อินไซด์กองทุนหุ้นค่ายบัวหลวง 3 เดือนให้ผลตอบแทนผ่านฉลุย "บัวหลวงธนคม" มาวิน ผู้บริหารเผยเน้นหุ้นที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง ปันผลดีและสม่ำเสมอ ไม่เกิน 10 ตัวเข้าพอร์ต ด้านกองทุนตราสารหนี้ ระบุทุกเดือนวางแผนออกกองใหม่ ในกลุ่มบัวหลวงธนรัฐ ธนสาร ธนสารพลัส ตลอดทั้งปี
นางวรวรรณ ธาราภูมิ กรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) บัวหลวง จำกัด จำกัด เปิดเผยว่า ในส่วนของการบริหารกองทุนหุ้นในช่วงที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าผู้จัดการกองทุนต้องทำงานหนักเป็นพิเศษกับการบริหารกองทุน แต่อย่างไรก็ตามในการทำงานนั้น บริษัทจะทำการจัดเลือกหุ้นในหลักทรัพย์ไม่เกิน 10 ตัวเข้าพอร์ต ซึ่งหุ้นที่ถูกเลือกเข้ามาในพอร์ตนั้น จะเน้นหุ้นที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง ปันผลดีและสม่ำเสมอ ซึ่งผู้จัดการกองทุนก็จะให้น้ำหนักการลงทุนเป็นพิเศษ
ทั้งนี้บริษัทจะมีการปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนในหุ้นกันทุก ๆ 6 เดือนหรือเมื่อมีเหตุการณ์ที่มีนัยสำคัญต่อการลงทุน โดยจะมีการปรับน้ำหนักตามภาวะการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป นอกจากนี้บริษัทเองยังจะให้ความสำคัญในการพิจารณาหุ้นจากศักยภาพในการเติบโตในระยะยาวมากกว่าช่วงสั้น และเป็นหุ้นที่มีราคาต่ำกว่ามูลค่าตามปัจจัยพื้นฐานมาก อีกทั้งมีบัญชีงบดุลที่โดดเด่นและมีทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์ เชื่อถือได้ในความสามารถและความโปร่งใส และสุดท้ายต้องมีสภาพคล่องในการซื้อขายพอสมควร
กรรมการผู้จัดการกล่าวต่อว่า ในส่วนของกองทุนตราสารหนี้ บริษัทจะเน้นออกกองทุนใหม่ในกลุ่มบัวหลวงธนรัฐ ธนสาร ธนสารพลัส และ ธนสิน ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้แบบมีกำหนดระยะเวลา โดยแต่ละกองทุนจะนำเงินไปลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ เอกชน ทั้งในประเทศ หรือต่างประเทศ แตกต่างไปตามความเสี่ยง และผลตอบแทน เช่น กองทุนรวมบัวหลวงธนรัฐก็จะลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐในประเทศ ส่วนกองทุนรวมบัวหลวงธนสารพลัส ก็จะลงทุนในตราสารหนี้สถาบันการเงินในต่างประเทศ เป็นต้น ระยะเวลาครบกำหนดก็แตกต่างกันไป เช่น 6 เดือน 12 เดือน 24 เดือน เพื่อให้นักลงทุนได้เลือกลงทุนให้เหมาะสมกับผลตอบแทน กับระยะเวลาที่ต้องการด้วย
ล่าสุดขณะนี้บริษัทกำลังเปิดขายกองทุนรวมบัวหลวงธนสารพลัส 4/09 (BP4/09) , บัวหลวงธนสารพลัส 5/09 (BP5/09) และ บัวหลวงธนสารพลัส 6/09 (BP6/09) โดยเริ่มเปิดขายแล้วตั้งแต่วันนี้ - 13 พฤษภาคม 2552 ทั้งนี้ 3 กองทุนดังกล่าว กองทุนเหมาะสมกับเงินลงทุนส่วนที่ต้องการความมั่นคง และความเสี่ยงต่ำ เพื่อโอกาสในการรับผลตอบแทนที่สูงกว่าการฝากเงิน โดยไม่ต้องไปลงทุนในหุ้น ลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท ที่ราคาเสนอขาย 10 บาทต่อหน่วยลงทุน
สำหรับกองทุนหุ้นที่บริษัทบริหารอยู่มีด้วยกัน 8 กองทุน โดยกองทุนที่สามารถให้ผลตอบแทนสูงสุดเหนือเกณฑ์มาตรฐานในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ได้แก่กองทุนเปิดบัวหลวงธนคม ทั้งนี้กองทุนดังกล่าวจะใช้เกณฑ์มาตรฐานตัวเดียวกันในการวัดผลตอบแทน
1. กองทุนเปิดบัวหลวงธนคม ให้ผลตอบแทน ณ วันที่ 24 เมษายน 2552 กองทุนให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 8.46% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 8.31% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 8.78% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 13.81% และย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ -36.50% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ -43.03% 2. กองทุนเปิดบัวหลวงร่วมทุน ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 6.00% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 11.56% และย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ -8.35% 3. กองทุนเปิดบัวแก้ว ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 6.00% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 11.56% และย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ -8.35% 4. กองทุนเปิดบัวแก้วปันผล ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 5.89% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 11.17% และย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ -35.33%
5. กองทุนเปิดทรัพย์บัวหลวง ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 5.86% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 11.20% และย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ -35.27% 6. กองทุนเปิดบัวแก้วปันผล 2 ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 5.72% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 10.96% และย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ -35.71% 7. กองทุนเปิดบัวหลวงทศพล ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 5.00% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 9.59% และย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ -35.82% และ 8. กองทุนเปิดบัวหลวงโครงสร้างพื้นฐาน ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 2.61% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 12.30% และย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ -33.91%
นางวรวรรณ ธาราภูมิ กรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) บัวหลวง จำกัด จำกัด เปิดเผยว่า ในส่วนของการบริหารกองทุนหุ้นในช่วงที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าผู้จัดการกองทุนต้องทำงานหนักเป็นพิเศษกับการบริหารกองทุน แต่อย่างไรก็ตามในการทำงานนั้น บริษัทจะทำการจัดเลือกหุ้นในหลักทรัพย์ไม่เกิน 10 ตัวเข้าพอร์ต ซึ่งหุ้นที่ถูกเลือกเข้ามาในพอร์ตนั้น จะเน้นหุ้นที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง ปันผลดีและสม่ำเสมอ ซึ่งผู้จัดการกองทุนก็จะให้น้ำหนักการลงทุนเป็นพิเศษ
ทั้งนี้บริษัทจะมีการปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนในหุ้นกันทุก ๆ 6 เดือนหรือเมื่อมีเหตุการณ์ที่มีนัยสำคัญต่อการลงทุน โดยจะมีการปรับน้ำหนักตามภาวะการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป นอกจากนี้บริษัทเองยังจะให้ความสำคัญในการพิจารณาหุ้นจากศักยภาพในการเติบโตในระยะยาวมากกว่าช่วงสั้น และเป็นหุ้นที่มีราคาต่ำกว่ามูลค่าตามปัจจัยพื้นฐานมาก อีกทั้งมีบัญชีงบดุลที่โดดเด่นและมีทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์ เชื่อถือได้ในความสามารถและความโปร่งใส และสุดท้ายต้องมีสภาพคล่องในการซื้อขายพอสมควร
กรรมการผู้จัดการกล่าวต่อว่า ในส่วนของกองทุนตราสารหนี้ บริษัทจะเน้นออกกองทุนใหม่ในกลุ่มบัวหลวงธนรัฐ ธนสาร ธนสารพลัส และ ธนสิน ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้แบบมีกำหนดระยะเวลา โดยแต่ละกองทุนจะนำเงินไปลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ เอกชน ทั้งในประเทศ หรือต่างประเทศ แตกต่างไปตามความเสี่ยง และผลตอบแทน เช่น กองทุนรวมบัวหลวงธนรัฐก็จะลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐในประเทศ ส่วนกองทุนรวมบัวหลวงธนสารพลัส ก็จะลงทุนในตราสารหนี้สถาบันการเงินในต่างประเทศ เป็นต้น ระยะเวลาครบกำหนดก็แตกต่างกันไป เช่น 6 เดือน 12 เดือน 24 เดือน เพื่อให้นักลงทุนได้เลือกลงทุนให้เหมาะสมกับผลตอบแทน กับระยะเวลาที่ต้องการด้วย
ล่าสุดขณะนี้บริษัทกำลังเปิดขายกองทุนรวมบัวหลวงธนสารพลัส 4/09 (BP4/09) , บัวหลวงธนสารพลัส 5/09 (BP5/09) และ บัวหลวงธนสารพลัส 6/09 (BP6/09) โดยเริ่มเปิดขายแล้วตั้งแต่วันนี้ - 13 พฤษภาคม 2552 ทั้งนี้ 3 กองทุนดังกล่าว กองทุนเหมาะสมกับเงินลงทุนส่วนที่ต้องการความมั่นคง และความเสี่ยงต่ำ เพื่อโอกาสในการรับผลตอบแทนที่สูงกว่าการฝากเงิน โดยไม่ต้องไปลงทุนในหุ้น ลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท ที่ราคาเสนอขาย 10 บาทต่อหน่วยลงทุน
สำหรับกองทุนหุ้นที่บริษัทบริหารอยู่มีด้วยกัน 8 กองทุน โดยกองทุนที่สามารถให้ผลตอบแทนสูงสุดเหนือเกณฑ์มาตรฐานในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ได้แก่กองทุนเปิดบัวหลวงธนคม ทั้งนี้กองทุนดังกล่าวจะใช้เกณฑ์มาตรฐานตัวเดียวกันในการวัดผลตอบแทน
1. กองทุนเปิดบัวหลวงธนคม ให้ผลตอบแทน ณ วันที่ 24 เมษายน 2552 กองทุนให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 8.46% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 8.31% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 8.78% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 13.81% และย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ -36.50% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ -43.03% 2. กองทุนเปิดบัวหลวงร่วมทุน ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 6.00% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 11.56% และย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ -8.35% 3. กองทุนเปิดบัวแก้ว ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 6.00% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 11.56% และย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ -8.35% 4. กองทุนเปิดบัวแก้วปันผล ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 5.89% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 11.17% และย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ -35.33%
5. กองทุนเปิดทรัพย์บัวหลวง ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 5.86% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 11.20% และย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ -35.27% 6. กองทุนเปิดบัวแก้วปันผล 2 ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 5.72% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 10.96% และย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ -35.71% 7. กองทุนเปิดบัวหลวงทศพล ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 5.00% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 9.59% และย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ -35.82% และ 8. กองทุนเปิดบัวหลวงโครงสร้างพื้นฐาน ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 2.61% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 12.30% และย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ -33.91%
