ASTVผู้จัดการรายวัน - บลจ. ธนชาตเป็นปลื้ม นักลงทุนตอบรับกองทุนตราสารหนี้ต่อเนื่อง เผยเปิดขาย "ธนชาตตราสารหนี้พลัส 3" ยอดจองเต็มตั้งแต่วันแรก หลังแบงก์ปรับลดดอกเบี้ย ระบุส่วนใหญ่นักลงทุนแบงก์-บลจ.แห่เข้าลงทุนเพียบ
นางสาวทิพวัลย์ เอี่ยมโอภาส ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์และส่งเสริมการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ธนชาต จำกัด เปิดเผยว่า ภายหลังจากบริษัทเปิดขายกองทุนตราสารหนี้เพิ่มอีกจำนวน 1 กองทุน ในช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ปรากฏว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยจากการเสนอขายกองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้พลัส 3 (TFixPlus3) สามารถระดมเงินได้เต็มมูลค่าโครงการภายในวันแรกที่เสนอขายกองทุน
ทั้งนี้ กองทุน TFixPlus3 เสนอขายครั้งเดียว(IPO)ระหว่างวันที่ 9 - 16 มีนาคม 2552 อายุโครงการประมาณ 2 ปี มีมูลค่าโครงการ 300 ล้านบาท โดยกองทุนได้รับการอนุมัติให้จัดตั้งกองทุนแล้วเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2552 ที่ผ่านมา ซึ่งกองทุนดังกล่าวถือเป็นทางเลือกในการลงทุนให้แก่ผู้สนใจลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงของตราสารหนี้ได้ ทั้งนี้กองทุนดังกล่าวมีนโยบายการลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารแห่งหนี้ภาคเอกชนและหรือภาครัฐ ที่มีคุณภาพ มีความสามารถในการชำระดอกเบี้ยหรือเงินต้นสูง และหรือเงินฝากหรือตราสารที่เทียบเท่าเงินสด หรือหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัยพ์ (ก.ล.ต.) กำหนดหรือเห็นชอบให้กองทุนลงทุนได้ทั้งนี้ กองทุนจะไม่ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) และตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note)
นอกจากนี้กองทุนดังกล่าวจะเปรียบเทียบผลตอบแทนของกองทุนจากค่าเฉลี่ยระหว่างอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรที่มีอายุคงที่ (ZRR) อายุ ประมาณ 2 ปี ในสัดส่วนร้อยละ 50 และอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ภาคเอกชนอายุประมาณ 2 ปีในสัดส่วนร้อยละ 50 ณ วันจดทะเบียนกองทรัพย์สินเป็นกองทุนรวม
นางสาวทิพวัลย์ กล่าวว่า จากการที่กองทุน TFixPlus3 ประสบความสำเร็จในคร้ังนี้ เนื่องจากกองทุนนั้นมีขนาดกองทุนที่ไม่ใหญ่มากนัก อีกทั้งนักลงทุนส่วนใหญ่ที่ให้การตอบรับเป็นอย่างดีจะเป็นนักลงทุนของ บลจ. เอง รวมถึงลูกค้าของธนาคารธนชาต และลูกค้าทางเซลลิ้งเอเจนท์ เป็นหลัก ซึ่งนักลงทุนมองว่ากองทุนดังกล่าวนั้นสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีในระยะเวลาที่โครงการกำหนดไว้
"หลังจากที่ธนาคารพาณิชย์ได้มีการปรับลดดอกเบี้ยเงินฝากลงไปอีก ส่งผลให้นักลงทุนที่มีรายได้จากอัตราดอกเบี้ยเป็นหลักได้รับผลกระทบอย่างชัดเจน จึงทำให้นักลงทุนกลุ่มดังกล่าวต้องแสวงหาการลงทุนในช่องทางใหม่ ๆ ที่สามารถให้ผลตอบแทนที่ดีมากขึ้น ทำให้เทรนด์การลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้ และกองทุนรวมมันนีมาร์เก็ตเริ่มมีนักลงทุนทยอยเข้ามาลงทุนอย่างเห็นชัดเจนมากขึ้นตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการออกกองทุนรวมตราสารหนี้ตั้งแต่อายุ 3 เดือน 6 เดือน และ 1 ปี ก็ตาม" นางสาวทิพวัลย์กล่าว
สำหรับในอนาคตบริษัมีแผนที่จะออกกองทุนตราสารหนี้ต่อไป เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้แก่นักลงทุนในการกระจายการลงทุนในอีกช่องทางหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงต้องรอดูจังหวะในการออกองทุนทุนที่เหมาะสมมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ตรงตามกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อให้เกิดความเสี่ยงน้อยที่สุด อีกทั้งต้องให้ผลตอบแทนที่ดีแก่นักลงทุนที่ดีด้วย
นางสาวทิพวัลย์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้บริษัทได้เปิดขายกองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้พลัส 1 (TFixPlus1) และ กองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้พลัส 2 (TFixPlus2) ไปเมื่อช่วงกลางเดือนมกราคม ที่ผ่านมา โดยทั้ง 2 กองทุนสามารถระดมเงินได้เต็มมูลค่าโครงการในวันแรกของการเปิดขายเช่นเดียวกัน
นางสาวทิพวัลย์ เอี่ยมโอภาส ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์และส่งเสริมการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ธนชาต จำกัด เปิดเผยว่า ภายหลังจากบริษัทเปิดขายกองทุนตราสารหนี้เพิ่มอีกจำนวน 1 กองทุน ในช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ปรากฏว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยจากการเสนอขายกองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้พลัส 3 (TFixPlus3) สามารถระดมเงินได้เต็มมูลค่าโครงการภายในวันแรกที่เสนอขายกองทุน
ทั้งนี้ กองทุน TFixPlus3 เสนอขายครั้งเดียว(IPO)ระหว่างวันที่ 9 - 16 มีนาคม 2552 อายุโครงการประมาณ 2 ปี มีมูลค่าโครงการ 300 ล้านบาท โดยกองทุนได้รับการอนุมัติให้จัดตั้งกองทุนแล้วเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2552 ที่ผ่านมา ซึ่งกองทุนดังกล่าวถือเป็นทางเลือกในการลงทุนให้แก่ผู้สนใจลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงของตราสารหนี้ได้ ทั้งนี้กองทุนดังกล่าวมีนโยบายการลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารแห่งหนี้ภาคเอกชนและหรือภาครัฐ ที่มีคุณภาพ มีความสามารถในการชำระดอกเบี้ยหรือเงินต้นสูง และหรือเงินฝากหรือตราสารที่เทียบเท่าเงินสด หรือหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัยพ์ (ก.ล.ต.) กำหนดหรือเห็นชอบให้กองทุนลงทุนได้ทั้งนี้ กองทุนจะไม่ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) และตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note)
นอกจากนี้กองทุนดังกล่าวจะเปรียบเทียบผลตอบแทนของกองทุนจากค่าเฉลี่ยระหว่างอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรที่มีอายุคงที่ (ZRR) อายุ ประมาณ 2 ปี ในสัดส่วนร้อยละ 50 และอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ภาคเอกชนอายุประมาณ 2 ปีในสัดส่วนร้อยละ 50 ณ วันจดทะเบียนกองทรัพย์สินเป็นกองทุนรวม
นางสาวทิพวัลย์ กล่าวว่า จากการที่กองทุน TFixPlus3 ประสบความสำเร็จในคร้ังนี้ เนื่องจากกองทุนนั้นมีขนาดกองทุนที่ไม่ใหญ่มากนัก อีกทั้งนักลงทุนส่วนใหญ่ที่ให้การตอบรับเป็นอย่างดีจะเป็นนักลงทุนของ บลจ. เอง รวมถึงลูกค้าของธนาคารธนชาต และลูกค้าทางเซลลิ้งเอเจนท์ เป็นหลัก ซึ่งนักลงทุนมองว่ากองทุนดังกล่าวนั้นสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีในระยะเวลาที่โครงการกำหนดไว้
"หลังจากที่ธนาคารพาณิชย์ได้มีการปรับลดดอกเบี้ยเงินฝากลงไปอีก ส่งผลให้นักลงทุนที่มีรายได้จากอัตราดอกเบี้ยเป็นหลักได้รับผลกระทบอย่างชัดเจน จึงทำให้นักลงทุนกลุ่มดังกล่าวต้องแสวงหาการลงทุนในช่องทางใหม่ ๆ ที่สามารถให้ผลตอบแทนที่ดีมากขึ้น ทำให้เทรนด์การลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้ และกองทุนรวมมันนีมาร์เก็ตเริ่มมีนักลงทุนทยอยเข้ามาลงทุนอย่างเห็นชัดเจนมากขึ้นตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการออกกองทุนรวมตราสารหนี้ตั้งแต่อายุ 3 เดือน 6 เดือน และ 1 ปี ก็ตาม" นางสาวทิพวัลย์กล่าว
สำหรับในอนาคตบริษัมีแผนที่จะออกกองทุนตราสารหนี้ต่อไป เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้แก่นักลงทุนในการกระจายการลงทุนในอีกช่องทางหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงต้องรอดูจังหวะในการออกองทุนทุนที่เหมาะสมมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ตรงตามกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อให้เกิดความเสี่ยงน้อยที่สุด อีกทั้งต้องให้ผลตอบแทนที่ดีแก่นักลงทุนที่ดีด้วย
นางสาวทิพวัลย์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้บริษัทได้เปิดขายกองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้พลัส 1 (TFixPlus1) และ กองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้พลัส 2 (TFixPlus2) ไปเมื่อช่วงกลางเดือนมกราคม ที่ผ่านมา โดยทั้ง 2 กองทุนสามารถระดมเงินได้เต็มมูลค่าโครงการในวันแรกของการเปิดขายเช่นเดียวกัน