xs
xsm
sm
md
lg

กสิกรไทยชูตลาดเอเชียน่าลงทุน โอกาสรับผลตอบแทนจูงใจกว่า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - บลจ.กสิกรไทย ยังเชื่อมั่นการลงทุนในตลาดต่างประเทศ  ชี้ผลตอบแทนจะยังสูงน่าจูงใจกว่า โดยเฉพาะกลุ่มประเทศเอเชีย ชูกองเอฟไอเอฟ เป็นช่องทางกระจายความเสี่ยง พร้อมแจงผลงานกอง "รวงข้าวโกลบัล บาลานซ์" วูบกว่า 29% เหตุลดลงตามราคาที่ปรับลงทั่วโลก ล่าสุด ปรับพอร์ตเน้นลุยหุ้นเอเชีย รองรับโอกาสฟื้นตัว ชี้ระยะยาว 2-3 ปี ผลตอบแทนพุ่ง
      นายอิศรา พุฒตาลศรี ผู้จัดการกองทุน ฝ่ายจัดการกองทุนผสม บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มการลงทุนในตลาดต่างประเทศ เชื่อว่ายังจะให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าการลงทุนในประเทศ แม้ว่าเศรษฐกิจในประเทศหลักอย่างเช่น สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น ทั้งตลาดหุ้นและตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศเหล่านี้จะยังคงมีความผันผวนสูง  แต่เชื่อว่าตลาดหุ้นเอเชียในช่วง 1-2 ปีข้างหน้านี้จะสามารถให้ผลตอบแทนที่ดี ซึ่งสังเกตุได้จากตัวเลขพื้นฐานหนี้ในต่างประเทศนั้นไม่ได้มีมากเหมือนก่อนหน้านี้
     สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศนั้น หากอยากกระจายความเสี่ยงการลงทุน ควรเลือกลงทุนไปในประเทศหลายๆ ประเทศ โดยไม่ควรลงทุนแห่งใดเพียงแห่งเดียว เพราะการลงทุนหลายประเทศ ช่วยกระจายเงินลงทุนหาผลตอบแทนในประเทศที่สูงกว่าได้ ทั้งนี้ บริษัทเองมีกองทุนรวมต่างประเทศ (เอฟไอเอฟ) ให้นักลงทุนเลือกด้วยกันหลายกองทุน อีกทั้ง ยังเป็นช่องทางการกระจายการลงทุนไปในประเทศที่ตรงตามความต้องการของนักลงทุนส่วนใหญ่ด้วย
 
อย่างไรก็ตาม จากวิกฤตการเงินที่เกิดขึ้นในสหรัฐ ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของกองทุนเอฟไอเอฟของเราด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะกองทุนเปิดรวงข้าวโกลบัล บาลานซ์ (RKGB) ซึ่งจากการประกาศผลการดำเนินงานล่าสุด งวดหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 พฤศจิกายน 2551 โดยเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนพบว่า สินทรัพย์สุทธิของกองทุนลดลง 149.12 ล้านบาท หรือ 3.74 บาทต่อหน่วย เนื่องจากกองทุน BGF Strategic Allocation Fund  ซึ่งเป็นกองทุนที่กองทุน RKGB ลงทุน มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิลดลงร้อยละ 29.32 อันเป็นผลมาจากการปรับตัวลดลงของตลาดทุนทั่วโลก
 นายอิศรากล่าวว่า  กองทุนแม่ในต่างประเทศ นั่นคือ  BGF Strategic Allocation Fund มีลักษณะเป็นกองทุนผสม ซึ่งมีนโยบายเข้าไปลงทุนตลาดหุ้นและตราสารหนี้ทั่วโลก อย่างละ 50% ของสินทรัพย์กองทุน ซึ่งช่วงที่ผ่านมานั้นตลาดหุ้นได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ จึงส่งผลให้ตลาดปรับตัวเป็นลบ และทำให้กองทุนมีผลการดำเนินงานที่ลดลงมาด้วย
ทั้งนี้กองทุน RKGB ได้มีการปรับเซกเตอร์การลงทุนมาลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียมากขึ้น  เพราะบริษัทมองว่าการลงทุนในตลาดเกิดใหม่ในภูมิภาคเอเชียจะสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าการลงทุนในภูมิภาคอื่น ซึ่งการลงทุนจะเน้นลงทุนในพอร์ตหุ้นมากกว่าตราสารหนี้  โดยบริษัทจะเน้นลงทุนในหุ้นที่มีความสามารถในการทำกำไรอย่างสม่ำเสมอ
 "ก่อนหน้านี้ได้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจขึ้น ทำให้เราได้มีการลดสัดส่วนการลงทุนลงในบางประเทศ แต่ถ้านักลงทุนต้องการลงทุนในประเทศดังกล่าว เราก็พร้อมจะเพิ่มสัดส่วนการลงทุนเพิ่มขึ้นตามความต้องการ ยกตัวอย่าง เช่น นักลงทุนอยากลงทุนในประเทศจีน เพราะตลาดหุ้นปรับตัวลดลงเยอะ โดยคาดการณ์ว่าตลาดจะต้องปรับตัวเพิ่มขึ้นในระยะเวลาอีกไม่นานนี้ "นายอิศรา กล่าว
 สำหรับการลงทุนในหุ้นนั้น บริษัทมองว่าการลงทุนระยะยาวสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีและสูงให้แก่นักลงทุนได้ โดยระยะยาวที่ว่านี้คือการลงทุนในตลาดหุ้นอย่างน้อย 2-3 ปี
 นายอิศรา กล่าวว่า เรามองว่าราคาหุ้นขณะนี้ถูก เหมาะสำหรับการเข้าไปช้อนซื้อเก็บไว้ในพอร์ต โดยโอกาสที่หุ้นเหล่านี้จะปรับตัวเพิ่มขึ้นยังมีอยู่ แต่การลงทุนจำเป็นที่จะต้องดูภาวะเศรษฐกิจประกอบด้วย ซึ่งปีนี้เรามองว่าสถานการณ์ตลาดหุ้นจะดีขึ้น เนื่องจากว่าธนาคารกลางทั่วโลกได้ปรับลดดอกเบี้ยลง อีกทั้งรัฐบาลมีการออกมาตรการต่างๆมาเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและกระตุ้นการใช้จ่ายมากขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น