บลจ. บัวหลวงใจดี งดเก็บค่าธรรมเนียมกองทุนเปิดบัวหลวงทาร์เก็ตรีเทิร์น หลังแผนระดมทุนสะดุด จากผลกระทบจากตลาดเงินทั่วโลก ส่งผลให้เงินเข้าเพียง 54 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นรายย่อยที่เข้ามาลงทุนไม่เกิน 100,000 บาทเท่านั้น ล่าสุด เปิดขายกองทุนตราสารหนี้ในประเทศเพิ่มอีก 1 กองทุน “บัวหลวงธนรัฐ 23/08” อายุ 4-6 เดือน เริ่มไอพีโอ 22 - 29 กันยายน 2551 นี้ ชูผลตอบแทน 3.40%
นางวรวรรณ ธาราภูมิ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับกองทุนเปิดบัวหลวงทาร์เก็ตรีเทิร์น (Bualuang Target Return Fund : TARGET) ที่เปิดขายไปเมื่อวันที่ 8–17 กันยายน 2551 ที่ผ่านมา เป็นช่วงที่ตลาดการเงินทั่วโลกมีความผันผวนและปรับตัวลดลงเป็นอย่างมาก แต่ก็ยังมีนักลงทุนให้ความไว้วางใจและเข้าร่วมลงทุนกับกองทุนดังกล่าว ซึ่งสามารถระดมเงินลงทุนในครั้งนี้ได้ประมาณ 54 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่แล้วประมาณ 60% เป็นลงทุนรายย่อยที่เข้ามาลงทุนไม่เกิน 100,000 บาท
ทั้งนี้ เนื่องจากจำนวนเงินลงทุนค่อนข้างน้อย บริษัทจึงเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดตั้งกองทุน ประกอบด้วย ค่าธรรมเนียมยื่นคำขอจัดตั้งและจัดการกองทุน ค่าจดทะเบียนกองทุน ค่าเอกสารและหนังสือชี้ชวน รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ และค่าธรรมเนียมในการเสนอขายครั้งแรกของกองทุนเปิดบัวหลวง ทาร์เก็ตรีเทิร์น เต็มจำนวน โดยไม่คิดจากกองทุนแม้ว่าจะระบุไว้ในโครงการแล้วก็ตาม
โดยกองทุนเปิดบัวหลวงทาร์เก็ตรีเทิร์น มีเป้าหมายสร้างผลตอบแทนตามและจ่ายคืนเงินให้กับผู้ลงทุนในอัตราไม่ต่ำกว่า 125% ของมูลค่าเงินลงทุนเริ่มแรก (เงินต้นและผลตอบแทน) ภายในระยะเวลา 36 เดือน หรือ 25% แต่หากภาวะการลงทุนไม่เอื้ออำนวย ก็จะคืนเงินทั้งหมดที่มีในกองทุนให้ผู้ลงทุนเมื่อครบอายุกองทุน 36 เดือน โดยจ่ายผลตอบแทนตามที่กองทุนสามารถทำได้
ทั้งนี้ กองทุนมีเงื่อนไขในการเลิกกองทุนตามที่ระบุในหนังสือชี้ชวน คือ บริษัทจะเลิกกองทุน เมื่อกองทุนครบอายุโครงการ 36 เดือน นับตั้งแต่วันจดทะเบียนกองทรัพย์สินเป็นกองทุนรวม หรือในวันทำการที่ 2 นับจาก วันที่มูลค่าหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่า 127% ของมูลค่าที่ตราไว้ (10 บาท) เป็นเวลา 5 วันทำการติดต่อกัน และ มูลค่าหน่วยลงทุนที่จะรับซื้อคืนโดยอัตโนมัติ ต้องไม่ต่ำกว่า 125% ของมูลค่าที่ตราไว้ และทรัพย์สินของกองทุนเป็นเงินสดทั้งหมด ทั้งนี้แล้วแต่เหตุการณ์ใดจะเกิดขึ้นก่อน
นางวรวรรณกล่าวต่ออีกว่า ล่าสุดบริษัทเปิดขายกองทุนรวมบัวหลวงธนรัฐ 23/08 (B23/08) อายุประมาณ 4-6 เดือน ขนาดโครงการ 3,000 ล้านบาท เริ่มไอพีโอตั้งแต่วันที่ 22 - 29 กันยายน 2551 นี้ ซึ่งกองทุนดังกล่าวให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 3.40%
โดย กองทุนรวมบัวหลวงธนรัฐ 23/08 มีนโยบายการลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย หรือพันธบัตร หรือตราสารแห่งหนี้ที่กระทรวงการคลัง หรือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเป็นผู้ออก ผู้รับรอง ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกัน โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือจะลงทุนในเงินฝาก บัตรเงินฝาก ตั๋วสัญญาใช้เงิน ตราสารแห่งหนี้ของสถาบันการเงิน และหรือพันธบัตรรัฐวิสาหกิจ และหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นด้วยการทำ ธุรกรรมการซื้อตราสารแห่งหนี้ภาครัฐกับสถาบันการเงิน โดยมีสัญญาที่จะขายคืนตราสารแห่งหนี้ดังกล่าวตามวันที่กำหนดในสัญญา ทั้งนี้ กองทุนจะไม่ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง
นางวรวรรณ ธาราภูมิ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับกองทุนเปิดบัวหลวงทาร์เก็ตรีเทิร์น (Bualuang Target Return Fund : TARGET) ที่เปิดขายไปเมื่อวันที่ 8–17 กันยายน 2551 ที่ผ่านมา เป็นช่วงที่ตลาดการเงินทั่วโลกมีความผันผวนและปรับตัวลดลงเป็นอย่างมาก แต่ก็ยังมีนักลงทุนให้ความไว้วางใจและเข้าร่วมลงทุนกับกองทุนดังกล่าว ซึ่งสามารถระดมเงินลงทุนในครั้งนี้ได้ประมาณ 54 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่แล้วประมาณ 60% เป็นลงทุนรายย่อยที่เข้ามาลงทุนไม่เกิน 100,000 บาท
ทั้งนี้ เนื่องจากจำนวนเงินลงทุนค่อนข้างน้อย บริษัทจึงเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดตั้งกองทุน ประกอบด้วย ค่าธรรมเนียมยื่นคำขอจัดตั้งและจัดการกองทุน ค่าจดทะเบียนกองทุน ค่าเอกสารและหนังสือชี้ชวน รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ และค่าธรรมเนียมในการเสนอขายครั้งแรกของกองทุนเปิดบัวหลวง ทาร์เก็ตรีเทิร์น เต็มจำนวน โดยไม่คิดจากกองทุนแม้ว่าจะระบุไว้ในโครงการแล้วก็ตาม
โดยกองทุนเปิดบัวหลวงทาร์เก็ตรีเทิร์น มีเป้าหมายสร้างผลตอบแทนตามและจ่ายคืนเงินให้กับผู้ลงทุนในอัตราไม่ต่ำกว่า 125% ของมูลค่าเงินลงทุนเริ่มแรก (เงินต้นและผลตอบแทน) ภายในระยะเวลา 36 เดือน หรือ 25% แต่หากภาวะการลงทุนไม่เอื้ออำนวย ก็จะคืนเงินทั้งหมดที่มีในกองทุนให้ผู้ลงทุนเมื่อครบอายุกองทุน 36 เดือน โดยจ่ายผลตอบแทนตามที่กองทุนสามารถทำได้
ทั้งนี้ กองทุนมีเงื่อนไขในการเลิกกองทุนตามที่ระบุในหนังสือชี้ชวน คือ บริษัทจะเลิกกองทุน เมื่อกองทุนครบอายุโครงการ 36 เดือน นับตั้งแต่วันจดทะเบียนกองทรัพย์สินเป็นกองทุนรวม หรือในวันทำการที่ 2 นับจาก วันที่มูลค่าหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่า 127% ของมูลค่าที่ตราไว้ (10 บาท) เป็นเวลา 5 วันทำการติดต่อกัน และ มูลค่าหน่วยลงทุนที่จะรับซื้อคืนโดยอัตโนมัติ ต้องไม่ต่ำกว่า 125% ของมูลค่าที่ตราไว้ และทรัพย์สินของกองทุนเป็นเงินสดทั้งหมด ทั้งนี้แล้วแต่เหตุการณ์ใดจะเกิดขึ้นก่อน
นางวรวรรณกล่าวต่ออีกว่า ล่าสุดบริษัทเปิดขายกองทุนรวมบัวหลวงธนรัฐ 23/08 (B23/08) อายุประมาณ 4-6 เดือน ขนาดโครงการ 3,000 ล้านบาท เริ่มไอพีโอตั้งแต่วันที่ 22 - 29 กันยายน 2551 นี้ ซึ่งกองทุนดังกล่าวให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 3.40%
โดย กองทุนรวมบัวหลวงธนรัฐ 23/08 มีนโยบายการลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย หรือพันธบัตร หรือตราสารแห่งหนี้ที่กระทรวงการคลัง หรือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเป็นผู้ออก ผู้รับรอง ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกัน โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือจะลงทุนในเงินฝาก บัตรเงินฝาก ตั๋วสัญญาใช้เงิน ตราสารแห่งหนี้ของสถาบันการเงิน และหรือพันธบัตรรัฐวิสาหกิจ และหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นด้วยการทำ ธุรกรรมการซื้อตราสารแห่งหนี้ภาครัฐกับสถาบันการเงิน โดยมีสัญญาที่จะขายคืนตราสารแห่งหนี้ดังกล่าวตามวันที่กำหนดในสัญญา ทั้งนี้ กองทุนจะไม่ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง