"บลจ.ทหารไทย"แจงการปิดรับคำสั่งซื้อขายกองทุนเปิดทหารไทย China Equity Index เมื่อ24 ธันวาคมที่ผ่านมา ล่าสุดผลดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนปรับตัวดีขึ้น หลังตลาดหุ้นจีนเริ่มนิ่ง ด้านผู้จัดการกองทุนชูศักยภาพการบริหารจนลูกค้ามั่นใจใส่เงินลงทุนเพิ่ม แนะจับตาแผนกู้วิกฤตรัฐบาลมังกร พร้อมเตือนนักลงทุนควรกระจายความเสี่ยงให้ทั่วถึง
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ทหารไทย จำกัด รายงานว่า บริษัทขอแจ้งให้ทราบว่า เมื่อวันที่ 24 ธันวาคมที่ผ่านมาทางตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงได้ประกาศปิดทำการซื้อขายหลักทรัพย์ในช่วงครึ่งบ่ายของวันที่ 24 ธันวาคม 2551 ดังนั้น บริษัทจึงได้ขอรับคำสั่งซื้อ ขาย สับเปลี่ยนหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดทหารไทย China Equity Index ของวันที่ 24 ธันวาคม 2551 ถึงเวลา 10.30 น. และสำหรับรายการซื้อ ขาย สับเปลี่ยนหน่วยลงทุน หลังเวลา 10.30 น. จะถือเป็นรายการของวันทำการซื้อขายถัดไป
ล่าสุด กองทุนดังกล่าวมีผลดำเนินงานปรับตัวเพิ่มในลักษณะที่ดีขึ้น โดยผลดำเนินงานย้อนหลัง ณ วันที่ 24 ธันวาคม 2551 พบว่ากองทุนมีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3เดือนอยู่ที่ -17.43% ขณะที่ดัชนีFTSE/Xinhua A50 Chaina (สกุลเงินดอลลาร์ฮ่องกง)อยู่ที่ -15.24% ส่วนดัชนีFTSE/Xinhua A50 Chaina (สกุลเงินบาท)อยู่ที่ -13.54% ด้านผลการดำเนินงานย้อนหลัง 6เดือนอยู่ที่ -38.10%โดยดัชนีFTSE/Xinhua A50 Chaina (สกุลเงินดอลลาร์ฮ่องกง)อยู่ที่ -36.81% ขณะที่ดัชนีFTSE/Xinhua A50 Chaina (สกุลเงินบาท)อยู่ที่ -34.24 สำหรับผลการดำเนินงานย้อนหลัง 1ปีอยู่ที่ -61.98%ส่วนดัชนีFTSE/Xinhua A50 Chaina (สกุลเงินดอลลาร์ฮ่องกง)อยู่ที่ -61.57% และดัชนีFTSE/Xinhua A50 Chaina (สกุลเงินบาท)อยู่ที่ -60.24%
ทั้งนี้ กองทุนเปิดทหารไทย China Equity Index มีนโยบาย ลงทุนในหลักทรัพย์หรือหน่วยลงทุนของกองทุนต่างประเทศที่มีวัตถุประสงค์และนโยบายการลงทุนตรงตามวัตถุประสงค์ของกองทุนเพื่อให้สามารถสร้างผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกับผลตอบแทนจากการลงทุนในดัชนีFTSE/Xinhua A50 Chaina ให้มากที่สุด
นายกำพล อัศวกุลชัย รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาและสนับสนุนตัวแทนขาย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด กล่าวถึงกองทุนเปิดทหารไทย China Equity Indexว่า เนื่องจากตลาดเริ่มนิ่ง จึงทำให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนของกองทุนจึงให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าในช่วงก่อนหน้านี้ อีกทั้งเป็นที่รู้กันอยู่ว่าในช่วงที่ผ่านมาตลาดหุ้นจีนได้มีการปรับตัวลดลงมาเร็วและแรงมากพร้อมทั้งราคาก็ได้ปรับตัวลดลงมาเยอะมาก
ในส่วนของทิศทางการลงทุนหลังจากนี้ จะต้องมองในเรื่องของการออกมาตรการเพื่อช่วยกระตุ้นระบบเศรษฐกิจของจีนว่าจะสามารถกระตุ้นระบบเศรษฐกิจในประเทศได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งที่ผ่านมาผลการดำเนินงานย้อนหลัง3เดือนที่ผ่านมาของกองทุนก็ให้ผลตอบแทนที่ดีขึ้นมากจากเมื่อก่อน
อย่างไรก็ตาม แม้ช่วงที่ผ่านมาได้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจเกิดขึ้นจนส่งผลกระทบไปทั่วโลก นักลงทุนยังคงมีความมั่นใจกับการลงทุนของบริษัท โดยช่วงที่ผ่านมาได้มีนักลงทุนกลับเข้ามาลงทุนในกองทุนรวมนี้เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ขนาดกองทุนแม่โตขึ้นอีกด้วย ทั้งนี้เนื่องมาจากนักลงทุนมีความเข้าใจในการลงทุนของบริษัทมากขึ้น ขณะเดียวกัน บริษัทมีการให้ความรู้ความเข้าใจในการลงทุนมาตั้งแต่นักลงทุนเริ่มเข้ามางทุนในช่วงแรก อีกทั้ง บลจ.ไม่มีการผลักความเสี่ยงในการลงททุนให้กับนักลงทุน
นายกำพล กล่าวอีกว่า สำหรับในช่วงที่ผ่านมานั้นมูลค่าหน่วยลงทุน(เอ็นเอวี)ของกองทุนมีการเปลี่ยนแปลงบ้าง เนื่องจากได้เกิดวิกฤตการณ์ต่างๆขึ้นทั่วโลก แต่เนื่องจากนักลงทุนของกองทุนส่วนใหญ่มีความเข้าใจเกี่ยวกับวิกฤตการณ์จึงได้รับผลกระทบแค่เล็กน้อย หลังจากนี้การลงทุนจะต้องทยอยซื้อ เพราะจะสร้างโอกาสในการทำกำไรให้นักลงทุนได้ อีกทั้งตลาดหุ้นจีนจะเริ่มมีศักยภาพมากขึ้น
"อยากแนะนำให้นักลงทุนกระจายการลงทุนไปยังประเทศต่างๆไม่ใช่ลงทุนอยู่แต่ในประเทศใดประเทศหนึ่งจะทำให้ความเสี่ยงของการลงทุนมีมากกว่าการกระจายลงทุน อีกทั้งขณะนี้ตลาดหุ้นได้ปรับตัวลดลงทั่วโลก แต่สำหรับการลงทุนในกองต่างประเทศต้องขึ้นอยู่กับว่านักลงทุนที่เลือกลงทุนจะสามารถรับความเสี่ยงในการลงทุนได้มากน้อยแค่ไหน หากยอมรับความเสี่ยงได้น้อยการลงทุนในประเทศจึงเป็นอีกทางเลือกที่ดีทั้งนี้ บลจ.มองว่าตลาดหุ้นจีนปรับตัวลดลงมามากแล้วจึงเป็นโอกาสที่ดีที่จะเข้าไปลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีเช่นกัน"นายกำพล กล่าว
ขณะเดียวกัน เนื่องจากวันที่ 2 มกราคม 2552 เป็นวันหยุดทำการกรณีพิเศษ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทหารไทย จำกัด จึงขอแจ้งกำหนดการรับชำระค่าขายคืนหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดทหารไทยพันธบัตร 3 เดือน รุ่นที่ 3 ในวันที่ 5 มกราคม 2552 กองทุนเปิดทหารไทยพันธบัตร 6 เดือน รุ่นที่ 6 5 มกราคม 2552 และกองทุนเปิดทหารไทยพันธบัตร 1 ปี รุ่นที่ 12 ในวันที่ 6 มกราคม 2552 เพื่อให้ผู้ถือหน่วยลงทุนในกองทุนดังกล่าวทุกคนได้รับทราบ
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ทหารไทย จำกัด รายงานว่า บริษัทขอแจ้งให้ทราบว่า เมื่อวันที่ 24 ธันวาคมที่ผ่านมาทางตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงได้ประกาศปิดทำการซื้อขายหลักทรัพย์ในช่วงครึ่งบ่ายของวันที่ 24 ธันวาคม 2551 ดังนั้น บริษัทจึงได้ขอรับคำสั่งซื้อ ขาย สับเปลี่ยนหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดทหารไทย China Equity Index ของวันที่ 24 ธันวาคม 2551 ถึงเวลา 10.30 น. และสำหรับรายการซื้อ ขาย สับเปลี่ยนหน่วยลงทุน หลังเวลา 10.30 น. จะถือเป็นรายการของวันทำการซื้อขายถัดไป
ล่าสุด กองทุนดังกล่าวมีผลดำเนินงานปรับตัวเพิ่มในลักษณะที่ดีขึ้น โดยผลดำเนินงานย้อนหลัง ณ วันที่ 24 ธันวาคม 2551 พบว่ากองทุนมีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3เดือนอยู่ที่ -17.43% ขณะที่ดัชนีFTSE/Xinhua A50 Chaina (สกุลเงินดอลลาร์ฮ่องกง)อยู่ที่ -15.24% ส่วนดัชนีFTSE/Xinhua A50 Chaina (สกุลเงินบาท)อยู่ที่ -13.54% ด้านผลการดำเนินงานย้อนหลัง 6เดือนอยู่ที่ -38.10%โดยดัชนีFTSE/Xinhua A50 Chaina (สกุลเงินดอลลาร์ฮ่องกง)อยู่ที่ -36.81% ขณะที่ดัชนีFTSE/Xinhua A50 Chaina (สกุลเงินบาท)อยู่ที่ -34.24 สำหรับผลการดำเนินงานย้อนหลัง 1ปีอยู่ที่ -61.98%ส่วนดัชนีFTSE/Xinhua A50 Chaina (สกุลเงินดอลลาร์ฮ่องกง)อยู่ที่ -61.57% และดัชนีFTSE/Xinhua A50 Chaina (สกุลเงินบาท)อยู่ที่ -60.24%
ทั้งนี้ กองทุนเปิดทหารไทย China Equity Index มีนโยบาย ลงทุนในหลักทรัพย์หรือหน่วยลงทุนของกองทุนต่างประเทศที่มีวัตถุประสงค์และนโยบายการลงทุนตรงตามวัตถุประสงค์ของกองทุนเพื่อให้สามารถสร้างผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกับผลตอบแทนจากการลงทุนในดัชนีFTSE/Xinhua A50 Chaina ให้มากที่สุด
นายกำพล อัศวกุลชัย รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาและสนับสนุนตัวแทนขาย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด กล่าวถึงกองทุนเปิดทหารไทย China Equity Indexว่า เนื่องจากตลาดเริ่มนิ่ง จึงทำให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนของกองทุนจึงให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าในช่วงก่อนหน้านี้ อีกทั้งเป็นที่รู้กันอยู่ว่าในช่วงที่ผ่านมาตลาดหุ้นจีนได้มีการปรับตัวลดลงมาเร็วและแรงมากพร้อมทั้งราคาก็ได้ปรับตัวลดลงมาเยอะมาก
ในส่วนของทิศทางการลงทุนหลังจากนี้ จะต้องมองในเรื่องของการออกมาตรการเพื่อช่วยกระตุ้นระบบเศรษฐกิจของจีนว่าจะสามารถกระตุ้นระบบเศรษฐกิจในประเทศได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งที่ผ่านมาผลการดำเนินงานย้อนหลัง3เดือนที่ผ่านมาของกองทุนก็ให้ผลตอบแทนที่ดีขึ้นมากจากเมื่อก่อน
อย่างไรก็ตาม แม้ช่วงที่ผ่านมาได้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจเกิดขึ้นจนส่งผลกระทบไปทั่วโลก นักลงทุนยังคงมีความมั่นใจกับการลงทุนของบริษัท โดยช่วงที่ผ่านมาได้มีนักลงทุนกลับเข้ามาลงทุนในกองทุนรวมนี้เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ขนาดกองทุนแม่โตขึ้นอีกด้วย ทั้งนี้เนื่องมาจากนักลงทุนมีความเข้าใจในการลงทุนของบริษัทมากขึ้น ขณะเดียวกัน บริษัทมีการให้ความรู้ความเข้าใจในการลงทุนมาตั้งแต่นักลงทุนเริ่มเข้ามางทุนในช่วงแรก อีกทั้ง บลจ.ไม่มีการผลักความเสี่ยงในการลงททุนให้กับนักลงทุน
นายกำพล กล่าวอีกว่า สำหรับในช่วงที่ผ่านมานั้นมูลค่าหน่วยลงทุน(เอ็นเอวี)ของกองทุนมีการเปลี่ยนแปลงบ้าง เนื่องจากได้เกิดวิกฤตการณ์ต่างๆขึ้นทั่วโลก แต่เนื่องจากนักลงทุนของกองทุนส่วนใหญ่มีความเข้าใจเกี่ยวกับวิกฤตการณ์จึงได้รับผลกระทบแค่เล็กน้อย หลังจากนี้การลงทุนจะต้องทยอยซื้อ เพราะจะสร้างโอกาสในการทำกำไรให้นักลงทุนได้ อีกทั้งตลาดหุ้นจีนจะเริ่มมีศักยภาพมากขึ้น
"อยากแนะนำให้นักลงทุนกระจายการลงทุนไปยังประเทศต่างๆไม่ใช่ลงทุนอยู่แต่ในประเทศใดประเทศหนึ่งจะทำให้ความเสี่ยงของการลงทุนมีมากกว่าการกระจายลงทุน อีกทั้งขณะนี้ตลาดหุ้นได้ปรับตัวลดลงทั่วโลก แต่สำหรับการลงทุนในกองต่างประเทศต้องขึ้นอยู่กับว่านักลงทุนที่เลือกลงทุนจะสามารถรับความเสี่ยงในการลงทุนได้มากน้อยแค่ไหน หากยอมรับความเสี่ยงได้น้อยการลงทุนในประเทศจึงเป็นอีกทางเลือกที่ดีทั้งนี้ บลจ.มองว่าตลาดหุ้นจีนปรับตัวลดลงมามากแล้วจึงเป็นโอกาสที่ดีที่จะเข้าไปลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีเช่นกัน"นายกำพล กล่าว
ขณะเดียวกัน เนื่องจากวันที่ 2 มกราคม 2552 เป็นวันหยุดทำการกรณีพิเศษ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทหารไทย จำกัด จึงขอแจ้งกำหนดการรับชำระค่าขายคืนหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดทหารไทยพันธบัตร 3 เดือน รุ่นที่ 3 ในวันที่ 5 มกราคม 2552 กองทุนเปิดทหารไทยพันธบัตร 6 เดือน รุ่นที่ 6 5 มกราคม 2552 และกองทุนเปิดทหารไทยพันธบัตร 1 ปี รุ่นที่ 12 ในวันที่ 6 มกราคม 2552 เพื่อให้ผู้ถือหน่วยลงทุนในกองทุนดังกล่าวทุกคนได้รับทราบ
