บลจ. เอ็มเอฟซี ประกาศจ่ายปันผล กองทุนเปิดสมาร์ทแคช รอบระยะเวลาวันที่ 26 กันยายน – 31 ธันวาคม 2551 ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน ในอัตราหน่วยละ 0.30 บาท ในวันที่ 15 มกราคมนี้
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทในฐานะบริษัทจัดการจะทำการเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนเปิด สมาร์ทแคช สำหรับรอบระยะเวลาวันที่ 26 กันยายน 2551 – 31 ธันวาคม 2551 โดยจะจ่ายเงินปันผลในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.30 บาท ในวันที่ 15 มกราคม 2552 จะปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุนเพื่อสิทธิในการรับเงินปันผลในวันที่ 8 มกราคม 2552
สำหรับผลการดำเนินงานของกองทุน ณ วันที่ 28 พฤจิกายน 2551 กองทุนมีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 7.32% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 2.48% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 6.79% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 2.48%และมีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 4.46% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 2.29%
ทั้งนี้ กองทุนเปิดสมาร์ทแคช (SMART CASH FUND :SMART) เป็นกองทุนประเภท กองทุนรวมตราสารหนี้ ประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุน ที่มีการกระจายการลงทุนน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน (specific fund)และไม่กำหนดอายุโครงการ โดยกองทุนดังกล่าวเหมาะสำหรับเงินลงทุนที่คาดหวังผลตอบแทนในระดับปานกลาง มีมูลค่าทรัพย์สินโครงการ 2,000 ล้านบาท และมีมูลค่าทรัพย์สินในปัจจุบัน 975.54 ล้านบาท โดยมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ในอัตราไม่น้อยกว่า ร้อยละ 10 ของการเพิ่มขึ้นในสินทรัพย์สุทธิจากการดำเนินงาน (realized & unrealized) ในแต่ละงวดบัญชีที่จะจ่ายเงินปันผล
ส่วนนโยบายการลงทุนนั้น กองทุนรวมนี้จะนำเงินไปลงทุนในตราสารแห่งหนี้ที่มีคุณภาพและให้ผลตอบแทนที่ดี และหรือเงินฝาก และหรือหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่คณะกรรมการหรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.ประกาศกำหนด ทั้งนี้ กองทุนเปิดสมาร์ทแคช อาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivative) หรือตราสารหนี้ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับตัวแปร (Structure Note) ซึ่งผู้ลงทุนจะได้อะไรจากเงินลงทุนผู้ลงทุนจะมีโอกาสที่จะได้รับกำไรจากมูลค่าหน่วยลงทุนที่เพิ่มจากดอกเบี้ยของพันธบัตร และมูลค่าที่เพิ่มขึ้นของพันธบัตร
อย่างไรก็ตาม กองทุนเปิดสมาร์ทแคช มีอัตราความเสี่ยงในระดับตํ่าถึงปานกลาง เนื่องจากกองทุนเน ?นการลงทุนในตราสารหนี้ที่มีผู ?ออกตราสารที่มีคุณภาพและให?ผลตอบแทนที่ดี และมีอายุตราสารใกล?เคียงกับอายุของกองทุน นอกจากนี้กองทุนยังอาจพิจารณาลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivative) หรือตราสารหนี้ ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับตัวแปร (Structure Note) ดังนั้น อัตราความเสี่ยงจึงสูงกว่ากองทุนรวมตราสารหนี้ทั่วไป
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทในฐานะบริษัทจัดการจะทำการเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนเปิด สมาร์ทแคช สำหรับรอบระยะเวลาวันที่ 26 กันยายน 2551 – 31 ธันวาคม 2551 โดยจะจ่ายเงินปันผลในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.30 บาท ในวันที่ 15 มกราคม 2552 จะปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุนเพื่อสิทธิในการรับเงินปันผลในวันที่ 8 มกราคม 2552
สำหรับผลการดำเนินงานของกองทุน ณ วันที่ 28 พฤจิกายน 2551 กองทุนมีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 7.32% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 2.48% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 6.79% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 2.48%และมีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 4.46% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 2.29%
ทั้งนี้ กองทุนเปิดสมาร์ทแคช (SMART CASH FUND :SMART) เป็นกองทุนประเภท กองทุนรวมตราสารหนี้ ประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุน ที่มีการกระจายการลงทุนน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน (specific fund)และไม่กำหนดอายุโครงการ โดยกองทุนดังกล่าวเหมาะสำหรับเงินลงทุนที่คาดหวังผลตอบแทนในระดับปานกลาง มีมูลค่าทรัพย์สินโครงการ 2,000 ล้านบาท และมีมูลค่าทรัพย์สินในปัจจุบัน 975.54 ล้านบาท โดยมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ในอัตราไม่น้อยกว่า ร้อยละ 10 ของการเพิ่มขึ้นในสินทรัพย์สุทธิจากการดำเนินงาน (realized & unrealized) ในแต่ละงวดบัญชีที่จะจ่ายเงินปันผล
ส่วนนโยบายการลงทุนนั้น กองทุนรวมนี้จะนำเงินไปลงทุนในตราสารแห่งหนี้ที่มีคุณภาพและให้ผลตอบแทนที่ดี และหรือเงินฝาก และหรือหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่คณะกรรมการหรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.ประกาศกำหนด ทั้งนี้ กองทุนเปิดสมาร์ทแคช อาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivative) หรือตราสารหนี้ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับตัวแปร (Structure Note) ซึ่งผู้ลงทุนจะได้อะไรจากเงินลงทุนผู้ลงทุนจะมีโอกาสที่จะได้รับกำไรจากมูลค่าหน่วยลงทุนที่เพิ่มจากดอกเบี้ยของพันธบัตร และมูลค่าที่เพิ่มขึ้นของพันธบัตร
อย่างไรก็ตาม กองทุนเปิดสมาร์ทแคช มีอัตราความเสี่ยงในระดับตํ่าถึงปานกลาง เนื่องจากกองทุนเน ?นการลงทุนในตราสารหนี้ที่มีผู ?ออกตราสารที่มีคุณภาพและให?ผลตอบแทนที่ดี และมีอายุตราสารใกล?เคียงกับอายุของกองทุน นอกจากนี้กองทุนยังอาจพิจารณาลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivative) หรือตราสารหนี้ ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับตัวแปร (Structure Note) ดังนั้น อัตราความเสี่ยงจึงสูงกว่ากองทุนรวมตราสารหนี้ทั่วไป