หลังจากปมปัญหาทางด้านการเมือง ที่ส่งผลกระทบโดยตรงกับเศรษฐกิจของประเทศโดยตรง มีทีท่าว่าจะคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีในอนาคต ทำให้นักลงทุนเกิดความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม การลงทุนในกองทุนหุ้นตอนนี้มีความเสี่ยงค่อนข้างสูง นักลงทุนบางท่านจึงอยากจะเก็บเงินไว้แต่ก็อยากหาที่พักเงินที่มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีเช่นกัน ดังนั้นการลงทุนในตราสารหนี้ช่วงนี้ จัดว่าเป็นทางออกที่ดีของนักลงทุน ที่ไม่ต้องการจะเสี่ยงกับความผันผวนของตลาดหุ้น
คอลัมน์ "Best of Fund" ในวันนี้ จะขอนำเสนอผลการดำเนินงานของกองทุนตราสารหนี้ ที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด 10 อันดับแรก ว่ามีกองทุนใดให้ผลตอบแทนที่ดีแก่นักลงทุนบ้าง เพื่อให้นักลงทุนที่สนใจจะลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้ได้นำข้อมูลเหล่านี้ ไปประกอบการตัดสินใจที่จะลงทุนในกองทุนต่อไป
สำหรับกองทุนตราสารหนี้ ที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด 10 อันดับแรก ณ วันที่ 28 พฤศจิกายน 2551 ได้แก่ อันดับ 1 กองทุนเปิดดัชนีพันธบัตรไทยเอบีเอฟ ภายใต้การบริหารของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย โดยให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 11.11% และสามารถให้ผลตอบแทนสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 8.56% อันดับ2 กองทุนเปิด เค พันธบัตร 3/56 ภายใต้การบริหารของ บลจ.กสิกรไทยเช่นกัน โดยให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 9.32% และสามารถให้ผลตอบแทนสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 6.77%
อันดับ 3 กองทุนรวม ธีรสมบัติ ภายใต้การบริหารของบลจ.ธนชาต โดยให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 5.65% และสามารถให้ผลตอบแทนสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 3.10% อันดับ 4 กองทุนเปิดอยุธยาตราสารอุดมทรัพย์ ภายใต้การบริหารของบลจ.อยุธยา โดยให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 5.61% และสามารถให้ผลตอบแทนสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 30.6%
อันดับ 5 กองทุนเปิดรวงข้าวคืนกำไร 3 ภายใต้การบริหารของบลจ.กสิกรไทย โดยให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 5.53% และสามารถให้ผลตอบแทนสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 2.98% อันดับ 6 กองทุนเปิดรวงข้าวคืนกำไร 8 ภายใต้การบริหารของบลจ.กสิกรไทย โดยให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 5.51% และสามารถให้ผลตอบแทนสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 2.96%
อันดับ 7 กองทุนเปิดธนสาร ภายใต้การบริหารของบลจ.ธนชาต โดยให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 5.25% และสามารถให้ผลตอบแทนสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 2.70% อันดับ 8 กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ปันผล ภายใต้การบริหารของบลจ.กรุงไทย โดยให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 5.19% และสามารถให้ผลตอบแทนสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 2.64%
อันดับ 9 กองทุนเปิดธนชาติตราสารหนี้ ภายใต้การบริหารของบลจ.ธนชาต โดยให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 5.13% และสามารถให้ผลตอบแทนสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 2.58% และอันดับ 10 กองทุนเปิดทรัพย์สมบูรณ์ตราสารหนี้ 4 ภายใต้การบริหารของบลจ.ยูโอบี โดยให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 4.96% และสามารถให้ผลตอบแทนสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 2.41%
ทั้งนี้ เกณฑ์มาตรฐานที่ใช้เทียบ คือ THB 1 Yr Avg 3 Banks Fixed Deposit equal 1 Million ซึ่งให้ผลตอบแทน 2.55%
เปิดพอร์ตกองทุนอันดับ 1
กองทุนเปิดดัชนีพันธบัตรไทยเอบีเอฟ (ABFTH) เป็นกองทุนรวมอีทีเอฟที่ลงทุนในตราสารแห่งหนี้ ประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุนที่มีการกระจายการลงทุนน้อยกว่ามาตรฐานการกระจายการลงทุนที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. กำหนด โดยกองทุนนี้เหมาะสำหรับนักลงทุนในประเทศไทยที่ยอมรับความเสี่ยงจากการขาดทุนได้ในระดับต่ำ มีมูลค่าจำนวนเงินทุนโครงการ 15,000 ล้านบาท และในปัจจุบันนี้กองทุนมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิเท่ากับ 5,528,941,698.79 บาท
สำหรับนโยบายการลงทุน จะลงทุนส่วนใหญ่ในตราสารหนี้สกุลเงินบาทดังต่อไปนี้ (1) ตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐบาลไทย หรือ (2) ตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐวิสาหกิจหรือองค์กรของรัฐบาลไทย หรือองค์กรที่จัดตั้งโดยรัฐบาลไทย หรือหน่วยงานราชการอิสระ หรือส่วนราชการ หรือองค์กรกึ่งรัฐ (Quasi Thai Government) โดยตราสารดังกล่าว ต้องมีรัฐบาลไทยค้ำประกันทั้งจำนวนหรือได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือไม่ต่ำกว่าระดับ Investment Grade จาก Fitch Ratings หรือ Standard & Poor's หรือ Moody's Investors Service หรือ (3) ตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐบาลของสมาชิก EMEAP หรือ (4) ตราสารหนี้ที่ออกโดยองค์กรระหว่างประเทศ (Supranational) ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถืออย่างน้อยในระดับ AA- จากผู้จัดอันดับความน่าเชื่อถือตาม (2) หรือ (5) ตราสารอื่น ๆ ที่อยู่ในส่วนประกอบของดัชนีอ้างอิง หรือ (6) ตราสารไม่ด้อยสิทธิอื่น ๆ ที่ผู้ออกตราสารอยู่ในส่วนประกอบของดัชนีอ้างอิง ทั้งนี้ เฉพาะกรณีที่ตราสารของผู้ออกตราสารนั้นมีคุณสมบัติเป็นส่วนประกอบของดัชนีอ้างอิงได้ โดยไม่ต้องมีการค้ำประกันจากรัฐบาล