xs
xsm
sm
md
lg

ธนชาตเผยเงินลงทุนFIFหดตัว40% ลุ้นบอนด์กิมจิลงทุนมันนี่มาร์เก็ตต่อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ.ธนชาต เผยปัญหาเศรษฐกิจโลกซบเซา ฉุดเอ็นเอวีกองทุนเอฟไอเอฟ 5 กองทุนวูบกว่า 40% ลุ้นต่อ กองทุนบอนด์เกาหลีใต้ 5,000-6,000 ล้านบาทที่กำลังจะครบอายุเดือน พ.ค.นี้ เตรียมชงเข้ากองทุนมันนีมาร์เก็ตต่อ
นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์
นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ธนชาต จำกัด เปิดเผยว่า เมื่ออัตราดอกเบี้ยเงินฝากมีการปรับตัวลดลง ส่งผลให้บริษัทเน้นออกกองทุนรวมตราสารหนี้เป็นหลัก เนื่องจากกองทุนประเภทดังกล่าวสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า อีกทั้งยังมีความเสี่ยงต่ำด้วย โดยบริษัทจะเน้นการลงทุนให้มีความหลากหลาย ซึ่งในบางกองทุนอาจจะเข้าไปลงทุนในหุ้นกู้ หรือพันธบัตรรัฐบาล ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อให้มีทางเลือกแก่นักลงทุนมากขึ้น

ทั้งนี้ ในส่วนของกองทุนรวมต่างประเทศ (เอฟไอเอฟ) ในช่วงปีที่ผ่านมา มียอดรวมทั้งสิ้น 1,100 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2550 มีอยู่ที่ประมาณ 5,500 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่แล้วเม็ดเงินลงทุนจะมาจากกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนในพันธบัตรเกาหลีใต้เป็นหลัก ขณะเดียวกันในปีนี้บริษัทจะมีเม็ดเงินของกองทุนที่เข้าไปลงทุนในพันธบัตรเกาหลีใต้ที่จะครบอายุเข้ามาอีกประมาณ 5,000 - 6,000 ล้านบาท โดยจะเริ่มทยอยเข้ามาในช่วงเดือนมีนาคม - พฤษภาคม 2552 นี้ ซึ่งเมื่อกองทุนดังกล่าวครบกำหนดเมื่อไหร่ บริษัทเตรียมกองทุนประเภทรวมตลาดเงิน หรือ มันนีมาร์เก็ตที่บริษัทมีอยู่แล้วไว้รองรับให้แก่นักลงทุนกลุ่มนี้ได้เข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่อง

ส่วนกองทุนรวมเอฟไอเอฟที่เป็นกองทุนเปิดที่เปิดขายในช่วงปี 2550 ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 5 กองทุนนั้นในช่วงปี 2551 ที่ผ่านมา กองทุนทั้ง 5 กองทุนมูลค่าทรัพย์สินสุทธิหรือเอ็นเอวีหายไปกว่า 30 -40% เนื่องจากว่าได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจโลกจึงทำให้เอ็นเอวีลดลง ประกอบด้วย 1. กองทุนเปิดธนชาตพรีเมียมแบรนดส์ฟันด์ 2. กองทุนเปิดธนชาตโกลบอล บอนด์ ฟันด์ 3. กองทุนเปิดธนชาตนิวเอ็นเนอร์จีฟันด์ 4. กองทุนเปิดธนชาตอินฟราสตรัคเจอร์ แอนด์ แน็ชเชอร์รัล รีซอ และ 5. กองทุนเปิดธนชาตแวยูเอ็กซ์ยูเอสฟันด์

สำหรับผลตอบแทนย้อนหลัง ณ วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2552 กองทุนเปิดธนชาตพรีเมี่ยมแบรนส์ฟันด์ ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -7.46% เมื่อเทียบกับดัชนี MSCI WCDI-BAHT อยู่ที่ -6.92% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -34.07% เมื่อเทียบกับดัชนี MSCI WCDI-BAHT อยู่ที่ -34.36% ย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ -37.15% เมื่อเทียบกับดัชนี MSCI WCDI-BAHT อยู่ที่ -35.54% และผลตอบแทนตั้งแต่เริ่มจัดตั้งกองทุนอยู่ที่ -46.23% เมื่อเทียบกับดัชนี MSCI WCDI-BAHT อยู่ที่ -46.63%

ส่วนกองทุนเปิดธนชาตโกลบอล บอนด์ ฟันด์ ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 24.93% เมื่อเทียบกับดัชนี JP Morgan Global Govt อยู่ที่ 15.46% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 17.66% เมื่อเทียบกับดัชนี JP Morgan Global Govt อยู่ที่ 10.01% ย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 11.67% เมื่อเทียบกับดัชนี JP Morgan Global Govt อยู่ที่ 4.83% และผลตอบแทนตั้งแต่เริ่มจัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 5.45% เมื่อเทียบกับดัชนี JP Morgan Global Govt อยู่ที่ 11.15%

ขณะที่กองทุนเปิดธนชาตนิวเอ็นเนอร์จีฟันด์ ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 0.59% เมื่อเทียบกับดัชนี MSCI Wold (net) (BAHT) อยู่ที่ 6.00% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -42.79% เมื่อเทียบกับดัชนี MSCI Wold (net) (BAHT) อยู่ที่ -42.70% ย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ -40.55% เมื่อเทียบกับดัชนี MSCI Wold (net) (BAHT) อยู่ที่ -39.64% และผลตอบแทนตั้งแต่เริ่มจัดตั้งกองทุนอยู่ที่ -48.02% เมื่อเทียบกับดัชนี MSCI Wold (net) (BAHT) อยู่ที่ -50.28%

กองทุนเปิดธนชาตอินฟราสตรัคเจอร์ แอนด์ แน็ชเชอรัล รีซอ ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -8.84% เมื่อเทียบกับดัชนี MSCI ACWI อยู่ที่ 8.42% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -37.46% เมื่อเทียบกับดัชนี MSCI ACWIอยู่ที่ -30.66% ย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ -39.36% เมื่อเทียบกับดัชนี MSCI ACWIอยู่ที่ -30.24% และผลตอบแทนตั้งแต่เริ่มจัดตั้งกองทุนอยู่ที่ -25.09% เมื่อเทียบกับดัชนี MSCI ACWI อยู่ที่ -30.85%

และกองทุนเปิดธนชาตแวยูเอ็กซ์ยูเอสฟันด์ ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -10.63% เมื่อเทียบกับดัชนี MSCI ACWI อยู่ที่ -6.01% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -38.87% เมื่อเทียบกับดัชนี MSCI ACWIอยู่ที่ -40.92% ย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ -42.39% เมื่อเทียบกับดัชนี MSCI ACWIอยู่ที่ -43.41% และผลตอบแทนตั้งแต่เริ่มจัดตั้งกองทุนอยู่ที่ -53.00% เมื่อเทียบกับดัชนี MSCI ACWI อยู่ที่ -49.41%

นายบุญชัย กล่าวว่า ในส่วนของกองทุนเอฟไอเอฟ ยังคงต้องชะลอการลงทุนออกไปจนกว่าบริษัทจะเห็นจังหวะที่เหมาะสม ซึ่งในปีที่ผ่านมา บริษัทได้ยื่นเรื่องขออนุมัติให้จัดตั้งกองทุนกับทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ไปแล้วจำนวน 9 กองทุน โดยแบ่งออกเป็น กองทุนหุ้น 5 กองทุน, กองทุนผสม 2 กองทุน และ ตราสารหนี้ 2 กองทุน แต่ยังมิได้ออกขายแต่อย่างใด เนื่องจากว่าในปีที่ผ่านมา มีความผันผวนทางเศรษฐกิจเข้ามารบกวนมาก จึงได้ระงับการออกขายไป
กำลังโหลดความคิดเห็น