หลังจากที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้มีมติปรับลดดอกเบี้ยลง 1 % จึงทำให้ตราสารหนี้ระยะยาวมีผลตอบแทนสูงขึ้นมากกว่าในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งการลงทุนในตราสารหนี้นั้น มีช่องทางในการลงทุนได้หลากหลายรูปแบบ ผ่านการลงทุนในกองทุนรวมทั่วไป รวมถึงการลงทุนผ่านกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ( RMF ) ด้วย
ซึ่งกองทุน RMF เอง ถือเป็นการลงทุนระยะยาว ที่นอกจากจะเป็นการเก็บรักษาเงินต้นแล้ว ถ้าลงทุนภายในสิ้นปีนี้ จะได้รับการลดหย่อนภาษีอีกด้วย ดังนั้น คอลัมน์ Best of fund ในวันนี้ จึงขอแนะนำกองทุน RMF ที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด 10 อันดับแรก ว่ามีกองทุนใด จากค่ายไหน ที่น่าสนใจ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับนักลงทุนที่สนใจจะลงทุนในกองทุน RMF ต่อไป
สำหรับกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด 10 อันดับแรก ณ วันที่ 28 พฤศจิกายน 2551 ได้แก่ อันดับ1 กองทุนเปิดธนชาติตราสารหนี้เพื่อการเลี้ยงชีพ ภายใต้การบริหารของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ธนชาต โดยให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 7.07% และสามารถให้ผลตอบแทนสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 4.52% อันดับ2 กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ภาครัฐเพื่อการเลี้ยงชีพ ภายใต้การบริหารของบลจ. กรุงไทย โดยให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 6.55% และสามารถให้ผลตอบแทนสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 4.00%
อันดับ3 กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้เพื่อการเลี้ยงชีพ ภายใต้การบริหารของบลจ.กรุงไทย โดยให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 6.20% และสามารถให้ผลตอบแทนสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 3.65% อันดับ4 กองทุนเปิดธนชาติพันธบัตรเพื่อการเลี้ยงชีพ ภายใต้การบริหารของบลจ.ธนชาต โดยให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 5.41% และสามารถให้ผลตอบแทนสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 2.86%
อันดับ5 กองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย พันธบัตรเพื่อการเลี้ยงชีพ ภายใต้การบริหารของบลจ.ไอเอ็นจี โดยให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 4.57% และสามารถให้ผลตอบแทนสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน2.02% อันดับ6 กองทุนเปิดบัวหลวงตราสารหนี้เพื่อการเลี้ยงชีพ ภายใต้การบริหารของบลจ.บัวหลวง โดยให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 4.51% และสามารถให้ผลตอบแทนสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 1.96%
อันดับ7 กองทุนเปิดตราสารหนี้คุณค่าเพื่อการเลี้ยงชีพ ภายใต้การบริหารของบลจ.วรรณ โดยให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 4.48% และสามารถให้ผลตอบแทนสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 1.93% อันดับ8 กองทุนเปิดยูโอบีออมทรัพย์เพื่อการเลี้ยงชีพ ภายใต้การบริหารของบลจ.ยูโอบี โดยให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 4.43% และสามารถให้ผลตอบแทนสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 1.88%
อันดับ9 กองทุนเปิดอยุธยาพันธบัตรเพื่อการเลี้ยงชีพ ภายใต้การบริหารของบลจ.อยุธยา โดยให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 3.76% และสามารถให้ผลตอบแทนสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 1.21% และอันดับ10 กองทุนเปิด เค พันธบัตรเพื่อการเลี้ยงชีพ ภายใต้การบริหารของบลจ.กสิกรไทย โดยให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 3.64% และสามารถให้ผลตอบแทนสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 1.09% ทั้งนี้ เกณฑ์มาตรฐานที่ใช้คือ THB 1 Yr Avg 3 Banks Fixed Deposit equal 1 Million ซึ่งให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 2.55%
เปิดพอร์ตกองทุนอันดับ 1
วิศิษฐ์ ชื่นรัตนกุล ผู้จัดการกองทุนอาวุโส บลจ. ธนชาต เปิดเผยถึงจุดเด่นของกองทุนนี้ว่า กองทุนนี้ส่วนใหญ่จะลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล ประมาณ 70 กว่า% ซึ่งถือว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูง ความเสี่ยงต่ำ เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ไม่ชอบความเสี่ยง ส่วนอีก 20% จะเอาไปลงทุนในหุ้นกู้เอกชนที่มีคุณภาพดี และในส่วนที่เหลือก็จะนำไปลงทุนในเงินฝากของธนาคารพาณิชย์
"เนื่องจากช่วงนี้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง จึงส่งผลกระทบกับตราสารหนี้บ้าง แต่มางบริษัทก็จะใช้กลวิธีในการเพิ่ม-ลด Duration ถ้าช่วงไหนเศรษฐกิจไม่ดี ก็จะปรับ Duration ให้ยาวขึ้น" นาย วิศิษฐ์ กล่าว
ซึ่งกองทุน RMF เอง ถือเป็นการลงทุนระยะยาว ที่นอกจากจะเป็นการเก็บรักษาเงินต้นแล้ว ถ้าลงทุนภายในสิ้นปีนี้ จะได้รับการลดหย่อนภาษีอีกด้วย ดังนั้น คอลัมน์ Best of fund ในวันนี้ จึงขอแนะนำกองทุน RMF ที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด 10 อันดับแรก ว่ามีกองทุนใด จากค่ายไหน ที่น่าสนใจ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับนักลงทุนที่สนใจจะลงทุนในกองทุน RMF ต่อไป
สำหรับกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด 10 อันดับแรก ณ วันที่ 28 พฤศจิกายน 2551 ได้แก่ อันดับ1 กองทุนเปิดธนชาติตราสารหนี้เพื่อการเลี้ยงชีพ ภายใต้การบริหารของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ธนชาต โดยให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 7.07% และสามารถให้ผลตอบแทนสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 4.52% อันดับ2 กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ภาครัฐเพื่อการเลี้ยงชีพ ภายใต้การบริหารของบลจ. กรุงไทย โดยให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 6.55% และสามารถให้ผลตอบแทนสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 4.00%
อันดับ3 กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้เพื่อการเลี้ยงชีพ ภายใต้การบริหารของบลจ.กรุงไทย โดยให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 6.20% และสามารถให้ผลตอบแทนสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 3.65% อันดับ4 กองทุนเปิดธนชาติพันธบัตรเพื่อการเลี้ยงชีพ ภายใต้การบริหารของบลจ.ธนชาต โดยให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 5.41% และสามารถให้ผลตอบแทนสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 2.86%
อันดับ5 กองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย พันธบัตรเพื่อการเลี้ยงชีพ ภายใต้การบริหารของบลจ.ไอเอ็นจี โดยให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 4.57% และสามารถให้ผลตอบแทนสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน2.02% อันดับ6 กองทุนเปิดบัวหลวงตราสารหนี้เพื่อการเลี้ยงชีพ ภายใต้การบริหารของบลจ.บัวหลวง โดยให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 4.51% และสามารถให้ผลตอบแทนสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 1.96%
อันดับ7 กองทุนเปิดตราสารหนี้คุณค่าเพื่อการเลี้ยงชีพ ภายใต้การบริหารของบลจ.วรรณ โดยให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 4.48% และสามารถให้ผลตอบแทนสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 1.93% อันดับ8 กองทุนเปิดยูโอบีออมทรัพย์เพื่อการเลี้ยงชีพ ภายใต้การบริหารของบลจ.ยูโอบี โดยให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 4.43% และสามารถให้ผลตอบแทนสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 1.88%
อันดับ9 กองทุนเปิดอยุธยาพันธบัตรเพื่อการเลี้ยงชีพ ภายใต้การบริหารของบลจ.อยุธยา โดยให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 3.76% และสามารถให้ผลตอบแทนสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 1.21% และอันดับ10 กองทุนเปิด เค พันธบัตรเพื่อการเลี้ยงชีพ ภายใต้การบริหารของบลจ.กสิกรไทย โดยให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 3.64% และสามารถให้ผลตอบแทนสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 1.09% ทั้งนี้ เกณฑ์มาตรฐานที่ใช้คือ THB 1 Yr Avg 3 Banks Fixed Deposit equal 1 Million ซึ่งให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 2.55%
เปิดพอร์ตกองทุนอันดับ 1
วิศิษฐ์ ชื่นรัตนกุล ผู้จัดการกองทุนอาวุโส บลจ. ธนชาต เปิดเผยถึงจุดเด่นของกองทุนนี้ว่า กองทุนนี้ส่วนใหญ่จะลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล ประมาณ 70 กว่า% ซึ่งถือว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูง ความเสี่ยงต่ำ เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ไม่ชอบความเสี่ยง ส่วนอีก 20% จะเอาไปลงทุนในหุ้นกู้เอกชนที่มีคุณภาพดี และในส่วนที่เหลือก็จะนำไปลงทุนในเงินฝากของธนาคารพาณิชย์
"เนื่องจากช่วงนี้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง จึงส่งผลกระทบกับตราสารหนี้บ้าง แต่มางบริษัทก็จะใช้กลวิธีในการเพิ่ม-ลด Duration ถ้าช่วงไหนเศรษฐกิจไม่ดี ก็จะปรับ Duration ให้ยาวขึ้น" นาย วิศิษฐ์ กล่าว