บลจ.กรุงไทย ส่งกองทุนต้อนรับปีฉลู เผยกลางเดือนมกราคมนี้เตรียมแผนเปิดขายกองทุนต่างประเทศ 1 กองทุน เน้นลงทุนหุ้น ตราสารหนี้และคอมอดิตี้ ชี้หลังปัญหาทางการเมืองในประเทศเริ่มคลี่คลาย นักลงทุนเริ่มสนใจหุ้นมากขึ้น ล่าสุด เดินหน้าขายกองทุนตราสารหนี้ในประเทศ "กรุงไทยธนทรัพย์ตราสารหนี้ 3 เดือน6 " เริ่มไอพีโอ 7 – 13 มกราคม 2552 นี้ ชูผลตอบแทน 1.4% ต่อปี
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การลงทุนในไตรมาสแรกของปีนี้บริษัทมองว่า การลงทุนในหุ้นเริ่มมีความน่าสนใจมากขึ้น เนื่องจากว่าการเมืองในประเทศเริ่มนิ่งและมีความชัดเจนมากขึ้น หลังจากที่ได้รัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศในขณะนี้ โดยในช่วงกลางเดือนมกราคมนี้ บริษัทเตรียมที่จะออกกองทุนหุ้นเพิ่มขึ้นอีก 1 กองทุน ซึ่งเป็นการลงทุนในหุ้นที่ต่างประเทศ รวมถึงจะเข้าไปลงทุนในตราสารหนี้ และคอมมอดิตี้ ในรูปแบบเดียวกับจิมโรเจอร์
ล่าสุด บริษัทประเดิมเปิดขายกองทุนตราสารหนี้รับปีฉลู 1 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดกรุงไทยธนทรัพย์ตราสารหนี้ 3 เดือน6 (Krung Thai Thanasup Fixed Income 3M6 Fund หรือ KTSUP3M6) ซึ่งกองทุนจะเริ่มทำการเปิดขายครั้งแรกในวันที่ 7 – 13 มกราคม 2552 นี้ ทั้งนี้กองทุนดังกล่าวมีอายุโครงการประมาณ 3 เดือน ซึ่งกองทุนจะให้ผลตอบแทนประมาณการอยู่ที่ 1.4% โดยกองทุนได้รับการอนุมัติให้จัดตั้งกองทุนแล้วเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2551 และจะเข้าจดทะเบียนกองทุนในวันที่ 14 มกราคม 2552 นี้
ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวจะเน้นการลงทุนในตราสารแห่งหนี้ที่เสนอขายทั้งในและต่างประเทศที่บริษัทจัดการพิจารณาเห็นแล้วว่าเป็นตราสารแห่งหนี้ที่มีคุณภาพและให้ผลตอบแทนที่เหมาะสมกับความเสี่ยง ส่วนที่เหลืออาจจะพิจารณาลงทุนในเงินฝากของสถาบันการเงินตามกฎหมายไทย หรือตราสารเทียบเท่าเงินสด ตามที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ประกาศกำหนด หรือให้ความเห็นชอบ นอกจากนี้ กองทุนอาจลงทุนในทรัพย์สินอื่น ได้แก่ การข้าทำธุรกรรมการซื้อโดยมีสัญญาขายคืนกับตราสารแห่งหนี้ดังกล่าวข้างต้น หรือหลักทรัพย์และทรัพย์สินอื่นที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. กำหนด โดยจะคำนึงถึงความมั่นคง และผลตอบแทนของตราสารเป็นสำคัญ ทั้งนี้ กองทุนจะเข้าทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยง เช่น ืการทำสวอป หรือสัญญาฟอร์เวิร์ดที่อ้างอิงกับอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน แต่กองทุนจะไม่ลงทุนในตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง ทั้งนี้บริษัทจัดการจะลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าดังกล่าวได้เมื่อได้รับความเห็นชอบจากธนาคารแห่งประเทศไทย และแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ทราบล่วงหน้าเฉพาะในกรณีที่คุณสัญญาเป็นธนาคารพาณิชย์ที่อยู่ในต่างประเทศ
นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมเปิดขายหน่วยลงทุนรอบใหม่ (โรลโอเวอร์) อีก 2 กองบอนด์ ประกอบด้วย กองทุนเปิดกรุงไทยประจำ 6 เดือนคุ้มครองเงินต้น 4 (The Krung Thai Capital Protection Fixed 6M Fund4 หรือ KTFIX6M4) ซึ่งจะเริ่มทำการเปิดขายอีกครั้งในวันที่ 7 - 13 มกราคม 2552 นี้ และกองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ท อินเวส 3 เดือน1 (Krung Thai Smart Invest 3M1 Fund หรือ KTSIV3M1) นั้น บริษัทจะเริ่มเปิดขายในวันที่ 12 – 15 มกราคม 2552 นี้
ทั้งนี้ กองทุนเปิดกรุงไทยประจำ 6 เดือนคุ้มครองเงินต้น 4 เป็นกองทุนรวมตราสารหนี้คุ้มครองเงินต้นแบบไม่มีกำหนดอายุของโครงการ ซึ่งกองทุนได้รับการอนุมัติให้จัดตั้งกองทุนแล้วเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2551โดยกองทุนดังกล่าวเหมาะสำหรับเงินลงทุนที่ต้องการคุ้มครองเงินต้นจากการลงทุน โดยผู้ลงทุนยอมรับความเสี่ยงได้ในระดับต่ำและต้องการโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนมากกว่าดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคาร รวมทั้งต้องการลงทุนเพียงระยะเวลาสั้น ๆ ประมาณ 6 เดือน
ส่วนกองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ท อินเวส 3 เดือน1 เป็นกองทุนตราสารหนี้ แบบไม่มีกำหนดอายุของโครงการ ซึ่งกองทุนได้รับการอนุมัติให้จัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2551 และเข้าจดทะเบียนกองทุนไปแล้วเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2551 และกองทุนได้ทำการเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรกไปแล้วเมื่อวันที่ 8 - 14 ตุลาคม 2551 ที่ผ่านมา โดยกองทุนดังกล่าวเหมาะกับเงินลงทุนของผู้ลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้ในระดับต่ำถึงปานกลางจากการลงทุนในตราสารแห่งหนี้ภาคเอกชน หรือตราสารหนี้ภาครัฐ
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การลงทุนในไตรมาสแรกของปีนี้บริษัทมองว่า การลงทุนในหุ้นเริ่มมีความน่าสนใจมากขึ้น เนื่องจากว่าการเมืองในประเทศเริ่มนิ่งและมีความชัดเจนมากขึ้น หลังจากที่ได้รัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศในขณะนี้ โดยในช่วงกลางเดือนมกราคมนี้ บริษัทเตรียมที่จะออกกองทุนหุ้นเพิ่มขึ้นอีก 1 กองทุน ซึ่งเป็นการลงทุนในหุ้นที่ต่างประเทศ รวมถึงจะเข้าไปลงทุนในตราสารหนี้ และคอมมอดิตี้ ในรูปแบบเดียวกับจิมโรเจอร์
ล่าสุด บริษัทประเดิมเปิดขายกองทุนตราสารหนี้รับปีฉลู 1 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดกรุงไทยธนทรัพย์ตราสารหนี้ 3 เดือน6 (Krung Thai Thanasup Fixed Income 3M6 Fund หรือ KTSUP3M6) ซึ่งกองทุนจะเริ่มทำการเปิดขายครั้งแรกในวันที่ 7 – 13 มกราคม 2552 นี้ ทั้งนี้กองทุนดังกล่าวมีอายุโครงการประมาณ 3 เดือน ซึ่งกองทุนจะให้ผลตอบแทนประมาณการอยู่ที่ 1.4% โดยกองทุนได้รับการอนุมัติให้จัดตั้งกองทุนแล้วเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2551 และจะเข้าจดทะเบียนกองทุนในวันที่ 14 มกราคม 2552 นี้
ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวจะเน้นการลงทุนในตราสารแห่งหนี้ที่เสนอขายทั้งในและต่างประเทศที่บริษัทจัดการพิจารณาเห็นแล้วว่าเป็นตราสารแห่งหนี้ที่มีคุณภาพและให้ผลตอบแทนที่เหมาะสมกับความเสี่ยง ส่วนที่เหลืออาจจะพิจารณาลงทุนในเงินฝากของสถาบันการเงินตามกฎหมายไทย หรือตราสารเทียบเท่าเงินสด ตามที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ประกาศกำหนด หรือให้ความเห็นชอบ นอกจากนี้ กองทุนอาจลงทุนในทรัพย์สินอื่น ได้แก่ การข้าทำธุรกรรมการซื้อโดยมีสัญญาขายคืนกับตราสารแห่งหนี้ดังกล่าวข้างต้น หรือหลักทรัพย์และทรัพย์สินอื่นที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. กำหนด โดยจะคำนึงถึงความมั่นคง และผลตอบแทนของตราสารเป็นสำคัญ ทั้งนี้ กองทุนจะเข้าทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยง เช่น ืการทำสวอป หรือสัญญาฟอร์เวิร์ดที่อ้างอิงกับอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน แต่กองทุนจะไม่ลงทุนในตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง ทั้งนี้บริษัทจัดการจะลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าดังกล่าวได้เมื่อได้รับความเห็นชอบจากธนาคารแห่งประเทศไทย และแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ทราบล่วงหน้าเฉพาะในกรณีที่คุณสัญญาเป็นธนาคารพาณิชย์ที่อยู่ในต่างประเทศ
นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมเปิดขายหน่วยลงทุนรอบใหม่ (โรลโอเวอร์) อีก 2 กองบอนด์ ประกอบด้วย กองทุนเปิดกรุงไทยประจำ 6 เดือนคุ้มครองเงินต้น 4 (The Krung Thai Capital Protection Fixed 6M Fund4 หรือ KTFIX6M4) ซึ่งจะเริ่มทำการเปิดขายอีกครั้งในวันที่ 7 - 13 มกราคม 2552 นี้ และกองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ท อินเวส 3 เดือน1 (Krung Thai Smart Invest 3M1 Fund หรือ KTSIV3M1) นั้น บริษัทจะเริ่มเปิดขายในวันที่ 12 – 15 มกราคม 2552 นี้
ทั้งนี้ กองทุนเปิดกรุงไทยประจำ 6 เดือนคุ้มครองเงินต้น 4 เป็นกองทุนรวมตราสารหนี้คุ้มครองเงินต้นแบบไม่มีกำหนดอายุของโครงการ ซึ่งกองทุนได้รับการอนุมัติให้จัดตั้งกองทุนแล้วเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2551โดยกองทุนดังกล่าวเหมาะสำหรับเงินลงทุนที่ต้องการคุ้มครองเงินต้นจากการลงทุน โดยผู้ลงทุนยอมรับความเสี่ยงได้ในระดับต่ำและต้องการโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนมากกว่าดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคาร รวมทั้งต้องการลงทุนเพียงระยะเวลาสั้น ๆ ประมาณ 6 เดือน
ส่วนกองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ท อินเวส 3 เดือน1 เป็นกองทุนตราสารหนี้ แบบไม่มีกำหนดอายุของโครงการ ซึ่งกองทุนได้รับการอนุมัติให้จัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2551 และเข้าจดทะเบียนกองทุนไปแล้วเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2551 และกองทุนได้ทำการเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรกไปแล้วเมื่อวันที่ 8 - 14 ตุลาคม 2551 ที่ผ่านมา โดยกองทุนดังกล่าวเหมาะกับเงินลงทุนของผู้ลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้ในระดับต่ำถึงปานกลางจากการลงทุนในตราสารแห่งหนี้ภาคเอกชน หรือตราสารหนี้ภาครัฐ