บลจ.วรรณเสนอตัวแข่งขันเป็นผู้บริหารจัดการกองทุนETF พลังงาน คาดไตรมาส 3 ได้เห็นความชัดเจนจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ชี้หุ้นกลุ่มธนาคารมีศักยภาพทำETFได้เช่นเดียวกัน พร้อมเตรียมเข็นกองทุน ETF อิงดัชนี FTSE SET Index Series ออกขายในปี2552 ด้าน"สมจินต์" อวดผลงาน"TDEX" ครึ่งปีขนาดกองทุนโตเกือบ 200%เมษายนนี้ได้ข้อสรุปจ่ายปันผล ส่วนเปิดเทรดกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์PFFUND วันแรกสดใส ราคาปิดเหนือราคาจองหน่วยลงทุน
นายสมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) วรรณ จำกัด กล่าวว่า การที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้มีการเสนอจัดตั้งกองทุนอิควิตี้ อีทีเอฟ ที่อ้างอิงดัชนีหมวดธุรกิจพลังงาน (Equity ETF on SET Energy Sector Index) นั้น บลจ.วรรณและทีมบริษัทที่ปรึกษาได้มีการยื่นเสนอขอเป็นผู้บริหารจัดการกองทุนอีทีเอฟดังกล่าวด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตามคาดการณ์ว่าตลาดหลักทรัพย์ฯ น่าจะสามารถผลักดันกองทุนอีทีเอฟที่ลงทุนในพลังงานได้ภายในไตรมาส 3 ของปีนี้ โดยหลังงานที่มีการจัดตั้งกองทุนอีทีเอฟที่ลงทุนอ้างอิงกับหุ้นกลุ่มพลังงานแล้ว ส่วนตัวประเมินว่าหลักทรัพย์ในกลุ่มธนาคารนั้นจัดเป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่มีศักยภาพและความน่าสนใจที่จะนำมาจัดตั้งเป็นกองทุนอีทีเอฟได้เช่นกัน
"เชื่อมั่นว่ากลุ่มของบริษัทเป็นทีมที่มีศักยภาพในการบริหารจัดการ และในส่วนของบริษัทที่ปรึกษาได้มีการสนับสนุนลูกค้าของแต่ละบริษัทให้ลงทุนผ่านกองทุนอีทีเอฟอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นถ้าทางตลาดหลักทรัพย์ให้ความไว้วางใจบลจ.วรรณเป็นผู้บริหารจัดการกองทุนอีทีเอฟพลังงาน บริษัทก็พร้อมที่จะทำงานให้ดีที่สุด" นายสมจินต์ กล่าว
นอกจากนี้สืบเนื่องจากทางตลาดฯ ได้มีการจัดทำกลุ่มดัชนี FTSE SET Index Series ซึ่งจะสามารถดำเนินการได้ในช่วงเดือนเมษายนนั้น ทางบลจ.วรรณ ได้มีแผนที่จะออกกองทุนที่อ้างอิงดัชนีดังกล่าวด้วยเช่นกัน โดยกลุ่มของดัชนีที่บริษัทวางแผนจะจัดตั้งกองทุน คือ กลุ่มดัชนี FTSE SET Large Cap และคาดการณ์ว่าจะสามารถจัดตั้งกองทุนดังกล่าวได้ภายในปี 2552
# TDEX ขนาดกองพุ่งเกือบ 200%
นายสมจินต์ กล่าวถึงกองทุนเปิด ไทยเด็กซ์ เซ็ท 50 อีทีเอฟ (TDEX)ว่า หลังจากที่ได้มีการเปิดซื้อขายเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2550 หรือเมื่อประมาณ 6 เดือนก่อนนั้น มูลค่าทรัพย์สินของกองทุนมีการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดกองทุนมีขนาดกองทุนประมาณ 3,000 ล้านบาท จากช่วงเปิดไอพีโอที่กองทุนสามารถระดมทุนได้เพียง 1,010 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 1,990 ล้านบาท หรือ 197% ในขณะที่จำนวนนักลงทุนได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 4,766 ราย จากช่วงไอพีโอที่มีนักลงทุนที่สนใจเข้ามาลงทุนใน TDEX เพียง 700 รายเท่านั้น
สำหรับการจ่ายเงินปันผลครั้งแรกของกองทุนไทยเด็กซ์ เซ็ท 50 อีทีเอฟนั้น กรรมการผู้จัดการ บลจ.วรรณ คาดว่าจะมีความชัดเจนได้ในเดือนเมษายนนี้ อย่างไรก็ตามตามกฎของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กำหนดให้เงินจ่ายปันผลเกิดมาจากผลกำไร ดังนั้นคงจะต้องมีการพิจารณาเกี่ยวกับระดับของดัชนี SET 50 ในขณะนั้นด้วย
#เปิดเทรด"PFFUND"ปิดเหนือจอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (20 มี.ค.51) เป็นวันเปิดการซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ฯ ของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟ็ค (PFFUND) โดยหลักทรัพย์เปิดตลาดที่ราคา 10.10 บาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.10 จุด หรือ 1% จากราคาจองที่ราคาหน่วยลงทุนที่ 10 บาท ก่อนที่จะมาปิดตลาดที่ราคา 10.20 บาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากราคาจองที่ 10 บาท จำนวน 0.20 บาท หรือ 2% มูลค่าการซื้อขาย 1.43 ล้านบาท
นายสมจินต์ กล่าวถึงกองทุนอสังหาริมทรัพย์ (พร็อพเพอร์ตี้ฟันด์) ว่า การลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์นั้นนับว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกการลงทุนที่ดี สำหรับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนที่มากกว่าการฝากเงินในธนาคาร และการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล โดยในส่วนของ PFFUND มีศักยภาพในการหารายได้ที่ดี เนื่องมาจากตัวสินทรัพย์ตั้งอยู่ในทำเลที่เหมาะสม นอกจากนี้กองทุนยังมีความเสถียรในเรื่องของรายได้ รวมไปถึงยังมีธนาคารค้ำประกันรายได้ในช่วง 5 ปีแรก ทำให้นักลงทุนมั่นใจได้ว่ากองทุนจะสามารถให้เงินปันผลได้อย่างสม่ำเสมอ
ทั้งนี้รายได้ของกองทุนจะเป็นในรูปของค่าเช่า โดยในช่วง 5 ปีแรกของการจัดตั้งกองทุนได้ค้ำประกันรายได้กับธนาคารในวงเงิน 55 ล้านบาท และเมื่อหักค่าใช้จ่ายคาดว่ากองทุนน่าจะสามารถจ่ายผลกำไรได้ในระดับประมาณ 39 ล้านบาท หรือคิดเป็นผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 7.5%
สำหรับปัญหาเรื่องสภาพคล่องในการซื้อขายของกองทุนอสังหาริมทรัพย์ นายสมจินต์ กล่าวว่า แม้ว่ามูลค่าการซื้อขายของกองทุนอสังหาริมทรัพย์ในตลาดรอง (ตลท.) จะค่อนข้างน้อย แต่เชื่อว่าสำหรับกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟ็ค จะมีสภาพคล่องเพียงพอที่จะรองรับความต้องการของนักลงทุน นอกจากนี้ในส่วนของนักลงทุนที่ลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์นั้น จะเป็นการลงทุนในระยะยาวอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามถ้าหลังจากนี้มีการทำประชาสัมพันธ์ให้นักลงทุนรู้จักและการซื้อขายมีความกว้างขวางมากขึ้น จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้กองทุนอสังหาริมทรัพย์ในตลาดมีสภาพคล่องเพิ่มมากขึ้นด้วย
นายสมจินต์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันเริ่มเห็นกระแสการออกกองทุนอสังหาริมทรัพย์ของบลจ.ต่างๆเพิ่มมากขึ้น เนื่องมาจากขณะนี้ความต้องการการลงทุนผ่านกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง จากการที่ดอกเบี้ยปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้นักลงทุนพยายามหาทางเลือกใหม่ๆที่สามารถให้ผลตอบแทนในระดับสูงกว่าทดแทน ซึ่งในส่วนของบลจ.วรรณ มีแผนที่จะออกกองทุนอสังหาริมทรัพย์เพิ่มเติมอีก โดยขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาสินทรัพย์ที่จะนำมาลงทุนประมาณ 1-2 สินทรัพย์
นายสมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) วรรณ จำกัด กล่าวว่า การที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้มีการเสนอจัดตั้งกองทุนอิควิตี้ อีทีเอฟ ที่อ้างอิงดัชนีหมวดธุรกิจพลังงาน (Equity ETF on SET Energy Sector Index) นั้น บลจ.วรรณและทีมบริษัทที่ปรึกษาได้มีการยื่นเสนอขอเป็นผู้บริหารจัดการกองทุนอีทีเอฟดังกล่าวด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตามคาดการณ์ว่าตลาดหลักทรัพย์ฯ น่าจะสามารถผลักดันกองทุนอีทีเอฟที่ลงทุนในพลังงานได้ภายในไตรมาส 3 ของปีนี้ โดยหลังงานที่มีการจัดตั้งกองทุนอีทีเอฟที่ลงทุนอ้างอิงกับหุ้นกลุ่มพลังงานแล้ว ส่วนตัวประเมินว่าหลักทรัพย์ในกลุ่มธนาคารนั้นจัดเป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่มีศักยภาพและความน่าสนใจที่จะนำมาจัดตั้งเป็นกองทุนอีทีเอฟได้เช่นกัน
"เชื่อมั่นว่ากลุ่มของบริษัทเป็นทีมที่มีศักยภาพในการบริหารจัดการ และในส่วนของบริษัทที่ปรึกษาได้มีการสนับสนุนลูกค้าของแต่ละบริษัทให้ลงทุนผ่านกองทุนอีทีเอฟอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นถ้าทางตลาดหลักทรัพย์ให้ความไว้วางใจบลจ.วรรณเป็นผู้บริหารจัดการกองทุนอีทีเอฟพลังงาน บริษัทก็พร้อมที่จะทำงานให้ดีที่สุด" นายสมจินต์ กล่าว
นอกจากนี้สืบเนื่องจากทางตลาดฯ ได้มีการจัดทำกลุ่มดัชนี FTSE SET Index Series ซึ่งจะสามารถดำเนินการได้ในช่วงเดือนเมษายนนั้น ทางบลจ.วรรณ ได้มีแผนที่จะออกกองทุนที่อ้างอิงดัชนีดังกล่าวด้วยเช่นกัน โดยกลุ่มของดัชนีที่บริษัทวางแผนจะจัดตั้งกองทุน คือ กลุ่มดัชนี FTSE SET Large Cap และคาดการณ์ว่าจะสามารถจัดตั้งกองทุนดังกล่าวได้ภายในปี 2552
# TDEX ขนาดกองพุ่งเกือบ 200%
นายสมจินต์ กล่าวถึงกองทุนเปิด ไทยเด็กซ์ เซ็ท 50 อีทีเอฟ (TDEX)ว่า หลังจากที่ได้มีการเปิดซื้อขายเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2550 หรือเมื่อประมาณ 6 เดือนก่อนนั้น มูลค่าทรัพย์สินของกองทุนมีการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดกองทุนมีขนาดกองทุนประมาณ 3,000 ล้านบาท จากช่วงเปิดไอพีโอที่กองทุนสามารถระดมทุนได้เพียง 1,010 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 1,990 ล้านบาท หรือ 197% ในขณะที่จำนวนนักลงทุนได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 4,766 ราย จากช่วงไอพีโอที่มีนักลงทุนที่สนใจเข้ามาลงทุนใน TDEX เพียง 700 รายเท่านั้น
สำหรับการจ่ายเงินปันผลครั้งแรกของกองทุนไทยเด็กซ์ เซ็ท 50 อีทีเอฟนั้น กรรมการผู้จัดการ บลจ.วรรณ คาดว่าจะมีความชัดเจนได้ในเดือนเมษายนนี้ อย่างไรก็ตามตามกฎของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กำหนดให้เงินจ่ายปันผลเกิดมาจากผลกำไร ดังนั้นคงจะต้องมีการพิจารณาเกี่ยวกับระดับของดัชนี SET 50 ในขณะนั้นด้วย
#เปิดเทรด"PFFUND"ปิดเหนือจอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (20 มี.ค.51) เป็นวันเปิดการซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ฯ ของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟ็ค (PFFUND) โดยหลักทรัพย์เปิดตลาดที่ราคา 10.10 บาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.10 จุด หรือ 1% จากราคาจองที่ราคาหน่วยลงทุนที่ 10 บาท ก่อนที่จะมาปิดตลาดที่ราคา 10.20 บาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากราคาจองที่ 10 บาท จำนวน 0.20 บาท หรือ 2% มูลค่าการซื้อขาย 1.43 ล้านบาท
นายสมจินต์ กล่าวถึงกองทุนอสังหาริมทรัพย์ (พร็อพเพอร์ตี้ฟันด์) ว่า การลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์นั้นนับว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกการลงทุนที่ดี สำหรับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนที่มากกว่าการฝากเงินในธนาคาร และการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล โดยในส่วนของ PFFUND มีศักยภาพในการหารายได้ที่ดี เนื่องมาจากตัวสินทรัพย์ตั้งอยู่ในทำเลที่เหมาะสม นอกจากนี้กองทุนยังมีความเสถียรในเรื่องของรายได้ รวมไปถึงยังมีธนาคารค้ำประกันรายได้ในช่วง 5 ปีแรก ทำให้นักลงทุนมั่นใจได้ว่ากองทุนจะสามารถให้เงินปันผลได้อย่างสม่ำเสมอ
ทั้งนี้รายได้ของกองทุนจะเป็นในรูปของค่าเช่า โดยในช่วง 5 ปีแรกของการจัดตั้งกองทุนได้ค้ำประกันรายได้กับธนาคารในวงเงิน 55 ล้านบาท และเมื่อหักค่าใช้จ่ายคาดว่ากองทุนน่าจะสามารถจ่ายผลกำไรได้ในระดับประมาณ 39 ล้านบาท หรือคิดเป็นผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 7.5%
สำหรับปัญหาเรื่องสภาพคล่องในการซื้อขายของกองทุนอสังหาริมทรัพย์ นายสมจินต์ กล่าวว่า แม้ว่ามูลค่าการซื้อขายของกองทุนอสังหาริมทรัพย์ในตลาดรอง (ตลท.) จะค่อนข้างน้อย แต่เชื่อว่าสำหรับกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟ็ค จะมีสภาพคล่องเพียงพอที่จะรองรับความต้องการของนักลงทุน นอกจากนี้ในส่วนของนักลงทุนที่ลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์นั้น จะเป็นการลงทุนในระยะยาวอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามถ้าหลังจากนี้มีการทำประชาสัมพันธ์ให้นักลงทุนรู้จักและการซื้อขายมีความกว้างขวางมากขึ้น จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้กองทุนอสังหาริมทรัพย์ในตลาดมีสภาพคล่องเพิ่มมากขึ้นด้วย
นายสมจินต์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันเริ่มเห็นกระแสการออกกองทุนอสังหาริมทรัพย์ของบลจ.ต่างๆเพิ่มมากขึ้น เนื่องมาจากขณะนี้ความต้องการการลงทุนผ่านกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง จากการที่ดอกเบี้ยปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้นักลงทุนพยายามหาทางเลือกใหม่ๆที่สามารถให้ผลตอบแทนในระดับสูงกว่าทดแทน ซึ่งในส่วนของบลจ.วรรณ มีแผนที่จะออกกองทุนอสังหาริมทรัพย์เพิ่มเติมอีก โดยขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาสินทรัพย์ที่จะนำมาลงทุนประมาณ 1-2 สินทรัพย์