xs
xsm
sm
md
lg

คอมมอดิตีจูงใจยามหุ้นผันผวน-ดบ.ต่ำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการกองทุนเผย พิษเศรษฐกิจหดตัว บีบนักลงทุนหนีตลาดหุ้นผันผวน-ดอกเบี้ยต่ำ หันลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ ทั้งทองคำ-น้ำมัน แนะก่อนลงทุน จับจังหวะให้ถูก เพราะราคายังผันผวน ด้านหุ้นกู้เอกชนยังคงฮิตไม่เลิก อานิสงส์ผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝาก เตือนศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนลงทุน เน้นให้ลงทุนระยะยาว เชื่อให้ผลตอบแทนดีเมื่อเศรษฐกิจดีขึ้น

นายกรวุฒิ ลีนะบรรจง ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ยูโอบี (ไทย) จำกัด เปิดเผยว่า การลงทุนในตลาดหุ้นขณะนี้มีความผันผวนสูงมาก อีกทั้งตลาดได้ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้หลายๆบลจ.ได้มีการออกกองทุนรวมที่นอกเหนือจากการลงทุนในตลาดหุ้น โดยเป็นการลงทุนในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ (คอมมอดิตี) แทน อาทิ น้ำมัน ทองคำ ซึ่งราคาของสินค้าโภคภัณฑ์กลุ่มนี้มีความผันผวนสูงมาก

โดยแนวโน้มราคาน้ำมันในขณะนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจโดยรวมกำลังอยู่ในช่วงหดตัว จึงทำให้ความต้องการในการใช้พลังงานไม่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ดีมานด์ที่เกิดขึ้นจึงมีไม่มาก จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงอยู่ในขณะนี้จึงถือว่าสมเหตุสมผล จากการปรับตัวลดลงของราคาน้ำมันที่ 147 เหรียญต่อบาร์เรล เหลือ เพียง 40 เหรียญต่อบาร์เรล และในปีนี้คาดว่าราคาน้ำมันไม่น่าที่จะปรับตัวเกินกว่า 50 เหรียญต่อบาร์เรล เปรียบเทียบจากความต้องการใช้น้ำมันกับภาวะเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ในขณะนี้ จะส่งผลให้การเจริญเติบโตของเศรษฐกิจโลกค่อนข้างน้อย ขณะเดียวกัน ในปี 2553 หรือราคาน้ำมันในอีก 1 ปีข้างหน้าคาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น แม้เศรษฐกิจโลกจะยังไม่ฟื้นตัวมากนัก เพราะเมื่อใดที่ยังหาพลังงานอย่างอื่นมาแทนน้ำมันไม่ได้ น้ำมันก็จะเป็นที่ต้องการทั่วโลก จึงน่าจะทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวอยู่ที่ 90-100 เหรียญต่อบาร์เรล

ในส่วนของการลงทุนในทองคำก็เหมือนกับการลงทุนในน้ำมัน เพราะภาวะการลงทุนในตลาดทุนมีความผันผวนมาก ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆที่ประกาศออกมานั้นแย่กว่าที่มีการคาดหมายไว้ โดยส่งผลให้ระบบเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะหดตัวลงสูงมาก จึงทำให้การลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆมีความน่าสนใจน้อยลง เช่น การลงทุนในตลาดหุ้น หรือการลงทุนในพันธบัตร เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกปรับตัวลดลงจากการใช้นโยบายปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง เพื่อช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ปรับตัวดีขึ้น อีกทั้ง ในเรื่องของอัตราเงินเฟ้อในขณะนี้ก็ไม่ได้เป็นปัญหาต่อระบบเศรษฐกิจแต่อย่างใด

ขณะเดียวกัน การลงทุนในตราสารหนี้ จากการที่ทั่วโลกปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง ทำให้ผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุนในตราสารหนี้อยู่ในอัตราที่ต่ำ เช่นการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล หรือแม้กระทั้งอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างต่อเนื่อง จึงส่งผลให้นักลงทุนเลือกที่จะไปลงทุนในสินทรัพย์อย่างอื่นนอกเหนือจากตลาดทุน และตราสารหนี้ อันได้แก่ การลงทุนในทองคำ ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่มองว่า ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูง ดังนั้นการลงทุนในระยะยาวจะให้ผลตอบแทนที่ชนะเงินเฟ้อได้ หรือนักลงทุนจะเลือกลงทุนในกองทุนที่ผูกกับทองคำเป็นต้น

"ราคาทองคำมีความผันผวนสูง และแกว่งตัวมาก หากนักลงทุนที่มีความสนใจลงทุนในทองคำนั้น จะต้องรู้จักจับจังหวะในการลงทุนให้ดี เพราะราคาทองนั้นคาดคะเนยาก ไม่รู้ว่าจะปรับตัวไปในทิศทางใด อีกทั้งราคาทองคำในปัจจุบันนี้ได้ปรับตัวขึ้นมาแรงมาในระยะเวลาเพียงสั้นๆเท่านั้น ซึ่งจากความผันผวนและการดีดตัวแรงจึงอยากแนะนำนักลงทุนให้ขายออกบ้าง เพื่อรอจังหวะลงทุนใหม่ เพราะราคาทองคำขณะนี้บอกไม่ได้ว่าจะอยู่ที่ตรงไหน" นายกรวุฒิกล่าว

ขณะที่การลงทุนในหุ้นกู้เอกชนที่ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจของนักลงทุนในขณะนี้นั้น ถึงแม้จะมีผลตอบแทนที่สูงกว่าการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล แต่นักลงทุนควรจะคำนึงถึงความเสี่ยงในการลงทุนที่สูงตามผลตอบแทนด้วย ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงในเรื่องของการผิดนัดชำระหนี้ของบริษัทที่ออกหุ้นกู้ ที่อาจจะเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้นก็ได้ อีกทั้งการลงทุนยังเป็นการลงทุนระยะยาว มีสภาพคล่องน้อย โดยนักลงทุนที่ซื้อหุ้นกู้มาแล้วนั้นหากต้องการที่จะขายออกทำได้ค่อนข้างยากกว่าการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล

"อยากให้นักลงทุนที่ลงทุนในหุ้นกู้เอกชน พยายามศึกษาข้อมูลของบริษัทที่ออกหุ้นกู้ให้ดี ว่าเป็นอย่างไร บริษัทมีความมั่นคงและมีสภาพคล่องทางการเงินเป็นอย่างไรบ้าง โดยจะต้องติดตามข่าวสารต่างๆตลอดรวมไปถึงการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัท ว่าบริษัทมีการปรับลดหรือปรับเพิ่มการจัดอันดับความน่าเชื่อถือเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งที่ผ่านมามีหลายๆบริษัทที่ได้ลดการจัดอันดับความน่าเชื่อถือลง ดังนั้น นักลงทุนจึงต้องใช้วิจารณญาณในการเลือกลงทุนเพราะการลงทุนในหุ้นกู้นั้นไม่ได้ใช้หลักประกันใดให้นักลงทุนมั่นใจเลย "นายกรวุฒิ กล่าว

ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ. ยูโอบี กล่าวอีกว่า ด้านการจัดพอร์ตการลงทุนนั้นหากเป็นการลงทุนระยะยาว นักลงทุนจะเลือกลงทุนในในทองคำ น้ำมัน หรือหุ้นกู้เอกชนก็ดี สามารถให้ผลตอบแทนที่ดีแก่นักลงทุนได้ แต่หากจะถามว่าต้องลงทุนในสินทรัพย์แต่ละประเภทเป็นสัดส่วนเท่าใดนั้นไม่สามารถที่จะตอบนักลงทุนได้ เนื่องจากนักลงทุนแต่ละคนแตกต่างกันการยอมรับความเสี่ยงในการลงทุนก็ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับนักลงทุนแต่ละคนว่าจะสามารถยอมรับความเสี่ยงได้มากเพียงใดมากกว่า

นายศิระ คล่องวิชา ผู้จัดการกองทุน ฝ่ายลงทุนตราสารหนี้ บลจ.ทหารไทย กล่าวว่า จากราคาทองคำในขณะนี้ยังไม่สามารถที่จะคาดการณ์ได้ โดยขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างด้วยกัน เช่นสภาพเศรษฐกิจซึ่งก็ยังคงไม่มีความแน่นอนอยู่ ซึ่งในสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูง ได้มาจากปัจจัยราคาน้ำมันและอัตราแลกเปลี่ยนจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง จึงทำให้ราคาทองในขณะนี้คงนิ่งอยู่ ทั้งนี้ สาเหตุที่ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น เนื่องมาจาก เศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัว ทำให้มีดีมานด์ และการเก็งกำไรเข้ามาช่วยให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนั้น การลงทุนจึงต้องเพิ่มความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ นอกจากนี้ จากการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์คาดว่าในระยะยาวราคาทองคำมีแนวโน้มอาจจะปรับตัวลดลงเหลือเพียง 800 เหรียญต่อออนซ์

สำหรับการลงทุนในหุ้นกู้เอกชนนั้น ขณะนี้บริษัทต่างๆจะยังคงออกหุ้นกู้เอกชนอย่างต่อเนื่อง เพราะดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์ต่างๆปรับตัวลดลงช้าจากสภาพเศรษฐกิจที่อยู่ในช่วงขาลง ทำให้บริษัทต้องการเม็ดเงินมาใช้ในการลงทุนเป็นจำนวนมากจึงหันมาออกหุ้นกู้แทน โดยให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าพันธบัตรรัฐบาล และอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก แต่นักลงทุนที่ลงทุนในหุ้นกู้เอกชนนั้น จะต้องพิจารณาบริษัทที่จะเข้าไปลงทุนว่ามีความเป็นมาอย่างไร สภาพคล่องทางการเงิน และผลการดำเนินงานย้อนหลัง ว่าบริษัทมีความมั่นคงมากน้อยแค่ไหน อีกทั้งในเรื่องของการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทด้วย ที่นักลงทุนจะต้องจับตาดูเป็นพิเศษ เนื่องจากที่ผ่านมามีหลายๆบริษัทที่มีการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลง โดยนักลงทุนควรเลือกบริษัทที่สามารถไว้วางใจได้ โดยจะต้องศึกษาเป็นรายตัวบริษัทไป อย่าซื้อเพราะผลตอบแทนที่ได้สูง

"อยากแนะนำนักลงทุนถึงการลงทุนในหุ้นกู้เอกชนในขณะนี้ ถือว่ามีความมั่นคงสูง ซึ่งสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่นักลงทุนได้ โดยการลงทุนนั้นไม่ควรเลือกลงทุนในหุ้นกู้ที่มีอายุยาวมากประมาณ 5-6 ปี เพราะจากวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นคาดว่าเศรษฐกิจจะซบเซาหรือชะลอตัวแค่ประมาณ 3-4ปี ดังนั้น นักลงทุนควรที่จะแบ่งสัดส่วนการลงทุนออกเป็นสองส่วน คือแบ่งส่วนหนึ่งไว้ลงทุนในหุ้นกู้ระยะยาวโดยนักลงทุนควรที่จะทยอยลงทุน และอีกส่วนหนึ่งให้ถือเงินสดในระยะสั้นๆเพื่อรอที่จะลงทุนต่อ" นายศิระ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น