xs
xsm
sm
md
lg

BBLAMเน้นบอนด์ความเสี่ยงต่ำ ส่วนกองหุ้นบริหารพอร์ตใกล้ชิด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ.บัวหลวง ปรับแผนบริหารรับสถานการณ์ ด้านกองทุนหุ้นร่นระยะเวลาบริหารพอร์ตให้เร็วขึ้น ขณะที่กองทุนตราสารหนี้เน้นถึงคุณภาพและเครดิตที่ต่ำ เพื่อป้องกันความเสี่ยงของลูกค้า มากกว่าจะโชว์แต่ผลตอบแทนการลงทุนเพียงอย่างเดียว

นางวรวรรณ ธาราภูมิ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่า จากภาวะเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมาทั้งปัญหาทางการเมืองภายในประเทศและปัญหาสถาบันทางการเงินในต่างประเทศล้วนส่งผลกระทบต่อการบริหารพอร์ตของกองทุนเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นกองทุนรวมตราสารหนี้ หรือกองทุนรวมตราสารทุนก็ตาม จากที่ต้องมีการปรับพอร์ตกันเป็นระยะยาวนั้น ปัจจุบันต้องมีการดูแลกันอย่างใกล้ชิดมากขึ้น และมีการปรับพอร์ตที่สั้นลงกว่าแต่ก่อนโดยจะใช้เวลาประมาณ 1 – 2 เดือนในการปรับพอร์ต

สำหรับในส่วนของกองทุนรวมตราสารหนี้นั้น บลจ.บัวหลวงจะดูในเรื่องของเครดิตความเสี่ยงที่ให้ต่ำที่สุดเพื่อสร้างความปลอดภัยให้แก่นักลงทุน มากกว่าที่จะมาดูในเรื่องของผลตอบแทน เพราะยิ่งผลตอบแทนดีมากเท่าไหร่ในช่วงนี้ก็หมายความว่ามีความเสี่ยงมากด้วยเช่นกัน ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีกองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ด้วยกันทั้งสิ้น 3 กองทุนประกอบด้วย 1. กองทุนรวมบัวหลวงธนทวี (B-TNTV) ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง ณ วันที่ 28 พฤศจิกายน 2551 ย้อนหลัง 3 เดือน 3.10% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 11.96% ย้อนหลัง 6 เดือน 2.91% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 11.52% ย้อนหลัง 1 ปี 2.77% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 7.36% ย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี 2.76% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 7.00%

ขณะที่ กองทุนรวมบัวหลวงตราสารหนี้เพื่อการเลี้ยงชีพ (BFRMF) ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 6.28% ย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 5.07% ย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 4.68% และผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 4.50% และ กองทุนบัวหลวงมันนี่มาร์เก็ตเพื่อการเลี้ยงชีพ (MM-RMF) ให้ผลตอบแทนตั้งแต่เริ่มจัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 0.09% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 0.44% โดยทั้ง 3 กองทุนจะใช้เกณฑ์มาตรฐานเดียวกันในการวัดผลตอบแทน

ส่วนกองทุนตราสารทุนนั้นบริษัทบริษัทกองทุนด้วยกันทั้งสิ้น 8 กองทุน ประกอบด้วย กองทุนรวมบัวแก้ว (BKA) ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง ณ วันที่ 28 พฤศจิกายน 2551 ย้อนหลัง 3 เดือน -32.67% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ -41.29% ย้อนหลัง 6 เดือน -42.27% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ -51.80% ย้อนหลัง 1 ปี -43.74% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ -52.53% ย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี -43.16% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ -53.17%

ด้าน กองทุนรวมบัวแก้ว 2 (BKA2) ย้อนหลัง 3 เดือนให้ผลตอบแทนที่ -33.27% ย้อนหลัง 6 เดือน -42.63% ย้อนหลัง 1 ปี -44.18% ย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี -43.82% ขณะที่กองทุนรวมบัวแก้วปันผล (BKD) ย้อนหลัง 3 เดือนให้ผลตอบแทนที่ -33.25% ย้อนหลัง 6 เดือน -42.59% ย้อนหลัง 1 ปี -43.56% ย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี -43.12% ส่วน กองทุนรวมบัวหลวงธนคม (BTK) ย้อนหลัง 3 เดือนให้ผลตอบแทนที่ -32.33% ย้อนหลัง 6 เดือน -42.40% ย้อนหลัง 1 ปี -41.54% ย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี -41.54%

นอกจากนี้ กองทุนรวมบัวหลวงทศพล (BTP) ย้อนหลัง 3 เดือนให้ผลตอบแทนที่ -31.70% ย้อนหลัง 6 เดือน -41.82% ย้อนหลัง 1 ปี -42.54% ย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี -41.93% ส่วนกองทุนรวมบัวหลวงโครงสร้างพื้นฐาน (B-INFRA) ย้อนหลัง 3 เดือนให้ผลตอบแทนที่ -30.51% ย้อนหลัง 6 เดือน -40.33% ย้อนหลัง 1 ปี -44.41% ย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี -43.81% ขณะที่กองทุนรวมทรัพย์บัวหลวง (B-SUB) ย้อนหลัง 3 เดือนให้ผลตอบแทนที่ -33.13% ย้อนหลัง 6 เดือน -42.60% ย้อนหลัง 1 ปี -44.41% ย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี -43.66% และกองทุนรวมบัวหลวงร่วมทุน (BCAP) ย้อนหลัง 3 เดือนให้ผลตอบแทนที่ -33.07% ย้อนหลัง 6 เดือน -42.54% ย้อนหลัง 1 ปี -42.84% ย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี -42.28%
กำลังโหลดความคิดเห็น