xs
xsm
sm
md
lg

"กรุงไทยซาริอะฮ์เพื่อการเลี้ยงชีพ" แชมป์อาร์เอ็มเอฟหุ้นเดือนตุลาคม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ท่ามกลางภาวะความผันผวนของตลาดหุ้นไทยในขณะนี้ ทำให้นักลงทุนทั่วไปเกิดอาการหวาดหวั่น และไม่มั่นใจในการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นกองทุนเก่าหรือกองทุนใหม่ที่ออกมาในช่วงนี้กันมากนัก ยิ่งเป็นกองทุนลงทุนในหุ้นอย่างกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ด้วยแล้ว ยิ่งคิดมากขึ้นไปอีก ในทางเดียวกัน กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ที่ลงทุนในหุ้นเองก็มีความเสี่ยงเช่นกัน ซึ่งในช่วงที่ตลาดหุ้นผันผวนเช่นนี้ ถือเป็นความท้าทายของผู้จัดการกองทุนทีเดียว

และในช่วงนี้ เป็นช่วงที่บรรดาบริษัทจัดการกองทุน ต่างโหมโปรโมชั่นกองทุนแอลทีเอฟและอาร์เอ็มเอฟชนิดไม่มีใครยอมใคร เพื่อเป็นข้อมูลการลงทุน คอลัมน์ "Best of Fund" ในฉบับนี้ จะขอพานักลงทุนทุกท่านไปติดตามดูผลการดำเนินงานของกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพกันว่า ภาวะการลงทุนที่ค่อนข้างผันผวนในช่วงที่ผ่านมา จะส่งผลต่อผลการดำเนินงานของกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพอย่างไรบ้าง และกองทุนของค่ายไหน จะโชว์ฝีมือดีที่สุดใน 10 อันดับแรก เพื่อให้นักลงทุนทั้งหลายได้ติดตามกัน

สำหรับผลการดำเนินงานกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2551 ที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด 10 อันดับแรก ได้แก่ อันดับ 1 กองทุนเปิดกรุงไทยชาริอะฮ์เพื่อการเลี้ยงชีพ ภายใต้การบริหารจัดการของ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด โดยกองทุนให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ -32.71% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 18.75%

ส่วนอันดับ 2 คือ กองทุนเปิดบีที ไลฟ์ หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ ของบลจ.บีที โดยให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ -37.72% สูงกว่าผลตอบแทนดัชนีตลาดหลักทรัพย์ 13.74%

อันดับ 3 กองทุนเปิดอยุธยาหุ้นปันผลเพื่อการเลี้ยงชีพ ของ บลจ.อยุธยา โดยให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ -39.79% สูงกว่าผลตอบแทนดัชนีตลาดหลักทรัพย์ 11.67%

อันดับ 4 กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ ของ บลจ.ไทยพาณิชย์ โดยให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ -40.84% สูงกว่าผลตอบแทนดัชนีตลาดหลักทรัพย์ 10.62%

อันดับ 5 กองทุนเปิดบัวหลวงตราสารทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ ของ บลจ.บัวหลวง โดยให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ -42.04% ต่อปี สูงกว่าผลตอบแทนดัชนีตลาดหลักทรัพย์ 9.24%

อันดับ 6 กองทุนเปิดธนชาตหุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ ของ บลจ.ธนชาต โดยให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ -42.92% ต่อปี สูงกว่าผลตอบแทนดัชนีตลาดหลักทรัพย์ 8.54%

อันดับ 7 กองทุนเปิดแอสเซทพลัสตราสารทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ บลจ.กสิกรไทย โดยให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีที่ -42.96% สูงกว่าผลตอบแทนดัชนีตลาดหลักทรัพย์ 8.50%

อันดับ 8 กองทุนเปิดอเบอร์ดีนสมาร์ทแคปปิตอลเพื่อการเลี้ยงชีพ ของ บลจ.อเบอร์ดีน โดยให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีที่ -43.06% ต่อปี สูงกว่าผลตอบแทนดัชนีตลาดหลักทรัพย์ 8.40%

อันดับ 9 กองทุนเปิดแมกซ์หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ ของ บลจ.นครหลวงไทย โดยให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีที่ -43.32% สูงกว่าผลตอบแทนดัชนีตลาดหลักทรัพย์ 8.14%

และอันดับ 10 กองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ ของบลจ.ไปเอ็นจี โดยให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีที่ -43.99% สูงกว่าผลตอบแทนดัชนีตลาดหลักทรัพย์ 7.47%

ทั้งนี้ ผลตอบแทนดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี อยู่ที่ -51.46 %

เปิดพอร์ตกองทุนอันดับ1
เมื่อเร็วๆนี้ ผู้จัดการกองทุน บลจ.กรุงไทย เปิดเผยว่า กองทุนนี้มีนโยบายลงทุนไม่ต่างจากกองทุนหุ้นทั่วไปมากนัก เพียงแต่มีข้อจำกัดของหุ้นที่กองทุนสามารถลงทุนได้เท่านั้น เนื่องจากกองทุนดังกล่าว มีนโยบายลงทุนตามหลักศาสนาอิสลาม ดังนั้น จึงไม่สามารถลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวกับดอกเบี้ย หุ้นกลุ่มอาหารที่ไม่มีฮาลาล รวมถึงหุ้นในกลุ่มบันเทิงด้วย อย่างไรก็ตาม กองทุนจะเน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีศักยภาพในการจ่ายเงินปันผลสูง และมีความสามารถในการแข่งขันในธุรกิจเดียวกัน

โดยพอร์ตการลงทุนปัจจุบัน ผู้จัดการกองทุนจะค่อนข้างระมัดระวัง เพราะเป็นเงินลงทุนระยะยาว ดังนั้น จึงเน้นลงทุนอะไรที่ไม่เสี่ยงมากนัก อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์การลงทุนอาจจะแอกทีฟบ้าง โดยจะลดสัดส่วนการลงทุนแล้วแต่จังหวะ เช่น ในช่วงที่ราคาหุ้นค่อนข้างถูก และดัชนีมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น ก็อาจจะให้น้ำหนักการลงทุนในหุ้นเยอะ ในทางกลับกัน หากดัชนีปรับตัวขึ้นไปสูงๆ ก็จะขายออกมาเพื่อลดความเสี่ยงบ้าง ซึ่งที่ผ่านมา กลยุทธ์ดังกล่าวถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี เห็นได้จากผลการดำเนินงานของกองทุนเอง ออกมาค่อนข้างดี ถึงแม้จะติดลบตามภาวะตลาด แต่ก็น้อยกว่า ทั้งนี้ ในช่วงที่ตลาดหุ้นผันผวนหนัก กองทุนได้ปรับพอร์ตรับมือไปก่อนหน้านี้บ้างแล้ว

"จุดเด่นของกองทุนนี้ คือ เป็นกองทุนที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนอิสลาม มีโอกาสลงทุนในหุ้นที่ถูกต้องตามหลักศาสนา ซึ่งนักลงทุนทั่วไปเองก็สามารถลงทุนได้ และการที่กองทุนอาร์เอ็มเอฟ เป็นการลงทุนระยะยาว ดังนั้น เราจึงไม่เน้นลงทุนอะไรที่มีความเสี่ยงมากเกินไป ซึ่งลูกค้าสามารถวางใจว่าเงินจะปลอดภัยได้ระดับหนึ่ง" ผู้จัดการกองทุนกล่าว

สำหรับกองทุนเปิดกรุงไทยชาริอะฮ์เพื่อการเลี้ยงชีพมีนโยบายลงทุนส่วนใหญ่ในตราสารทุน ที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกตามหลักศาสนาอิสลามที่มีผลประกอบการและมีแนวโน้มการเจริญเติบโตอยู่ในเกณฑ์ดี ส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารอื่นๆ และ/หรือเงินฝาก ที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกตามหลักศาสนาอิสลาม ทั้งนี้ หลักทรัพย์ที่กองทุนจะลงทุนได้ผ่านการหารือหลักการลงทุนตามหลักศาสนาอิสลามกับคณะกรรมการศาสนาของกองทุนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ กองทุนจะไม่ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivative) และตราสารหนี้ที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structure Note)

โดยหลักทรัพย์ที่กองทุนจะลงทุน ได้ผ่านการหารือหลักการลงทุนตามหลักศาสนาอิสลามกับคณะกรรมการศาสนาของกองทุนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยบริษัทจัดการจะแต่งตั้งบุคคลไม่เกิน 7 ท่าน เพื่อเป็นคณะกรรมการศาสนา ซึ่งบุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งนั้น เป็นผู้ทรงคุณวุฒิทางด้านศาสนาอิสลามเพื่อให้คำปรึกษาในเรื่องหลักเกณฑ์การลงทุนตามหลักของศาสนาอิสลาม
กำลังโหลดความคิดเห็น