xs
xsm
sm
md
lg

วรรณปันผล"ONE-DP"หน่วยละ0.15 บาท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ.วรรณประกาศจ่ายเงินปันผลกองทุนเปิดวรรณทวีปันผล 26 มกราคมนี้ นักลงทุนเตรียมรับ 0.15 บาทต่อหน่วย พบสถิติน่าพอใจจ่ายเงินปันผลไปแล้ว 22 ครั้ง สูงสุดจ่าย 0.3000 บาทต่อหน่วย เปิดพอร์ตพบลงทุนในพันธบัตร 44.26% รองลงมาเป็นหุ้นกู้ 31.03%

รายงานจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) วรรณ จํากัด เปิดเผยว่า บลจ.วรรณ ในฐานะบริษัทจัดการของกองทุนเปิดวรรณทวีปันผล (ONE-DP) ได้มีมติเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2552 ให้จ่ายเงินปันผลของกองทุนเปิดวรรณทวีปันผล (ONE-DP) จากกําไรสะสมของผลการดําเนินงานระหว่างวันที่ 16 ตุลาคม 2551 ถึงวันที่ 16 มกราคม 2552 ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.15 บาท โดยกําหนดวันปิดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุน เพื่อสิทธิในการรับเงินปันผล ในวันที่ 22 มกราคม 2552 และกําหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 26 มกราคม 2552 โดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม วรรณ จํากัด ในฐานะ นายทะเบียนหน่วยลงทุน จะเป็นผู้จัดส่งเช็คเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน

ทั้งนี้ ผู้ที่ซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดวรรณทวีปันผล ในวันปิดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุนจะไม่มีสิทธิในการรับเงินปันผลดังกล่าว

สำหรับกองทุนเปิดวรรณทวีปันผลจะเน้นลงทุนในตราสารแห่งหนี้ที่ให้ผลตอบแทนสูงและมีความมั่นคงเป็นหลัก เช่น พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ ตั๋วเงินคลัง และตราสารแห่งหนี้ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือใน 4 อันดับแรก (category) จากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ได้รับการยอมรับจากสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. เป็นต้น ทั้งนี้ จะไม่ลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทหุ้นทุน หน่วยลงทุนของกองทุนรวมตราสารทุนหรือกองทุนรวมผสม ตลอดจนใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น หรือใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนรวมตราสารทุนหรือกองทุนรวมผสม

อนึ่ง กองทุนอาจลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อลดความเสี่ยง (Hedging) หรือเพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการลงทุน (Efficient Portfolio Management) และกองทุนจะไม่ลงทุนในตราสารหนี้ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับ ตัวแปร (Structured Note)

ทั้งนี้ กองทุนนี้มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่เกินเดือนละ 1 ครั้ง ในอัตราไม่เกินร้อยละ 100 ของกำไรสะสมหรือกำไรสุทธิ โดยกองทุนเปิดวรรณทวีปันผล มีประวัติการจ่ายเงินปันผลนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนไปแล้วจำนวน 22 ครั้ง และครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 23

สำหรับมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน สิ้นสุด วันที่ 31 ธันวาคม 2551 พบว่ามีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 76.80 ล้านบาท และมีมูลค่าหน่วยลงทุน 10.1527 บาท ส่วนผลการดำเนินงานของกองทุน สิ้นสุด วันที่ 26 ธันวาคม 2551 พบว่ามีผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 7.90% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 2.57% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 6.77% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 2.78% ย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 4.29% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 2.89% ย้อนหลัง 3 ปีอยู่ที่ 4.32% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 2.96% และสามารถให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่จดตั้งกองทุนอยู่ที่ 3.49% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 2.98%

ส่วนสัดส่วนการลงทุน 10 อันดับแรกของกองทุนที่มีการลงทุนสูงสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 พบว่า อันดับ 1. พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย 44.26% อันดับ 2 ตั๋วสัญญาใช้เงิน - ธนาคารอาคารสงเคราะห์ 13.45% อันดับ 3 หุ้นกู้ - คาร์กิล อินคอร์ปอร์เรท (AAA) 6.96% อันดับ 4 หุ้นกู้ - บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (A) 6.74% อันดับ 5 หุ้นกู้ - บมจ.บัตรกรุงไทย (A-) 6.51% อันดับ 6 หุ้นกู้ - บมจ.ปตท. (AAA) 5.57% อันดับ 7 ตั๋วแลกเงิน - บมจ.ธนาคารทิสโก้ 4.43% อันดับ 8 หุ้นกู้ - บจ.ผลิตไฟฟ้าขนอม (AA-) 3.86% และอันดับ 9. หุ้นกู้ - บมจ.โทเทิล แอ๊คเซส คอมมิวนิเคชั่น (A+) 1.39%

ขณะที่สัดส่วนการลงทุนแยกตามกลุ่มอุตสาหกรรม ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 พบว่า ลงทุนในพันธบัตร 44.26% ลงทุนในหุ้นกู้ 31.03% และลงทุนในเงินฝากและตราสารหนี้สถาบันการเงิน 24.71%
กำลังโหลดความคิดเห็น