xs
xsm
sm
md
lg

ทหารไทย China Equity Index ผลตอบแทน1เดือนโดดเด่น11.42%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายกำพล อัศวกุลชัย
    บรรยากาศการลงทุนในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา น่าจะพอทำให้หลายๆ ท่าน หายใจหายคอได้โล่งขึ้น เพราะข่าวร้ายๆ ที่ส่งผลต่อความมั่นใจลดลงไปพอสมควร ซึ่งได้ปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลทั่วโลก...อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ความมั่นใจจะเพิ่มขึ้นบ้างในระดับหนึ่ง แต่มาตรการเหล่านี้ยังไม่เห็นชัดเจน เพราะกว่าที่เงินที่แต่ละประเทศอัดฉีด ยังต้องการเวลาเยียวยาพอสมควร
    กลับมาดูกองทุนที่ออกไปลงทุนต่างประเทศ (เอฟไอเอฟ) กันบ้าง หลังจากข่าวร้ายที่เริ่มน้อยลง ประกอบกับการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจน่าจะเริ่มฟื้นได้ในครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะกลุ่มประเทศในเอเชีย ทำให้ตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศนี้ ตอบรับข่าวดังกล่าวพอสมควร ซึ่งสะท้อนออกมาจากผลการดำเนินงานของกองทุนเอฟไอเอฟในช่วง 1 เดือนล่าสุดที่ผ่านมา ส่วนกองทุนใดมีผลการดำเนินงานเป็นอย่างไรนั้น คอลัมน์ "Best of Fund" มีคำตอบมาให้
     สำหรับผลการดำเนินงานของกองทุนเอฟไอเอฟ ณ วันที่ 31 มกราคม 2552 กองทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด 10 อันดับแรก ประกอบด้วย อันดับ 1 กองทุนเปิดทหารไทย China Equity Index ภายใต้การบริหารจัดการของ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด โดยกองทุน ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี (รอบ 1 เดือน) อยู่ที่ 11.42% สูงกว่าผลตอบแทนดัชนี MSCI AC World CR USD ที่ให้ผลตอบแทน -7.66% อยู่ประมาณ 11.74%
  อันดับ 2 กองทุนเปิด ทหารไทย โกลด์ ฟันด์ ของบลจ.ทหารไทยอีก 1 กองทุน โดยในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา กองทุนให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี 6.40% สูงกว่าดัชนี MSCI AC World CR USD อยู่ 6.72%
   สำหรับกองทุนที่ให้ผลตอบแทนเป็นอันดับ 3 ถึงอันดับที่ 10 เป็นกองทุนในซีรีส์ กองทุนเปิดบัวหลวงธนสารพลัส  ของบลจ.บัวหลวง ซึ่งกองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนปิด ที่เน้นลงทุนในสารหนี้ประเทศเกาหลีใต้ และผลตอบแทนที่จะนำเสนอนั้น เป็นผลตอบแทนที่คำนวนจากช่วงปลายปี 2551 สิ้นสุดเดือนมกราคม 2552 เท่านั้น ดังนั้น จึงไม่ใช่ผลตอบแทนที่จะเกิดขึ้นจริงหลังจากครบอายุการลงทุนแล้ว
   โดยกองทุนที่ให้ผลตอบแทนเป็นอันดับ 3. ได้แก่ กองทุนเปิดบัวหลวงธนสารพลัส 6/08 ที่ให้ผลตอบแทนย้อหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 6.06% อันดับ 4. กองทุนเปิดบัวหลวงธนสารพลัส 5/08ให้ผลตอบแทนย้อหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 5.91% อันดับ 5. กองทุนเปิดบัวหลวงธนสารพลัส 8/08 ให้ผลตอบแทนย้อหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 5.90% อันดับ 6. กองทุนเปิดบัวหลวงธนสารพลัส 7/08 ให้ผลตอบแทนย้อหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 5.52%
   อันดับ 7. กองทุนเปิดบัวหลวงธนสารพลัส 17/08 ให้ผลตอบแทนย้อหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 5.46% อันดับ 8. กองทุนเปิดบัวหลวงธนสารพลัส 10/08 ให้ผลตอบแทนย้อหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 5.43% อันดับ 9. กองทุนเปิดบัวหลวงธนสารพลัส 13/08 ให้ผลตอบแทนย้อหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 5.33% และอันดับ 10. กองทุนเปิดบัวหลวงธนสารพลัส 19/08 ที่ให้ผลตอบแทนย้อหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 5.26%
  เปิดพอร์ตกองทุนอันดับ 1
  สำหรับ  กองทุนเปิดทหารไทย China Equity Index  เป็นกองทุนประเภทกองทุนรวมพิเศษ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในกองทุนให้ได้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนจากการลงทุนในดัชนี FTSE/Xinhua China A50 โดยจะลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ เฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุน  อีกทั้งมีนโยบายการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศที่มีวัตถุประสงค์และนโยบายการลงทุนตรงตามวัตถุประสงค์ของกองทุนกำหนด เพื่อให้สามารถสร้างผลตอบแทนที่ใกล้เคียงตามที่ตั้งเป้าหมายไว้
  นายกำพล อัศวกุลชัย รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาและสนับสนุนตัวแทนขาย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด กล่าวว่า สถานการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศจีนเริ่มปรับตัวดีขึ้น รวมทั้งนักลงทุนเริ่มมีความเชื่อมั่นต่อการลงทุนในประเทศ หลังจากที่รัฐบาลจีนประกาศแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ  ขณะเดียวกันกลุ่มประเทศเกิดใหม่ก็มีการปรับตัวที่ดีขึ้นมาด้วยเช่นกัน เป็นเพราะส่วนหนึ่งมาจากการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศจีนที่เริ่มดีขึ้นนั่นเอง
    ทั้งนี้ เศรษฐกิจของประเทศจีนที่เริ่มปรับตัวขึ้นมานั้นยังส่งผลไปถึงประเทศต่างๆในภูมิภาคเอเชียด้วย เพราะนอกจากจีนจะมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในระดับที่สูงแล้ว ประเทศอินเดียก็มีการเติบโตที่สูงเช่นเดียวกัน ทำให้ประเทศอื่นๆในภูมิภาคมีอัตราการเติบโตตามไปด้วย โดยประเทศจีนนั้นมีทุนสำรองของประเทศจำนวนมากที่สุดในโลก การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานจึงมีความต่อเนื่อง เพื่อขยายการเติบโตไปสู่ภูมิภาคอื่นภายในประเทศ ซึ่งปัจจุบันความเจริญส่วนใหญ่อยู่ทางฝั่งชายทะเล 
   อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจของจีนและบรรดาประเทศเกิดใหม่ยังคงมีความผันผวนอยู่ ซึ่งจะส่งผลไปถึงเรื่องของการลงทุนในประเทศจีนด้วย ดังนั้นการลงทุนในจีนจึงยังต้องมีความระมัดระวังอยู่ เพราะเศรษฐกิจหลักของจีนนั้นอยู่ที่การส่งออกไปยังสหรัฐฯเป็นหลัก ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจของจีนในปี 2552 นั้น ต้องรอดูตัวเลขการเติบโตในไตรมาส 4 ของปีที่ผ่านมาก่อนว่าเป็นอย่างไร แต่เชื่อว่าในไตรมาส 1 ของปีนี้ยังคงมีความแข็งแกร่งอยู่
   สำหรับผลต่อกองทุนเปิดทหารไทย China Equity Index นั้น ผลการดำเนินงานได้ปรับเพิ่มขึ้นมาจากในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีที่ผ่านมา โดยกองทุนหลักที่บริษัทเข้าลงทุนอยู่นั้น มีผลการดำเนินงานที่เติบโตขึ้น ซึ่งผลการดำเนินการ ณ วันที่ 30 ม.ค. 2552 กองทุนมีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 16.80% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน ดัชนี FTSE/Xinhua China A50 (สกุลเงินดอลล่าร์ฮ่องกง) อยู่ที่ 15.96% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่  -28.37% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ -30.61% ย้อนหลัง 1ปีอยู่ที่ -50.49% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ -55.72% และตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่  -61.56% เทียบกับเกณฑ์อยู่ที่ -62.88%  ทั้งนี้ เมื่อเทียบ ดัชนี FTSE/Xinhua China A50 (สกุลเงินบาท) อยู่ที่ 16.24%, -27.21%,  -52.93% และ -62.13% ตามลำดับ
กำลังโหลดความคิดเห็น