บลจ.ธนชาต เปิดขายกองทุน ธนชาตพันธบัตรรัฐคุ้มครองเงินต้น 3M/4 ,ธนชาตพันธบัตรรัฐคุ้มครองเงินต้น 6 เเละธนชาตพันธบัตรรัฐคุ้มครองเงินต้น 3M/4 อีกรอบ "ผู้บริหารกองทุน" มอง กองทุนตราสารหนี้เเละกองทุนมันนี่มาร์เก็ตที่ลงทุนในพันธบัตรภาครัฐ ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น หลังดัชนีตลาดหุ้นทรุดลงอย่างหนัก ขณะที่นักลงทุนบางกลุ่ม พักเงินในมันนี่มารเก็ต รอจังหวะช้อนซื้อหุ้นดีราคาถูก
นายวิศิษฐ ชื่นรัตนกุล ผู้จัดการกองทุนรวมอาวุโสตราสารหนี้ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) ธนชาต จำกัด กล่าวถึงการลงทุนกองทุนตราสารหนี้ในช่วงนี้ว่า นักลงทุนให้ความสนใจเข้ามาลงทุนในกองทุนของบลจ.เป็นจำนวนมาก ทั้งกองทุนรวมตลาดเงิน เเละกองทุนตราสารหนี้เเบบล๊อกอายุ เนื่องมาจากนักลงทุนยังมีความกังวลในเรื่องเศรษฐกิจ อัตราดอกเบี้ย รวมถึงยังกังวลเรื่องของวิกฤตสถาบันการเงินในสหรัฐอเมริกา เเละยุโรป ทำให้กองทุนทั้ง 2 กองทุนได้รับความนิยม
ขณะเดียวกัน นักลงทุนทั้ง 2 กองทุน จะมีเป้าหมายในการลงทุนต่างกัน ซึ่งนักลงทุนที่ต้องการลงทุนเสมือนการฝากเงิน ให้ผลตอบเเทนที่ดี เเละไม่ต้องเสียภาษี รวมถึงรับความเสี่ยงในการลงทุนได้น้อยก็จะเลือกลงทุนในกองทุนตราสารหนี้เเบบล๊อกอายุ ส่วนนักลงทุนที่ต้องการสภาพคล่องสูง ให้ผลตอบเเทนดีจะเลือกลงทุนกองทุนรวมตลาดเงิน ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับว่านักลงทุนรับความเสี่ยงได้มากน้อยเเค่ไหน ขณะเดียวกันในช่วงที่ตลาดหุ้นผันผวนนักลงทุนบางกลุ่มพักเงินไว้ที่กองทุนรวมตลาดเงิน เมื่อถึงช่วงจังหวะหุ้นราคาถูก นักลงทุนกลุ่มนี้ก็จะนำเงินเข้าไปลงทุนในกองทุนหุ้นเเทน โดยที่ผ่านมานั้นกองทุนรวมตลาดเงินไม่ได้รับผลกระทบจากการโยกเงินลงทุน เนื่องจากกองทุนดังกล่าวมีเม็ดเงินในการลงทุนเป็นจำนวนมาก
นายวิศิษฐ กล่าวอีกว่า ในช่วงเดือนตุลาคม บลจ.อยู่ในช่วงเสนอขายหน่วยลงทุนรอบใหม่ (โรลโอเวอร์) กองทุนตราสารหนี้ 3 กองทุน ได้เเก่ กองทุนเปิดธนชาตพันธบัตรรัฐคุ้มครองเงินต้น 3M/4 ตั้งเเต่วันที่ 24 - 31 ตุลาคม ส่วนกองทุนเปิดธนชาตพันธบัตรรัฐคุ้มครองเงินต้น 6 เปิดขายตั้งเเต่วันนี้ถึงวันที่ 24 ตุลาคม 2551 เเละกองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้ 3 เดือน 5เปิดขายตั้งเเต่วันนี้ถึงวันที่22 ตุลาคม 2551 โดยกองทุนเปิดธนชาตพันธบัตรรัฐคุ้มครองเงินต้น 3M/4 เน้นลงทุนในตราสารเเห่งหนี้ที่เป็นตราสารหนี้ภาครัฐไทย เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาลหรือพันธบัตรธนาคารเเห่งประเทศไทย พันธบัตร ตั๋วเเลกเงิน ตั๋วสัญญาใช้เงิน หุ้นกู้ หรือใบสำคัญเเสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นกู้ ที่กระทรวงการคลังหรือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูเเละพัฒนาระบบสถาบันทางการเงินเป็นผู้ออก ผู้สั่งจ่าย ผู้รับรอง ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกันเงินฝากเเละหรือเงินฝาก หรือตราสารที่เทียบเท่าเงินสด
สำหรับกองทุนเปิดธนชาตพันธบัตรรัฐคุ้มครองเงินต้น 6 เน้นลงทุนในตราสารเเห่งหนี้ที่เป็นตราสารหนี้ภาครัฐไทย เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาลหรือพันธบัตรธนาคารเเห่งประเทศไทย พันธบัตร ตั๋วเเลกเงิน ตั๋วสัญญาใช้เงิน หุ้นกู้ หรือใบสำคัญเเสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นกู้ ที่กระทรวงการคลังหรือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูเเละพัฒนาระบบสถาบันทางการเงินเป็นผู้ออก ผู้สั่งจ่าย ผู้รับรอง ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกันเงินฝากเเละหรือเงินฝาก หรือตราสารที่เทียบเท่าเงินสด
โดยกองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้ 3 เดือน 5 จะเน้นลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารหนี้เเห่งหนี้ภาคเอกชนเเละหรือภาครัฐ ที่มีคุณภาพ มีความสามารถในการชำระดอกเบี้ยหรืองเงินต้นสูง เเละหรือเงินฝาก หรือหลักทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่สำหนักงานคณะกรรมกากำกับหลักทรัพย์เเละตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กำหนดหรือเห็นชอบให้มีการลงทุนได้ ทั้งนี้กองทุนจะไม่ลงทุนสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เเละตราสารหนี้ที่มีการจ่ายผลตอบเเทนอ้างอิงกับตัวเเปร (Structured Note)
ก่อนหน้านี้ นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บลจ. ธนชาต กล่าวว่า สำหรับเป้าหมายในการเพิ่มทรัพย์สินสุทธิภายใต้การบริหาร (เอยูเอ็ม) ที่ตั้งไว้ 120,000 ล้านบาทในช่วงต้นปี 2551 นั้น คาดว่าจะสามารถทำได้ตามเป้า โดยปัจจุบันบริษัทมีเอยูเอ็มอยู่ที่ 94,000 ล้านบาท โดยในช่วงเวลาที่เหลือของปีนั้น คาดว่านักลงทุนจะเข้ามาลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (อาร์เอ็มเอฟ) และกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (แอลทีเอฟ) มากขึ้น ซึ่งรัฐบาลยังเข้ามาช่วยสนับสนุนการลงทุนของสองกองทุนดังกล่าวจากเดิม 300,000 บาท เป็น 500,000 บาท รวมถึงกองทุนเปิดธนชาติตลาดเงิน (T – MONEY) และกองทุนเปิดธนชาตบริหารเงิน (T-CASH) ที่นักลงทุนจะเข้ามาพักเงินไว้ หลังจากที่ตลาดหุ้นไทยยังคงมีความผันผวนอยู่ และรอการหาช่องทางใหม่ๆ ในการลงทุนต่อไปด้วย
ขณะเดียวกัน ในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทมีแผนที่จะออกกองทุนต่างประเทศ (เอฟไอเอฟ) เพิ่มอีก 1 กองทุน โดยในเบื้องต้น บริษัทมองว่าน่าจะเป็นการเข้าไปลงทุนในสหรัฐอเมริกาหรือกองทุนยูเอส โดยมีนโยบายการลงทุนในหุ้นซึ่งจะเน้นหุ้นกลุ่มไจแอนด์ แคป และจะเข้าไปเลือกหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และสามารถให้ผลตอบแทนที่ดี ซึ่งคัดเลือกหุ้นเข้ามาในพอร์ตไม่เกิน 30 ตัวอย่างไรก็ตาม บริษัทกำลังรอดูสถานการณ์เศรษฐกิจให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นก่อน โดยคาดว่าน่าจะสามารถจัดตั้งกองทุนดังกล่าวได้ในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ หรืออาจจะเป็นไตรมาส 1 ของปีหน้า
นายวิศิษฐ ชื่นรัตนกุล ผู้จัดการกองทุนรวมอาวุโสตราสารหนี้ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) ธนชาต จำกัด กล่าวถึงการลงทุนกองทุนตราสารหนี้ในช่วงนี้ว่า นักลงทุนให้ความสนใจเข้ามาลงทุนในกองทุนของบลจ.เป็นจำนวนมาก ทั้งกองทุนรวมตลาดเงิน เเละกองทุนตราสารหนี้เเบบล๊อกอายุ เนื่องมาจากนักลงทุนยังมีความกังวลในเรื่องเศรษฐกิจ อัตราดอกเบี้ย รวมถึงยังกังวลเรื่องของวิกฤตสถาบันการเงินในสหรัฐอเมริกา เเละยุโรป ทำให้กองทุนทั้ง 2 กองทุนได้รับความนิยม
ขณะเดียวกัน นักลงทุนทั้ง 2 กองทุน จะมีเป้าหมายในการลงทุนต่างกัน ซึ่งนักลงทุนที่ต้องการลงทุนเสมือนการฝากเงิน ให้ผลตอบเเทนที่ดี เเละไม่ต้องเสียภาษี รวมถึงรับความเสี่ยงในการลงทุนได้น้อยก็จะเลือกลงทุนในกองทุนตราสารหนี้เเบบล๊อกอายุ ส่วนนักลงทุนที่ต้องการสภาพคล่องสูง ให้ผลตอบเเทนดีจะเลือกลงทุนกองทุนรวมตลาดเงิน ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับว่านักลงทุนรับความเสี่ยงได้มากน้อยเเค่ไหน ขณะเดียวกันในช่วงที่ตลาดหุ้นผันผวนนักลงทุนบางกลุ่มพักเงินไว้ที่กองทุนรวมตลาดเงิน เมื่อถึงช่วงจังหวะหุ้นราคาถูก นักลงทุนกลุ่มนี้ก็จะนำเงินเข้าไปลงทุนในกองทุนหุ้นเเทน โดยที่ผ่านมานั้นกองทุนรวมตลาดเงินไม่ได้รับผลกระทบจากการโยกเงินลงทุน เนื่องจากกองทุนดังกล่าวมีเม็ดเงินในการลงทุนเป็นจำนวนมาก
นายวิศิษฐ กล่าวอีกว่า ในช่วงเดือนตุลาคม บลจ.อยู่ในช่วงเสนอขายหน่วยลงทุนรอบใหม่ (โรลโอเวอร์) กองทุนตราสารหนี้ 3 กองทุน ได้เเก่ กองทุนเปิดธนชาตพันธบัตรรัฐคุ้มครองเงินต้น 3M/4 ตั้งเเต่วันที่ 24 - 31 ตุลาคม ส่วนกองทุนเปิดธนชาตพันธบัตรรัฐคุ้มครองเงินต้น 6 เปิดขายตั้งเเต่วันนี้ถึงวันที่ 24 ตุลาคม 2551 เเละกองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้ 3 เดือน 5เปิดขายตั้งเเต่วันนี้ถึงวันที่22 ตุลาคม 2551 โดยกองทุนเปิดธนชาตพันธบัตรรัฐคุ้มครองเงินต้น 3M/4 เน้นลงทุนในตราสารเเห่งหนี้ที่เป็นตราสารหนี้ภาครัฐไทย เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาลหรือพันธบัตรธนาคารเเห่งประเทศไทย พันธบัตร ตั๋วเเลกเงิน ตั๋วสัญญาใช้เงิน หุ้นกู้ หรือใบสำคัญเเสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นกู้ ที่กระทรวงการคลังหรือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูเเละพัฒนาระบบสถาบันทางการเงินเป็นผู้ออก ผู้สั่งจ่าย ผู้รับรอง ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกันเงินฝากเเละหรือเงินฝาก หรือตราสารที่เทียบเท่าเงินสด
สำหรับกองทุนเปิดธนชาตพันธบัตรรัฐคุ้มครองเงินต้น 6 เน้นลงทุนในตราสารเเห่งหนี้ที่เป็นตราสารหนี้ภาครัฐไทย เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาลหรือพันธบัตรธนาคารเเห่งประเทศไทย พันธบัตร ตั๋วเเลกเงิน ตั๋วสัญญาใช้เงิน หุ้นกู้ หรือใบสำคัญเเสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นกู้ ที่กระทรวงการคลังหรือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูเเละพัฒนาระบบสถาบันทางการเงินเป็นผู้ออก ผู้สั่งจ่าย ผู้รับรอง ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกันเงินฝากเเละหรือเงินฝาก หรือตราสารที่เทียบเท่าเงินสด
โดยกองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้ 3 เดือน 5 จะเน้นลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารหนี้เเห่งหนี้ภาคเอกชนเเละหรือภาครัฐ ที่มีคุณภาพ มีความสามารถในการชำระดอกเบี้ยหรืองเงินต้นสูง เเละหรือเงินฝาก หรือหลักทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่สำหนักงานคณะกรรมกากำกับหลักทรัพย์เเละตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กำหนดหรือเห็นชอบให้มีการลงทุนได้ ทั้งนี้กองทุนจะไม่ลงทุนสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เเละตราสารหนี้ที่มีการจ่ายผลตอบเเทนอ้างอิงกับตัวเเปร (Structured Note)
ก่อนหน้านี้ นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บลจ. ธนชาต กล่าวว่า สำหรับเป้าหมายในการเพิ่มทรัพย์สินสุทธิภายใต้การบริหาร (เอยูเอ็ม) ที่ตั้งไว้ 120,000 ล้านบาทในช่วงต้นปี 2551 นั้น คาดว่าจะสามารถทำได้ตามเป้า โดยปัจจุบันบริษัทมีเอยูเอ็มอยู่ที่ 94,000 ล้านบาท โดยในช่วงเวลาที่เหลือของปีนั้น คาดว่านักลงทุนจะเข้ามาลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (อาร์เอ็มเอฟ) และกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (แอลทีเอฟ) มากขึ้น ซึ่งรัฐบาลยังเข้ามาช่วยสนับสนุนการลงทุนของสองกองทุนดังกล่าวจากเดิม 300,000 บาท เป็น 500,000 บาท รวมถึงกองทุนเปิดธนชาติตลาดเงิน (T – MONEY) และกองทุนเปิดธนชาตบริหารเงิน (T-CASH) ที่นักลงทุนจะเข้ามาพักเงินไว้ หลังจากที่ตลาดหุ้นไทยยังคงมีความผันผวนอยู่ และรอการหาช่องทางใหม่ๆ ในการลงทุนต่อไปด้วย
ขณะเดียวกัน ในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทมีแผนที่จะออกกองทุนต่างประเทศ (เอฟไอเอฟ) เพิ่มอีก 1 กองทุน โดยในเบื้องต้น บริษัทมองว่าน่าจะเป็นการเข้าไปลงทุนในสหรัฐอเมริกาหรือกองทุนยูเอส โดยมีนโยบายการลงทุนในหุ้นซึ่งจะเน้นหุ้นกลุ่มไจแอนด์ แคป และจะเข้าไปเลือกหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และสามารถให้ผลตอบแทนที่ดี ซึ่งคัดเลือกหุ้นเข้ามาในพอร์ตไม่เกิน 30 ตัวอย่างไรก็ตาม บริษัทกำลังรอดูสถานการณ์เศรษฐกิจให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นก่อน โดยคาดว่าน่าจะสามารถจัดตั้งกองทุนดังกล่าวได้ในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ หรืออาจจะเป็นไตรมาส 1 ของปีหน้า