงทุนในตั๋วแลกเงิน คาดให้ผลตอบแทน 3.25% ต่อปี เปิดเสนอขายและรับซื้อคืนวันเดียวในวันที่ 25 ธันวาคมนี้
นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ
นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) แอสเซท พลัส จำกัด เปิดเผยว่า จากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ตัดสินใจปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง 1% ซึ่งมากกว่าที่ตลาดได้คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 0.25-0.50% ลงมาอยู่ที่ระดับ 2.75% ส่งผลทำให้อัตราดอกเบี้ยตราสารต่างๆ ในตลาดปรับตัวลดลงอย่างมาก จนต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ปรับตัวลดลง โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลงจนอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 2% ส่วนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ปรับตัวลดลงจนอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 2.5% และมีแนวโน้มที่จะปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าในปีหน้าในไตรมาส 1 อัตราดอกเบี้ยนโยบายน่าจะปรับลดลงจนอยู่ที่ระดับ 1.75%

สำหรับภาพรวมการลงทุนของนักลงทุนในช่วงนี้ ผู้ลงทุนส่วนใหญ่รับทราบถึงแนวโน้มการปรับตัวลงของผลตอบแทนจากการลงทุนในตราสารหนี้ และมีลูกค้าทั้งในส่วนที่ถึงแม้ผลตอบแทนจากการลงทุนในพันธบัตรลดลงแต่ยังมีความต้องการอยู่ แต่บางส่วนก็ยังสามารถรับความเสี่ยงจากตราสารหนี้เอกชนได้ เพียงแต่คัดเลือกบริษัทที่จะเข้าไปลงทุนมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงแนะนำให้ลูกค้าลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ในประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น พันธบัตรรัฐบาลไทย และตราสารหนี้ภาคเอกชนไทย ทั้งกองทุนที่เปิดเสนอขายเป็นรอบระยะเวลาที่ครบรอบการรับซื้อและขายคืนรอบใหม่ และกองทุนที่สามารถกำหนดระยะเวลาการลงทุนตามความเหมาะสมของสภาวะตลาดแต่ละขณะ เพื่อประโยชน์สูงสุดของลูกค้าในการสร้างโอกาสให้ได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนในภาวะที่การลงทุนยังเป็นที่กังวลใจกับปัจจัยลบต่างๆ

นางสาวจารุลักษณ์ กล่าวว่า บริษัทฯ จะเสนอขาย กองทุนกองทุนเปิดแอสเซทพลัสทรัพย์มั่นคง 6 (ASP-SIF6) รอบใหม่ ในวันที่ 22 ธันวาคม นี้ โดยจะเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลในสัดส่วน 55-80% และเงินฝาก 20-45% รอบระยะเวลาการลงทุน ประมาณ 6 เดือน สำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อย และต้องการความมั่นคงเป็นหลัก โดยคาดว่าจะสามารถให้ผลตอบแทน 1.90%

ส่วนผู้ลงทุนที่ต้องการมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่า ในระดับความเสี่ยงไม่มากนัก บริษัทฯ แนะนำให้ลงทุนในกองทุนเปิดแอสเซทพลัสทวีเงินออม 4 (ASP-MMF4) ที่เน้นลงทุนในตั๋วแลกเงินที่ออกโดยบริษัทเอกชน ที่มีฐานะการเงินที่มั่นคง มีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีอันดับความน่าเชื่อถือในระดับ A- ขึ้นไป และมีการกำกับดูแลกิจการที่ดี เพื่อเป็นหลักประกันได้ว่าบริษัทดังกล่าวจะมีโอกาสในการผิดนัดชำระหนี้ต่ำมาก โดยกองทุนนี้มีรอบการลงทุน ทุก 6 เดือน

ทั้งนี้ คาดว่าผลตอบแทนของตราสารในพอร์ตการลงทุนอยู่ที่ระดับ 3.50% ต่อปี เมื่อหักค่าใช้จ่ายกองทุนประมาณ 0.25% แล้วจะสามารถสร้างโอกาสผลตอบแทนให้กับผู้ลงทุนได้ 3.25% ต่อปี

สำหรับรายละเอียดพอร์ตการลงทุนของกองทุนแอสเซทพลัสทรัพย์ มั่นคง 6 มีดังนี้ ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล รุ่น CB09N05A ในสัดส่วน 56 % ซึ่งคาดว่าจะสามารถให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 1.80% เงินฝากธนาคารกรุงศรีอยุธยา ในสัดส่วน 22% ซึ่งคุ้มครองเงินฝาก และคาดว่าจะสามารถให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 2.75% และลงทุนในเงินฝากธนาคารออมสิน ในสัดส่วน 22% ซึ่งเป็นธนาคารของรัฐบาล คาดว่าจะสามารถให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 2%

ส่วนรายละเอียดพอร์ตการลงทุนของกองทุนแอสเซทพลัสทวีเงินออม 4 มีดังนี้ ลงทุนในตั๋วแลกเงิน บมจ.เจริญโภคภัณฑ์ ในสัดส่วน 25% ซึ่งคาดว่าจะสามารถให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 3.70% อันดับความน่าเชื่อถือ A+ ตั๋วแลกเงิน บมจ.ทุนธนชาต ในสัดส่วน 25% และคาดว่าจะสามารถให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 3.60% อันดับความน่าเชื่อถือ A ตั๋วแลกเงิน บมจ.แลนด์ แอน เฮาส์ ในสัดส่วน 25% คาดว่าจะสามารถให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 3.60% อันดับความน่าเชื่อถือ A และลงทุนในตั๋วแลกเงิน บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซ่าในสัดส่วน 25% คาดว่าจะสามารถให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 3.88% อันดับความน่าเชื่อถือ A-
กำลังโหลดความคิดเห็น