นายกสมาคมบลจ.เตือนนักลงทุนอย่าประมาท ย้ำกองทุนพันธบัตรเกาหลีไร้ปัญหา หากพลาดยังเชื่อจะได้รับเงินคืนในรูปแบบทยอยจ่ายเหมือนช่วงวิกฤตปี40 พร้อมมองกองทุนนวัตกรรมใหม่จ ะไม่เป็นที่นิยมไปกว่าโปรดักต์เดิมที่มีอยู่ในปัจจุบัน เช่นเดียวกับพร็อพเพอร์ตี้ฟันด์ ประเภทฟรีโฮล มีความมั่นคงมากในยามวิกฤต
นางวรวรรณ ธาราภูมิ นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (สมาคมบลจ.) และกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดกการกองทุน (บลจ.) บัวหลวง จำกัด กล่าวถึงผู้ที่สนใจลงทุนผ่านตราสารหนี้ว่า เรื่องหนึ่งที่ต้องระมัดระวังไว้ก็คือ การลงทุนดังกล่าวยังเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงเช่นกัน โดยในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจปี2540 เศรษฐกิจไทยไม่ได้พังเพราะหุ้นเพียงอย่างเดียว แต่พังเพราะตราสารหนี้ด้วย ดังนั้นก่อนลงทุนต้องศึกษาและพิจารณาด้วยว่าทำไมโครงการนี้ถึงให้ผลตอแทนสูง ทั้งที่มีราคาถูกด้วย
ทั้งนี้ นายกสมาคมบลจ.กล่าวย้ำถึงการลงทุนของกองทุนที่ลงทุนต่างประเทศ (เอฟไอเอฟ) ประเภทตราสารหนี้ว่า จากความวิตกกังวลในเรื่องวิกฤตการเงินครั้งนี้ ส่งผลต่อเม็ดเงินลงทุนประเภทนี้ลดลงไปมาก อย่างไรก็ตาม ในส่วนการลงทุนพันธบัตรรัฐบาลเกาหลี ส่วนตัวยังมั่นใจว่ามีความมั่นคงสูง เพระส่วนใหญ่จะเป็นการลงทุนผ่านธนาคารสแตนด์ดาร์ต ชาร์เตอร์ ซึ่งได้รับการคุ้มครองจากรัฐบาลอังกฤษ อีกทั้งเชื่อแม้รัฐบาลเกาหลีจะมีปัญหาในการจ่ายคืน ก็จะเป็นการทยอยจ่ายคืนทีละส่วนกลับมาเรื่อยๆ เหมือนดังเช่นวิกฤตเศรษฐกิจในปี2540
ขณะเดียวกัน การที่ภาครัฐมีนโยบายสนับสนุนการออม โดยขยายวงเงินลดหย่อนภาษีกองทุนอาร์เอ็มเอฟ และกองทุนรวมหุ้นระยะยาวจากเดิม 5 แสนบาท เป็น 7 แสนบาทในช่วงก่อนสิ้นปีนี้ นายกสมาคมฯ กล่าวว่า คนที่จะได้รับประโยชน์จริงมีเพียงเล็กน้อยประมาณ 5,000 กว่าราย แต่หากภาครัฐขยายเพดานวงเงินลงทุนในกองทุนทั้ง 2 ประเภทนี้ให้เพิ่มขึ้นจากเดิม 15% จะเป็นอะไรที่ให้ประโยชน์และกระตุ้นการลงทุนจากภาคประชาชนได้มากกว่า ทั้งนี้เรื่องดังกล่าวได้เคยมีการนำเสนอต่อปลัดกระทรวงการคลังแล้ว ซึ่งภาครัฐยอมรับว่ามีความสนใจ แต่ติดขัดที่ขั้นตอนการแก้ไขจะยุ่งยากซับซ้อน เพราะจะต้องเข้าไปแก้ที่ตัวกฎหมาย ซึ่งจะต้องใช้เวลามากกว่านี้
สำหรับนวัตกรรมใหม่ๆของธุรกิจกองทุนรวม นางวรวรรณ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่เป็นที่นิยมแล้ว ที่สำคัญบลจ.ต้องการคนที่มีความเชี่ยวชาญมากกว่า แต่หากจะมีการออกกองทุนประเภทใหม่เพิ่มขึ้น ส่วนตัวมองว่าต้องเป็นอะไรที่ไม่ซับซ้อน ลูกค้าใจง่าย มีความเสี่ยงอยู่ระดับที่เหมาะสม
นอกจากนี้ นักลงทุนจะต้องมีความรู้ความเข้าใจกับพอร์ตลงทุน จะดูเพียงแต่โมเดลความเสี่ยงอย่างเดียวไม่ได้ ต้องเตือนตนเองอยู่ตลอดเวลาว่าการลงทุนมีความเสี่ยงเสมอ ดังนั้นการลงทุนผ่านโปรดักต์ที่มีอยู่ในปัจุบัน จึงเป็นทางเลือกที่ดีเหมาะสมกับสภาวะเช่นนี้ที่สุด
โดยมองว่าการลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะประเภทฟรีโฮลจะเป็นการลงทุนที่ดี เพราะมีความเสี่ยงต่ำ หากกิจการประสบปัญหาก็สามารถนำสินทรัพย์ของกองทุนมาขายคืนเป็นเงินแก่ผู้ถือหน่วยได้ ขณะที่กองทุนประเภทINDEX FUND นั้นก็มีความน่าสนใจ อีกทั้งกองทุนประเภทนี้จะเหมาะกับเงินของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นอย่างมาก เช่นเดียวกับการจัดตั้งกองทุนผ่านETF
นางวรวรรณ ธาราภูมิ นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (สมาคมบลจ.) และกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดกการกองทุน (บลจ.) บัวหลวง จำกัด กล่าวถึงผู้ที่สนใจลงทุนผ่านตราสารหนี้ว่า เรื่องหนึ่งที่ต้องระมัดระวังไว้ก็คือ การลงทุนดังกล่าวยังเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงเช่นกัน โดยในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจปี2540 เศรษฐกิจไทยไม่ได้พังเพราะหุ้นเพียงอย่างเดียว แต่พังเพราะตราสารหนี้ด้วย ดังนั้นก่อนลงทุนต้องศึกษาและพิจารณาด้วยว่าทำไมโครงการนี้ถึงให้ผลตอแทนสูง ทั้งที่มีราคาถูกด้วย
ทั้งนี้ นายกสมาคมบลจ.กล่าวย้ำถึงการลงทุนของกองทุนที่ลงทุนต่างประเทศ (เอฟไอเอฟ) ประเภทตราสารหนี้ว่า จากความวิตกกังวลในเรื่องวิกฤตการเงินครั้งนี้ ส่งผลต่อเม็ดเงินลงทุนประเภทนี้ลดลงไปมาก อย่างไรก็ตาม ในส่วนการลงทุนพันธบัตรรัฐบาลเกาหลี ส่วนตัวยังมั่นใจว่ามีความมั่นคงสูง เพระส่วนใหญ่จะเป็นการลงทุนผ่านธนาคารสแตนด์ดาร์ต ชาร์เตอร์ ซึ่งได้รับการคุ้มครองจากรัฐบาลอังกฤษ อีกทั้งเชื่อแม้รัฐบาลเกาหลีจะมีปัญหาในการจ่ายคืน ก็จะเป็นการทยอยจ่ายคืนทีละส่วนกลับมาเรื่อยๆ เหมือนดังเช่นวิกฤตเศรษฐกิจในปี2540
ขณะเดียวกัน การที่ภาครัฐมีนโยบายสนับสนุนการออม โดยขยายวงเงินลดหย่อนภาษีกองทุนอาร์เอ็มเอฟ และกองทุนรวมหุ้นระยะยาวจากเดิม 5 แสนบาท เป็น 7 แสนบาทในช่วงก่อนสิ้นปีนี้ นายกสมาคมฯ กล่าวว่า คนที่จะได้รับประโยชน์จริงมีเพียงเล็กน้อยประมาณ 5,000 กว่าราย แต่หากภาครัฐขยายเพดานวงเงินลงทุนในกองทุนทั้ง 2 ประเภทนี้ให้เพิ่มขึ้นจากเดิม 15% จะเป็นอะไรที่ให้ประโยชน์และกระตุ้นการลงทุนจากภาคประชาชนได้มากกว่า ทั้งนี้เรื่องดังกล่าวได้เคยมีการนำเสนอต่อปลัดกระทรวงการคลังแล้ว ซึ่งภาครัฐยอมรับว่ามีความสนใจ แต่ติดขัดที่ขั้นตอนการแก้ไขจะยุ่งยากซับซ้อน เพราะจะต้องเข้าไปแก้ที่ตัวกฎหมาย ซึ่งจะต้องใช้เวลามากกว่านี้
สำหรับนวัตกรรมใหม่ๆของธุรกิจกองทุนรวม นางวรวรรณ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่เป็นที่นิยมแล้ว ที่สำคัญบลจ.ต้องการคนที่มีความเชี่ยวชาญมากกว่า แต่หากจะมีการออกกองทุนประเภทใหม่เพิ่มขึ้น ส่วนตัวมองว่าต้องเป็นอะไรที่ไม่ซับซ้อน ลูกค้าใจง่าย มีความเสี่ยงอยู่ระดับที่เหมาะสม
นอกจากนี้ นักลงทุนจะต้องมีความรู้ความเข้าใจกับพอร์ตลงทุน จะดูเพียงแต่โมเดลความเสี่ยงอย่างเดียวไม่ได้ ต้องเตือนตนเองอยู่ตลอดเวลาว่าการลงทุนมีความเสี่ยงเสมอ ดังนั้นการลงทุนผ่านโปรดักต์ที่มีอยู่ในปัจุบัน จึงเป็นทางเลือกที่ดีเหมาะสมกับสภาวะเช่นนี้ที่สุด
โดยมองว่าการลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะประเภทฟรีโฮลจะเป็นการลงทุนที่ดี เพราะมีความเสี่ยงต่ำ หากกิจการประสบปัญหาก็สามารถนำสินทรัพย์ของกองทุนมาขายคืนเป็นเงินแก่ผู้ถือหน่วยได้ ขณะที่กองทุนประเภทINDEX FUND นั้นก็มีความน่าสนใจ อีกทั้งกองทุนประเภทนี้จะเหมาะกับเงินของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นอย่างมาก เช่นเดียวกับการจัดตั้งกองทุนผ่านETF
