xs
xsm
sm
md
lg

กองABFTHจ่ายปันผล33บาท/หน่วย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ.กสิกรไทย ประกาศแจ้งจ่ายเงินปันผลกองทุนเปิด "ดัชนีพันธบัตรไทยเอบีเอฟ" จากผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2550 - 30 พฤศจิกายน 2551 จำนวน 33.00 บาทต่อหน่วย ให้ผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 30 ธันวาคมนี้

นางสาวเอื้อพันธ์ เพ็ชราภรณ์ ผู้บริหารฝ่ายบริการผู้ลงทุนและทะเบียนบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.)กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทขอแจ้งมติจ่ายเงินปันผลของกองทุนเปิดดัชนีพันธบัตรไทยเอบีเอฟ (ABFTH) ซึ่งอยู่ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัท สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2550 ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2551 โดยมีจำนวนเงินปันผลอยู่ที่ 33.00 บาทต่อหน่วย ให้ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีชื่อในสมุดทะเบียนของวันที่ 1 ธันวาคม 2551 โดยกำหนด จ่ายเงินปันผลในวันที่ 30 ธันวาคม 2551

สำหรับกองทุนเปิดดัชนีพันธบัตรไทยเอบีเอฟ (ABFTH)เป็นกองทุนรวมอีทีเอฟที่ลงทุนในตราสารแห่งหนี้ ประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุนที่มีการกระจายการลงทุนน้อยกว่ามาตรฐานการกระจายการลงทุนที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. กำหนด โดยได้รับอนุมัติจัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2548 และได้จดทะเบียนเป็นกองทุนรวมเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2549 ซึ่งมีจำนวนเงินทุนโครงการ 15,000,000,000.00 บาท

โดย กองทุนจะลงทุนส่วนใหญ่ในตราสารหนี้สกุลเงินบาทดังต่อไปนี้ (1) ตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐบาลไทย หรือ (2) ตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐวิสาหกิจหรือองค์กรของรัฐบาลไทย หรือองค์กรที่จัดตั้งโดยรัฐบาลไทย หรือหน่วยงานราชการอิสระ หรือส่วนราชการ หรือองค์กรกึ่งรัฐ (Quasi Thai Government) โดยตราสารดังกล่าว ต้องมีรัฐบาลไทยค้ำประกันทั้งจำนวนหรือได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือไม่ต่ำกว่าระดับ Investment Grade จาก Fitch Ratings หรือ Standard & Poor's หรือ Moody's Investors Service หรือ (3) ตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐบาลของสมาชิก EMEAP หรือ (4) ตราสารหนี้ที่ออกโดยองค์กรระหว่างประเทศ (Supranational) ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถืออย่างน้อยในระดับ AA- จากผู้จัดอันดับความน่าเชื่อถือตาม (2) หรือ (5) ตราสารอื่น ๆ ที่อยู่ในส่วนประกอบของดัชนีอ้างอิง หรือ (6) ตราสารไม่ด้อยสิทธิอื่น ๆ ที่ผู้ออกตราสารอยู่ในส่วนประกอบของดัชนีอ้างอิง ทั้งนี้ เฉพาะกรณีที่ตราสารของผู้ออกตราสารนั้นมีคุณสมบัติเป็นส่วนประกอบของดัชนีอ้างอิงได้ โดยไม่ต้องมีการค้ำประกันจากรัฐบาล

ทั้งนี้พบว่า สิ้นเดือนตุลาคม 2551 กองทุนมีสัดส่วนการลงทุน ดังนี้ เงินฝาก บัตรเงินฝาก หุ้นกู้ ตั๋วสัญญาใช้เงิน ตั๋วแลกเงินของ 0.36 % หุ้นกู้ ตั๋วแลกเงิน หรือตราสารหนี้ที่ออกโดยบริษัทเอกชน 2.17 % พันธบัตรหรือตราสารหนี้ รัฐบาล รัฐวิสาหกิจ กระทรวงการคลังค้ำประกัน 97.47%
กำลังโหลดความคิดเห็น