xs
xsm
sm
md
lg

บีทีปรับพอร์ตกองทุนหุ้นรับมือวิกฤต หนีกลุ่มพลังงานให้น้ำหนักแบงก์แทน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ. บีที เผยแผนงานไตรมาส 2 เตรียมปรับพอร์ตกองทุนหุ้น โยกเงินลงทุนจากกลุ่มพลังงาน มาให้น้ำหนักกลุ่มแบงก์แทน หลังวิกฤตการเงิน ฉุดตลาดหุ้นทั่วโลก จนหุ้นกลุ่มพลังงาน ซึ่งเป็นกลุ่มนำตลาดหุ้นไทยลดลงถ้วนหน้า ขณะที่แบงก์เอง ผลประกอบการยังดี ส่วนกองทุนรวมตราสารหนี้ เน้นออกบอนด์เกาหลีเป็นหลัก ชูผลตอบแทนโดดเด่น หลังแบงก์ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก

นายอนุสรณ์ บูรณกานนท์
นายอนุสรณ์ บูรณกานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บีที จำกัด เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 2 ว่า จากปัญหาสถาบันการเงินของสหรัฐที่เกิดขึ้น ตั้งแต่ AIG ขาดทุนไป ส่งผลให้รัฐบาลเข้าไปช่วยแล้วกว่า 80% และอีกหลาย ๆ บริษัทที่รัฐบาลได้เข้าไปช่วยเหลืออย่างเต็มรูปแบบแล้วนั้น เป็นการส่งสัญญาณสะท้อนข่าวร้ายออกมาให้เห็นเด่นชัด เช่นเดียวกับตลาดหุ้นไทยก็ทยอยรับข่าวร้ายของสหรัฐอเมริกาด้วยเช่นกัน รวมถึงปัญหาน้ำมันที่มีการปรับลดลงด้วย ส่งผลให้หุ้นในกลุ่มพลังงานปรับลดลงมาหมด ดังนั้นในมุมมองของบริษัทเองเชื่อว่านักลงทุนที่เข้าไปลงทุนในกลุ่มพลังงานต่างถอยออกมาเป็นจำนวนมาก แต่จะเข้ามาลงทุนในกลุ่มธนาคารแทน เนื่องจากกลุ่มธนาคารของไทยประมาณ 3 - 4 ธนาคารไม่มีปัญหาต่างให้ผลตอบแทนที่ดี เมื่อเทียบกับธนาคารในแถบเอเชีย เพราะจากผลการดำเนินงานในช่วง 2 - 3 เดือนนี้จะเห็นได้ว่า ในหมวดของกลุ่มธนาคารเองมีการรีบาวน์ขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ส่วนในด้านของกองทุนรวมตราสารหนี้ เมื่ออัตราดอกเบี้ยเงินฝากมีการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องนั้น ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีของกองทุนรวม โดยเฉพาะกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในพันธบัตรเกาหลีใต้ ซึ่งขณะนี้ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า

ทั้งนี้ บลจ. บีทีเองก็กำลังเปิดขายกองทุนเปิด บีที FIF เกาหลี ตราสารหนี้ 9/4 ที่ได้เปิดขายแล้วตั้งแต่วันที่ 26 กุมภาพันธ์ - 9 มีนาคม 2552 ซึ่งกองทุนดังกล่าวมีนโยบายการลงทุนในตราสารหนี้ที่ลงทุนในต่างประเทศ มีการกระจายการลงทุนน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน โดยกองทุนจะให้ผลตอบแทนประมาณการอยู่ที่ 4 - 4.2% ต่อปี

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการลงทุนในต่างประเทศเองนั้น มองว่ายังมีการแกว่งตัวค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นการเข้าไปลงทุนในคอมมอดิตี้เอง ก็ยังต้องรอดูสถานการณ์ให้แน่ชัดหรือนิ่งเสียก่อน นอกจากนี้แล้ว ในช่วงต้นไตรมาส 2 บริษัทมีแผนที่จะออกขายกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์แบบมีกรรมสิทธิ์ 101 มนตรี สโตร์เรจ (101 Montri Storage Property Fund หรือ STOR) ใหม่อีกครั้ง ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเปิดขายได้ภายในเดือนมีนาคม นี้ เนื่องจากขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการอนุมัติทางสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รอวันที่จะกำหนดไอพีโออยู่

สำหรับกองทุนหุ้นที่บริษัทได้บริหารจัดการอยู่มีด้วยกัน 4 กองทุน ซึ่งกองทุนให้ผลตอบแทนย้อนหลัง ณ วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2552 โดยจะใช้เกณฑ์มาตรฐานเดียวกัน ประกอบด้วย 1. กองทุนเปิดบีที ไลฟ์ 70 หุ้นปันผลระยะยาวย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี -4.11% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ -4.10% ย้อนหลัง 3 เดือน 3.74% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 7.39% ย้อนหลัง 6 เดือน -37.05% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ -36.95% ย้อนหลัง 1 ปี -38.90% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ -48.98% และผลตอบแทนตั้งแต่เริ่มจัดตั้งกองทุนอยู่ที่ -25.97% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ -34.17%

2. กองทุนเปิดบีที ไลฟ์ หุ้นระยะยาว ย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี -5.02% ย้อนหลัง 3 เดือน 3.42% ย้อนหลัง 6 เดือน -40.01% และย้อนหลัง 1 ปี -43.99% 3. กองทุนเปิดไลฟ์ หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ ย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี -5.05% ย้อนหลัง 3 เดือน 3.29% ย้อนหลัง 6 เดือน -37.29% และย้อนหลัง 1 ปี -42.15% และ 4. กองทุนเปิด หุ้นทาร์เก็ต 15/1 ย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี -4.54% ย้อนหลัง 3 เดือน 3.83% และย้อนหลัง 6 เดือน -38.32%

ขณะที่กองทุนรวมตราสารหนี้ที่บริษัทบริหารจัดการอยู่มีอยู่ด้วยกัน 3 กองทุน ซึ่งกองทุนให้ผลตอบแทนย้อนหลัง ณ วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2552 โดยจะใช้เกณฑ์มาตรฐานเดียวกัน ประกอบด้วย 1. กองทุนเปิด บีทีไลฟ์ ตราสารหนี้เพื่อการเลี้ยงชีพ ย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี 0.34% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ -2.93% ย้อนหลัง 3 เดือน 3.99% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 5.93% ย้อนหลัง 6 เดือน 4.02% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 11.09% และย้อนหลัง 1 ปี 2.00% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 6.91% 2. กองทุนเปิดบีที ไลฟ์ คุ้มครองเงินต้นเพื่อการเลี้ยงชีพ ย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี 0.39% ย้อนหลัง 3 เดือน 3.54% ย้อนหลัง 6 เดือน 3.09% และย้อนหลัง 1 ปี 2.36% และ 3. กองทุนเปิดไทยเดลี่ตราสารหนี้ ย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี 0.30% ย้อนหลัง 3 เดือน 5.93% ย้อนหลัง 6 เดือน 11.09% และย้อนหลัง 1 ปี 6.91%
กำลังโหลดความคิดเห็น