บลจ.นครหลวงไทยเปิดขายกองทุนใหม่รวดเดียว 5 กองทุน มูลค่าโครงการรวม 19,000 ล้านบาท โดยจะเน้นลงทุนในตราสารแห่งหนี้ทั้งภาครัฐบาล วิสาหกิจ ภาคเอกชนทั้งในประเทศหรือต่างประเทศ รวมทั้งตราสารภาครัฐต่างประเทศที่มีอันดับความน่าเชื่อถือใน 2 อันดับขึ้นไป เปิดขายไอพีโอพร้อมกันวันที่ 3 – 7 พ.ย.นี้
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) นครหลวงไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดเสนอขายหน่วยลงทุนสำหรับรอบการลงทุนใหม่จำนวน 5 กองทุน ประกอบไปด้วย กองทุนเปิดธนาวิวัฒน์คุ้มครองเงินต้น (TNWW) มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท กองทุนเปิดแมกซ์สะสมทรัพย์ 1 คุ้มครองเงินต้น (MAX SP1) มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท กองทุนเปิดแมกซ์สะสมทรัพย์ 3/1 คุ้มครองเงินต้น (MAX SP3/1) มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท กองทุนเปิดแมกซ์สะสมทรัพย์ 6/4 (MAX SP6/4) มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท กองทุนเปิดแมกซ์ตราสารหนี้ 3/2 (MAX FIX IN3/2) มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท โดยจะเปิดเสนอขายหน่วยลงทุนได้ประมาณวันที่ 3 – 7 พฤศจิกายน 2551
สำหรับกองทุน TNWW จะเน้นลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงต่ำเพื่อมุ่งที่จะคุ้มครองเงินต้นทั้งจำนวน ได้แก่ ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล หรือพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย พันธบัตร ตั๋วแลกเงิน ตั๋วสัญญาใช้เงิน หุ้นกู้ หรือใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นกู้ ที่กระทรวงการคลังหรือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเป็นผู้ออก ผู้สั่งจ่าย ผู้รับรอง ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกัน ตราสารภาครัฐต่างประเทศ ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือใน 2 อันดับแรก โดยการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือภายใต้ชื่อ Standard & Poor หรือ Moody’s หรือ Fitch หรือสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือต่างประเทศที่สำนักงานกำหนดเพิ่มเติม รวมถึงตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือบัตรเงินฝากที่บริษัทเงินทุนหรือบริษัทเครดิตฟองซิเอร์เป็นผู้ออกเพื่อการกู้ยืมหรือรับเงินจากประชาชน (4) เงินฝากในธนาคารพาณิชย์ หรือบัตรเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์เป็นผู้ออก และทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงต่ำ หรือมีความเสี่ยงเทียบเคียงได้กับความเสี่ยงของตราสารภาครัฐไทย ทั้งนี้ โดยได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน
นอกจากนี้ กองทุนอาจลงทุนในตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note) โดยเป็นไปตามหลักเกณฑ์หรือได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. และกองทุนอาจมีการลงทุนในต่างประเทศบางส่วนไม่เกินร้อยละ 79 ของ NAV ทั้งนี้ต้องไม่เกินวงเงินที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือธนาคารแห่งประเทศไทย อนุมัติจัดสรรให้ และกองทุนจะลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งหมด ตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงานกำหนด
ส่วนกองทุน MAX SP1 กองทุน MAX SP3/1 กองทุน MAX SP6/4 จะเน้นลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงต่ำเพื่อมุ่งที่จะคุ้มครองเงินต้นทั้ง จำนวน ได้แก่ ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล หรือพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย พันธบัตร ตั๋วแลกเงิน ตั๋วสัญญาใช้เงิน หุ้นกู้ หรือใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นกู้ที่กระทรวงการคลังหรือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเป็นผู้ออก ผู้สั่งจ่าย ผู้รับรอง ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกัน ตราสารภาครัฐต่างประเทศ ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือใน 2 อันดับแรก โดยการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือภายใต้ชื่อ Standard & Poor หรือ Moody’s หรือ Fitch หรือสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือต่างประเทศที่สำนักงานกำหนดเพิ่มเติม ตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือบัตรเงินฝากที่บริษัทเงินทุนหรือบริษัทเครดิตฟองซิเอร์เป็นผู้ออกเพื่อการกู้ยืมหรือรับเงินจากประชาชน (4) เงินฝากในธนาคารพาณิชย์ หรือบัตรเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์เป็นผู้ออก (5) ทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงต่ำ หรือมีความเสี่ยงเทียบเคียงได้กับความเสี่ยงของตราสารภาครัฐไทย ทั้งนี้ โดยได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน
ทั้งนี้ กองทุนจะมีการทำธุรกรรมการซื้อโดยมีสัญญาขายคืนเพื่อเป็นทรัพย์สินของโครงการลงทุนที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจเงินทุนและธุรกิจหลักทรัพย์ และในกรณีลงทุนในต่างประเทศ กองทุนจะลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งหมด ตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงานกำหนด
ขณะที่กองทุนเปิดแมกซ์ตราสารหนี้3/2 (MAX FIX IN3/2) จะเน้นลงทุนในตราสารแห่งหนี้ทั้งภาครัฐบาล วิสาหกิจ และ/หรือ ภาคเอกชน ทั้งในประเทศหรือต่างประเทศ หรือ ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุนหรือหลักทรัพย์ หรือทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างตามประกาศคณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.กำหนด นอกจากนี้ กองทุนอาจลงทุนในตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note) โดยเป็นไปตามหลักเกณฑ์หรือได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. และกองทุนอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อป้องกันความเสี่ยง ตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงานกำหนด
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) นครหลวงไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดเสนอขายหน่วยลงทุนสำหรับรอบการลงทุนใหม่จำนวน 5 กองทุน ประกอบไปด้วย กองทุนเปิดธนาวิวัฒน์คุ้มครองเงินต้น (TNWW) มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท กองทุนเปิดแมกซ์สะสมทรัพย์ 1 คุ้มครองเงินต้น (MAX SP1) มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท กองทุนเปิดแมกซ์สะสมทรัพย์ 3/1 คุ้มครองเงินต้น (MAX SP3/1) มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท กองทุนเปิดแมกซ์สะสมทรัพย์ 6/4 (MAX SP6/4) มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท กองทุนเปิดแมกซ์ตราสารหนี้ 3/2 (MAX FIX IN3/2) มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท โดยจะเปิดเสนอขายหน่วยลงทุนได้ประมาณวันที่ 3 – 7 พฤศจิกายน 2551
สำหรับกองทุน TNWW จะเน้นลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงต่ำเพื่อมุ่งที่จะคุ้มครองเงินต้นทั้งจำนวน ได้แก่ ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล หรือพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย พันธบัตร ตั๋วแลกเงิน ตั๋วสัญญาใช้เงิน หุ้นกู้ หรือใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นกู้ ที่กระทรวงการคลังหรือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเป็นผู้ออก ผู้สั่งจ่าย ผู้รับรอง ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกัน ตราสารภาครัฐต่างประเทศ ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือใน 2 อันดับแรก โดยการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือภายใต้ชื่อ Standard & Poor หรือ Moody’s หรือ Fitch หรือสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือต่างประเทศที่สำนักงานกำหนดเพิ่มเติม รวมถึงตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือบัตรเงินฝากที่บริษัทเงินทุนหรือบริษัทเครดิตฟองซิเอร์เป็นผู้ออกเพื่อการกู้ยืมหรือรับเงินจากประชาชน (4) เงินฝากในธนาคารพาณิชย์ หรือบัตรเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์เป็นผู้ออก และทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงต่ำ หรือมีความเสี่ยงเทียบเคียงได้กับความเสี่ยงของตราสารภาครัฐไทย ทั้งนี้ โดยได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน
นอกจากนี้ กองทุนอาจลงทุนในตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note) โดยเป็นไปตามหลักเกณฑ์หรือได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. และกองทุนอาจมีการลงทุนในต่างประเทศบางส่วนไม่เกินร้อยละ 79 ของ NAV ทั้งนี้ต้องไม่เกินวงเงินที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือธนาคารแห่งประเทศไทย อนุมัติจัดสรรให้ และกองทุนจะลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งหมด ตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงานกำหนด
ส่วนกองทุน MAX SP1 กองทุน MAX SP3/1 กองทุน MAX SP6/4 จะเน้นลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงต่ำเพื่อมุ่งที่จะคุ้มครองเงินต้นทั้ง จำนวน ได้แก่ ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล หรือพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย พันธบัตร ตั๋วแลกเงิน ตั๋วสัญญาใช้เงิน หุ้นกู้ หรือใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นกู้ที่กระทรวงการคลังหรือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเป็นผู้ออก ผู้สั่งจ่าย ผู้รับรอง ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกัน ตราสารภาครัฐต่างประเทศ ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือใน 2 อันดับแรก โดยการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือภายใต้ชื่อ Standard & Poor หรือ Moody’s หรือ Fitch หรือสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือต่างประเทศที่สำนักงานกำหนดเพิ่มเติม ตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือบัตรเงินฝากที่บริษัทเงินทุนหรือบริษัทเครดิตฟองซิเอร์เป็นผู้ออกเพื่อการกู้ยืมหรือรับเงินจากประชาชน (4) เงินฝากในธนาคารพาณิชย์ หรือบัตรเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์เป็นผู้ออก (5) ทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงต่ำ หรือมีความเสี่ยงเทียบเคียงได้กับความเสี่ยงของตราสารภาครัฐไทย ทั้งนี้ โดยได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน
ทั้งนี้ กองทุนจะมีการทำธุรกรรมการซื้อโดยมีสัญญาขายคืนเพื่อเป็นทรัพย์สินของโครงการลงทุนที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจเงินทุนและธุรกิจหลักทรัพย์ และในกรณีลงทุนในต่างประเทศ กองทุนจะลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งหมด ตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงานกำหนด
ขณะที่กองทุนเปิดแมกซ์ตราสารหนี้3/2 (MAX FIX IN3/2) จะเน้นลงทุนในตราสารแห่งหนี้ทั้งภาครัฐบาล วิสาหกิจ และ/หรือ ภาคเอกชน ทั้งในประเทศหรือต่างประเทศ หรือ ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุนหรือหลักทรัพย์ หรือทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างตามประกาศคณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.กำหนด นอกจากนี้ กองทุนอาจลงทุนในตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note) โดยเป็นไปตามหลักเกณฑ์หรือได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. และกองทุนอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อป้องกันความเสี่ยง ตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงานกำหนด