หลังจากที่นักวิเคราะห์หลายคนมองว่า การลงทุนในตราสารหนี้ ไม่น่าสนใจเเล้วสำหรับคนที่ต้องการผลตอบเเทนสูง เนื่องจากประเทศไทยจะต้องเผชิญกับภาวะดอกเบี้ยขาลงอีก ในขณะที่ตลาดทุนก็ยังต้องเจอกับข่าวร้ายรายวันเเละปัจจัยที่มาจากต่างประเทศอีกหลายระลอก เเม้เเต่การฝากเงินเเละซื้อทองก็ไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด ดังนั้น ทางเลือกลงทุนใน่ชวงนี้จึงเหลือน้อยเต็มที
แต่หากจะลงทุนผสมผสานระหว่างตราสารหนี้ และตราสารทุน และจัดพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสม ผลตอบแทนที่ออกมาน่าจะอยู่ในระดับที่พอใจได้...วันนี้ คอลัมน์ "Best of Fund" จึงขอหบิยเอาผลการดำเนินงานของกองทุนรวมผสมเเบบยืดหยุ่นในช่วงปี 2551 ที่ผ่านมา ให้เป็นข้อมูลเพื่อเป็นทางเลืกหนึ่งของผู้ลงทุน
สำหรับกองทุนที่ให้ผลตอบแทนมาเป็นอันดับที่ 1 คือกองทุนเปิดวายุภักษ์หนึ่ง ภายใต้การบริหารจัดการถึง 2 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ด้วยกันคือ บลจ.เอ็มเอฟซี เเละบลจ.กรุงไทย โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 อยู่ที่ 134,520.50 ล้านบาทมีผลตอบเเทนย้อนหลังตั้งเต่ต้นปีอยู่ที่ 5.73% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ถึง 53.29% ซึ่งเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ -47.56%
อันดับที่ 2 คือกองทุนเปิดเเอสเเซทพลัสสถาบันปันผล อยู่ภายใต้การบริหารจัดการ บลจ.เเอสเซทพลัส มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ 1,157.37 ล้านบาท ซึ่งผลตอบเเทนย้อนหลังตั้งเเต่ต้นปีอยู่ที่ 5.11% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 52.67%
อันดับที่ 3 กองทุนเปิดรวงข้าวตราสารมั่นคง ภายใต้การบริหารจัดการบลจ.กสิกรไทย มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ 92.97 ล้านบาทโดยผลตอบเเทนย้อนหลังตั้งเเต่ต้นปีอยู่ที่ 2.95% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 50.51%
ขณะที่อันดับที่ 4 กองทุนเปิดบีเฟล็กซ์ ภายใต้การบริหารจัดการของบลจ.บัวหลวง มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ 385.52 ล้านบาท ให้ผลตอบเเทนย้อนหลังตั้งเเต่จัดตั้ต้นปีที่ 2.5% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 50.06%
อันดับที่ 5 กองทุนเปิดสินวัฒนา บริหารจัดการโดย บลจ.กสิกรไทย มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิอยู่ที่ 66.95 ล้านบาท ให้ผลตอบเเทนย้อนหลังตั้งเเต่ต้นปีอยู่ที่ 1.8% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 49.43%
ส่วนอันดับที่ 6 คือ กองทุนเปิดพรีมาเวสท์ สเปซิฟิกเฟล็กซิเบิ้ลฟันด์ ภายใต้การบริหารจัดการของบลจ.พรีมาเวสท์ มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิอยู่ที่ 1,533.08 ล้านบาท ซึ่งมีผลตอบเเทนย้อนหลังตั้งเเต่ต้นปีอยู่ที่ -1.21% ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 46.35%
ส่วนกองทุนเปิดกองทุนเปิดไทยมิกซ์ ไฟกัส อยู่ในอันดับที่ 7 ซึ่งบริหารจัดการโดยบลจ.บีที มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิอยู่ที่ 252.24 ล้านบาท เเละมีผลตอบเเทนย้อนหลังตั้งเเต่ต้นปีอยู่ที่ -3.98% สูงกงว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 43.58%
อันดับที่ 8 กองทุนเปิดเมกซ์บาลานซ์ ภายใต้การบริหารจัดของบลจ. นครหลวงไทย มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิอยู่ที่ 2,11.89 ล้านบาท มีผลตอบเเทนย้อนหลังตั้งเเต่ต้นปีอยู่ที่ -9.38 สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 38.18%
อันดับที่ 9 คือกองทุนเปิดฮาร์เวสท์ ภายใต้การบริหารจัดการของบลจ.ไอเอ็นจี มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิอยู่ที่ 180.5 ล้านบาท ให้ผลตอบเเทนย้อนหลังตั้งเเต่ต้นปีอยู่ที่ 18.51% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 29.05%
เเละอันดับที่ 10 กองทุนเปิดไอเอ็นจีไทยบาลานซ์ฟันด์ ภายใต้การบริหารจัดการ บลจ.ไอเอ็นจี มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิอยู่ที่ 143.71 ล้านบาท มีผลตอบเเทนย้อนหลังตั้งเเต่ต้นปีอยู่ที่ -22.68% พบว่าสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 24.88%
เปิดพอร์ตกองทุนอันดับ 1
สำหรับกองทุนวายุภักษ์ 1จัดตั้งขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่1 กรกฎาคม 2546 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ1. เพิ่มทางเลือกในการออมและการลงทุนให้แก่ประชาชน2. ส่งเสริม สนับสนุนการพัฒนาตลาดเงินและตลาดทุนของประเทศ 3. ทำให้การบริหารจัดการหลักทรัพย์ที่กระทรวงการคลังถือครองอยู่เกิดประโยชน์สูงสุด และเพิ่มทางเลือกให้กับรัฐบาลในการจัดสรรเงินที่นอกเหนือจากการจัดสรรเงินจากงบประมาณ เพื่อนำไปลงทุนในกิจการที่มีความจำเป็นและต้องการการส่งเสริมจากภาครัฐ โดยจะเน้นลงทุนหลักทรัพย์ที่กระทรวงการคลัง ถือหุ้นอยู่ ตราสารทางการเงินของรัฐบาล รัฐวิสาหกิจ หรือสถาบันการเงินอื่น และหรือเงินฝาก
ปัจจุบัน กองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่ง มีขนาดมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ณ 31 ธันวาคม 2551 เท่ากับ 134,521.53 ล้านบาท และมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิต่อหน่วยลงทุนของนักลงทุนประเภท ก (นักลงทุนทั่วไป) เท่ากับ 10.6965 บาท
ทั้งนี้ กองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่ง เป็นกองทุนรวมผสมแบบยืดหยุ่นซึ่งมีนโยบายการลงทุน ทั้งใน ตราสารแห่งทุนและตราสารแห่งหนี้ โดยปัจจุบันลงทุนในตราสารแห่งทุนประมาณ 85% และ ตราสารแห่งหนี้ ประมาณ 15%
ส่วนผลการดำเนินงานล่าสุด กองทุนมีรายได้จากการลงทุนสุทธิรวมกับกำไรที่เกิดขึ้นจริง ในปี 2551 เท่ากับ 9,755.23 ล้านบาท สูงกว่างวดเดียวกันของปี 2550 ที่ 9,242.65 ล้านบาท และมีผลขาดทุนจากการลงทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงเท่ากับ 15,140.67 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับกำไรจากการลงทุนในงวดเดียวกันของปี 2550 ที่ 3,481.74 ล้านบาท และในปี 2551 กองทุนมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิจากการดำเนินงานลดลง 5,385.43 ล้านบาท
แต่หากจะลงทุนผสมผสานระหว่างตราสารหนี้ และตราสารทุน และจัดพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสม ผลตอบแทนที่ออกมาน่าจะอยู่ในระดับที่พอใจได้...วันนี้ คอลัมน์ "Best of Fund" จึงขอหบิยเอาผลการดำเนินงานของกองทุนรวมผสมเเบบยืดหยุ่นในช่วงปี 2551 ที่ผ่านมา ให้เป็นข้อมูลเพื่อเป็นทางเลืกหนึ่งของผู้ลงทุน
สำหรับกองทุนที่ให้ผลตอบแทนมาเป็นอันดับที่ 1 คือกองทุนเปิดวายุภักษ์หนึ่ง ภายใต้การบริหารจัดการถึง 2 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ด้วยกันคือ บลจ.เอ็มเอฟซี เเละบลจ.กรุงไทย โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 อยู่ที่ 134,520.50 ล้านบาทมีผลตอบเเทนย้อนหลังตั้งเต่ต้นปีอยู่ที่ 5.73% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ถึง 53.29% ซึ่งเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ -47.56%
อันดับที่ 2 คือกองทุนเปิดเเอสเเซทพลัสสถาบันปันผล อยู่ภายใต้การบริหารจัดการ บลจ.เเอสเซทพลัส มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ 1,157.37 ล้านบาท ซึ่งผลตอบเเทนย้อนหลังตั้งเเต่ต้นปีอยู่ที่ 5.11% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 52.67%
อันดับที่ 3 กองทุนเปิดรวงข้าวตราสารมั่นคง ภายใต้การบริหารจัดการบลจ.กสิกรไทย มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ 92.97 ล้านบาทโดยผลตอบเเทนย้อนหลังตั้งเเต่ต้นปีอยู่ที่ 2.95% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 50.51%
ขณะที่อันดับที่ 4 กองทุนเปิดบีเฟล็กซ์ ภายใต้การบริหารจัดการของบลจ.บัวหลวง มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ 385.52 ล้านบาท ให้ผลตอบเเทนย้อนหลังตั้งเเต่จัดตั้ต้นปีที่ 2.5% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 50.06%
อันดับที่ 5 กองทุนเปิดสินวัฒนา บริหารจัดการโดย บลจ.กสิกรไทย มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิอยู่ที่ 66.95 ล้านบาท ให้ผลตอบเเทนย้อนหลังตั้งเเต่ต้นปีอยู่ที่ 1.8% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 49.43%
ส่วนอันดับที่ 6 คือ กองทุนเปิดพรีมาเวสท์ สเปซิฟิกเฟล็กซิเบิ้ลฟันด์ ภายใต้การบริหารจัดการของบลจ.พรีมาเวสท์ มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิอยู่ที่ 1,533.08 ล้านบาท ซึ่งมีผลตอบเเทนย้อนหลังตั้งเเต่ต้นปีอยู่ที่ -1.21% ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 46.35%
ส่วนกองทุนเปิดกองทุนเปิดไทยมิกซ์ ไฟกัส อยู่ในอันดับที่ 7 ซึ่งบริหารจัดการโดยบลจ.บีที มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิอยู่ที่ 252.24 ล้านบาท เเละมีผลตอบเเทนย้อนหลังตั้งเเต่ต้นปีอยู่ที่ -3.98% สูงกงว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 43.58%
อันดับที่ 8 กองทุนเปิดเมกซ์บาลานซ์ ภายใต้การบริหารจัดของบลจ. นครหลวงไทย มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิอยู่ที่ 2,11.89 ล้านบาท มีผลตอบเเทนย้อนหลังตั้งเเต่ต้นปีอยู่ที่ -9.38 สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 38.18%
อันดับที่ 9 คือกองทุนเปิดฮาร์เวสท์ ภายใต้การบริหารจัดการของบลจ.ไอเอ็นจี มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิอยู่ที่ 180.5 ล้านบาท ให้ผลตอบเเทนย้อนหลังตั้งเเต่ต้นปีอยู่ที่ 18.51% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 29.05%
เเละอันดับที่ 10 กองทุนเปิดไอเอ็นจีไทยบาลานซ์ฟันด์ ภายใต้การบริหารจัดการ บลจ.ไอเอ็นจี มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิอยู่ที่ 143.71 ล้านบาท มีผลตอบเเทนย้อนหลังตั้งเเต่ต้นปีอยู่ที่ -22.68% พบว่าสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 24.88%
เปิดพอร์ตกองทุนอันดับ 1
สำหรับกองทุนวายุภักษ์ 1จัดตั้งขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่1 กรกฎาคม 2546 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ1. เพิ่มทางเลือกในการออมและการลงทุนให้แก่ประชาชน2. ส่งเสริม สนับสนุนการพัฒนาตลาดเงินและตลาดทุนของประเทศ 3. ทำให้การบริหารจัดการหลักทรัพย์ที่กระทรวงการคลังถือครองอยู่เกิดประโยชน์สูงสุด และเพิ่มทางเลือกให้กับรัฐบาลในการจัดสรรเงินที่นอกเหนือจากการจัดสรรเงินจากงบประมาณ เพื่อนำไปลงทุนในกิจการที่มีความจำเป็นและต้องการการส่งเสริมจากภาครัฐ โดยจะเน้นลงทุนหลักทรัพย์ที่กระทรวงการคลัง ถือหุ้นอยู่ ตราสารทางการเงินของรัฐบาล รัฐวิสาหกิจ หรือสถาบันการเงินอื่น และหรือเงินฝาก
ปัจจุบัน กองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่ง มีขนาดมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ณ 31 ธันวาคม 2551 เท่ากับ 134,521.53 ล้านบาท และมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิต่อหน่วยลงทุนของนักลงทุนประเภท ก (นักลงทุนทั่วไป) เท่ากับ 10.6965 บาท
ทั้งนี้ กองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่ง เป็นกองทุนรวมผสมแบบยืดหยุ่นซึ่งมีนโยบายการลงทุน ทั้งใน ตราสารแห่งทุนและตราสารแห่งหนี้ โดยปัจจุบันลงทุนในตราสารแห่งทุนประมาณ 85% และ ตราสารแห่งหนี้ ประมาณ 15%
ส่วนผลการดำเนินงานล่าสุด กองทุนมีรายได้จากการลงทุนสุทธิรวมกับกำไรที่เกิดขึ้นจริง ในปี 2551 เท่ากับ 9,755.23 ล้านบาท สูงกว่างวดเดียวกันของปี 2550 ที่ 9,242.65 ล้านบาท และมีผลขาดทุนจากการลงทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงเท่ากับ 15,140.67 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับกำไรจากการลงทุนในงวดเดียวกันของปี 2550 ที่ 3,481.74 ล้านบาท และในปี 2551 กองทุนมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิจากการดำเนินงานลดลง 5,385.43 ล้านบาท