xs
xsm
sm
md
lg

ธนชาตเข็นกองบอนด์รับวาเลนไทน์ ลงทุนตราสารหนี้รัฐและเอกชนให้ยิลด์2.15%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – บลจ. ธนชาต ส่งกองทุนตราสารหนี้ลุยตลาดต่อเนื่อง ล่าสุดเปิดขาย “ธนชาตตราสารหนี้ 6” เอาใจนักลงทุนที่ชอบความเสี่ยงต่ำแต่หวังผลตอบแทนสูง เน้นลงทุนบอนด์ภาครัฐและเอกชน อายุโครงการประมาณ 5-7 เดือน ชูผลตอบแทน 2.15% ต่อปี เปิดขายรับวาเลนไทน์แล้ววันนี้ถึง 16 กุมภาพันธ์ นี้
นายวิศิษฐ์  ชื่นรัตนกุล
ผู้จัดการกองทุนอาวุโสตราสารหนี้ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ธนชาต จำกัด เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ นี้ บริษัทจะเปิดขายกองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้ 6  (TFIX6) เพิ่มอีก 1 กองทุน ซึ่งกองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนประเภทตราสารหนี้ที่มีมูลค่าโครงการประมาณ 600 ล้านบาท และมีอายุโครงการ 5 - 7 เดือน โดยกองทุนจะให้ผลตอบแทนประมาณการณ์อยู่ที่ 2.15 % ต่อปี
   ทั้งนี้ กองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้ 6 มีนโยบายการลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชน หรือภาครัฐที่มีคุณภาพ มีความสามารถในการชำระดอกเบี้ยหรือเงินต้นสูง หรือเงินฝาก หรือตราสารที่เทียบเท่าเงินสด หรือหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กำหนดหรือเห็นชอบให้กองทุนลงทุนได้ ทั้งนี้ กองทุนจะไม่ในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง
 "กองทุนดังกล่าวเป็นทางเลือกในการลงทุนในแก่ผู้สนใจลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงของตราสารหนี้ได้ โดยกองทุนจะนำเงินไปลงทุนในตราสารหนี้ที่มีความมั่นคง โดยจะพิจารณาลงทุนในตราสารหนี้เอกชนที่มีคุณภาพ เช่น หุ้นกู้ หรือตราสารหนี้ภาครัฐ เช่น พันธบัตรรัฐบาล หรือเงินฝาก และต้องการลงทุนจนครบกำหนดอายุกองทุน” นายวิศิษฐ์ กล่าว
นายวิศิษฐ์ กล่าวว่า  ในส่วนของผลตอบแทนกองทุนดังกล่าว บริษัทจะเปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยของอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรที่มีอายุคงที่ประมาณ 6 เดือน ในสัดส่วนร้อยละ 50 และอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรที่มีอายุคงที่ประมาณ 6 เดือนเช่นกัน บวกส่วนต่างของตราสารหนี้ภาคเอกชนที่มีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้เมื่อเทียบกับพันธบัตรในสัดส่วนร้อยละ 50 ณ วันที่จดทะเบียนกองทุนทรัพย์สินเป็นกองทุนรวม
  ส่วนผลกระทบของกองทุนอาจจะได้รับจากความเสี่ยงจากการที่ผู้ออกตราสารหนี้ไม่สามารถชำระดอกเบี้ย หรือคืนเงินต้นได้  รวมถึงความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยที่เกิดจากความผันผวนของราคาตราสารที่อาจทำให้ราคาหรือผลตอบแทนของตราสารปรับขึ้นลง เนื่องจากความผันผวนของปัจจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเช่น ภาวะเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ค่าเงินและอัตราดอกเบี้ย เป็นต้น
นายวิศิษฐ์ กล่าวถึงการลงทุนในตราสารหนี้ว่า ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวมากเช่นนี้ ส่งผลให้แรงกดดันจากเงินเฟ้อลดลงอย่างมากโดยเฉพาะในระยะ 1-2 ปีข้างหน้าและยังมีความเสี่ยงจากภาวะเงินฝืด จึงคาดว่าประเทศส่วนใหญ่ในโลกจะใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากกว่าปกติ เพื่อเกื้อหนุนให้ภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัวได้ จึงมีความเป็นไปได้ที่อัตราดอกเบี้ยในประเทศไทยจะปรับตัวลดลงอีกในปี 2552 ดังนั้น กองทุนรวมตราสารหนี้จึงยังคงเป็นทางเลือกหนึ่งที่ได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนโดยเฉพาะในช่วงที่ผู้ลงทุนยังคงมีความกังวลในภาวะเศรษฐกิจ
  อย่างไรก็ตาม ในช่วงต่อ ๆ ไปหลังจากนี้ หาก บลจ.ธนชาต มองเห็นโอกาสการลงทุนในตลาดตราสารหนี้ในรูปแบบต่าง ๆ ก็คงจะมีการทยอยออกกองทุนตามภาวะตลาด เพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้ลงทุนอย่างต่อเนื่องต่อไป
  นอกจากนี้ กองทุนดังกล่าวจะทำการตลาดและประชาสัมพันธ์ผ่านทางธนาคารธนชาต (แบงก์แม่) และ บล. ธนชาต เป็นหลัก เนื่องจากว่ากองทุนดังกล่าวสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีและกำลังเป็นที่ต้องการของนักลงทุนในขณะนี้ ทั้งนี้ บริษัทคาดว่ากองทุนดังกล่าวน่าจะสามารถขายได้หมดเพียงวันเดียวเหมือนกับกองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้พลัส 1 (TFixPlus1) และ กองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้พลัส 2 (TFixPlus2)  เนื่องจากว่ายังมีนักลงทุนที่ยังพลาดการลงทุนในครั้งแรกและยังต้องการที่จะเข้ามาลงทุนนั้นยังมีอีกหลายรายเช่นกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น