บลจ.อยุธยา คลอดกองทุนเปิดอยุธยาเอ็นแฮนซ์ไทยโน้ทพลัส 6M6 เน้นลงทุนบอนด์สถาบันการเงิน-เอกชนในประเทศ อายุ 6 เดือน ให้ผลตอบแทนแบบรับซื้อคืนอัตโนมัติไม่ต่ำกว่าอัตรา 3.65%% เปิดจองซื้อหน่วยลงทุนถึง 3 พฤศจิกายนนี้
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อยุธยา จำกัด หรือเอวายเอฟ เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเสนอขาย กองทุนเปิดอยุธยาเอ็นแฮนซ์ไทยโน้ทพลัส 6M6 (AYF Enhanced Thai Note Plus 6M6 Fund ) กองทุนรวมประเภทตราสารหนี้ ที่มีการกระจายการลงทุนน้อยกว่าเกณฑ์มาตราฐาน ประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ โดยจะทำการเสนอขายหน่วยลงทุนในวันที่ 27 ตุลาคม - 3 พฤศจิกายน 2551 กำหนดวงเงินจองซื้อขั้นต่ำอยู่ที่ 10,000 บาท
ทั้งนี้ กองทุนมีนโยบายที่จะลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อแสดงหาผลประโยชน์ตอบแทน ทำให้กองทุนเปิดนี้มีความเสี่ยงมากกว่ากองทุนรวมอื่น จึงเหมาะสมกับผู้ลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนสูงและรับความเสี่ยงสูงกว่าผู้ลงทุนทั่วไป ซึ่งทางบริษัท มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการลงทุนในตลาดเงิน และให้ผลตอบแทนที่เหมาะสม ทั้งนี้ จะระดมทุนจากผู้ลงทุนทั่วไปและสถาบันต่างๆไปลงทุนตามนโยบายการลงทุนที่กำหนดไว้ในโครงการจัดการ
โดยรายละเอียดของตราสารที่คาดว่าจะลงทุน คือ ตราสารหนี้ในประเทศที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับ A- ขึ้นไป เช่น หุ้นกู้ระยะสั้นออกโดยธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด (ไทย) จำกัด (มหาชน) ผลตอบแทนประมาณ 3.80% AA+/FITCH , หุ้นกู้ระยะสั้นออกโดยธนาคารกสิกรไทยจำกัด (มหาชน) ผลตอบแทนประมาณ 3.85% AA/FITCH , ตั๋วแลกเงินออกโดยธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) ผลตอบแทนประมาณ 3.75% A/FITCH , ตั๋วแลกเงินออกโดยบริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) ผลตอบแทนประมาณ 4.08% A-/FITCH , ตั๋วแลกเงินออกโดยธนาคาร ยูโอบี จำกัด (มหาชน) ผลตอบแทนประมาณ 3.80% AA+/FITCH , ตั๋วสัญญาใช้เงินออกโดยบริษัทหลักทรัพย์เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์ จำกัด ผลตอบแทนประมาณ 4.70% A/TRIS เป็นต้น
โดยกองทุนจะรับซื้อคืนอัตโนมัติไม่ต่ำกว่าอัตรา 3.65% โดยเฉลี่ยต่อปีของเงินลงทุนเริ่มแรก ซึ่งผลตอบแทนของตราสารที่กองทุนเข้าไปลงทุนอยู่ที่ประมาณ 3.95% ส่วนค่าใช้จ่ายของกองทุนประมาณ 0.30%
ทั้งนี้ ในกรณีที่กองทุนไม่สามารถลงทุนให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้เนื่องจากสภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไป ผู้ถือหน่วยลงทุนอาจไม่ได้รับผลตอบแทนตามอัตราที่ระบุไว้ ทั้งนี้ตราสารที่จะลงทุน สัดส่วนการลงทุน ประมาณการผลตอบแทนและค่าใช้จ่ายของกองทุน อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามที่บริษัทจัดการเห็นสมควร
อย่างไรก็ตาม กองทุนดังกล่าวจะไม่รับซื้อคืนหน่วยลงทุนแบบปกติระหว่างอายุโครงการ โดยบริษัทจัดการจะดำเนินการรับซื้อคืนหน่วยลงทุน ด้วยการทำการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนอัตโนมัติทั้งจำนวนของผู้ถือหน่วยลงทุนทุกราย ณ วันทำการก่อนวันสิ้นสุดอายุโครงการ ไปยังกองทุนเปิดอยุธยาตราสารเงินพลัสซึ่งเป็นกองทุนรวมตลาดเงินที่ลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น รวมไปถึงการลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นในต่างประเทศ
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อยุธยา จำกัด หรือเอวายเอฟ เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเสนอขาย กองทุนเปิดอยุธยาเอ็นแฮนซ์ไทยโน้ทพลัส 6M6 (AYF Enhanced Thai Note Plus 6M6 Fund ) กองทุนรวมประเภทตราสารหนี้ ที่มีการกระจายการลงทุนน้อยกว่าเกณฑ์มาตราฐาน ประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ โดยจะทำการเสนอขายหน่วยลงทุนในวันที่ 27 ตุลาคม - 3 พฤศจิกายน 2551 กำหนดวงเงินจองซื้อขั้นต่ำอยู่ที่ 10,000 บาท
ทั้งนี้ กองทุนมีนโยบายที่จะลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อแสดงหาผลประโยชน์ตอบแทน ทำให้กองทุนเปิดนี้มีความเสี่ยงมากกว่ากองทุนรวมอื่น จึงเหมาะสมกับผู้ลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนสูงและรับความเสี่ยงสูงกว่าผู้ลงทุนทั่วไป ซึ่งทางบริษัท มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการลงทุนในตลาดเงิน และให้ผลตอบแทนที่เหมาะสม ทั้งนี้ จะระดมทุนจากผู้ลงทุนทั่วไปและสถาบันต่างๆไปลงทุนตามนโยบายการลงทุนที่กำหนดไว้ในโครงการจัดการ
โดยรายละเอียดของตราสารที่คาดว่าจะลงทุน คือ ตราสารหนี้ในประเทศที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับ A- ขึ้นไป เช่น หุ้นกู้ระยะสั้นออกโดยธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด (ไทย) จำกัด (มหาชน) ผลตอบแทนประมาณ 3.80% AA+/FITCH , หุ้นกู้ระยะสั้นออกโดยธนาคารกสิกรไทยจำกัด (มหาชน) ผลตอบแทนประมาณ 3.85% AA/FITCH , ตั๋วแลกเงินออกโดยธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) ผลตอบแทนประมาณ 3.75% A/FITCH , ตั๋วแลกเงินออกโดยบริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) ผลตอบแทนประมาณ 4.08% A-/FITCH , ตั๋วแลกเงินออกโดยธนาคาร ยูโอบี จำกัด (มหาชน) ผลตอบแทนประมาณ 3.80% AA+/FITCH , ตั๋วสัญญาใช้เงินออกโดยบริษัทหลักทรัพย์เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์ จำกัด ผลตอบแทนประมาณ 4.70% A/TRIS เป็นต้น
โดยกองทุนจะรับซื้อคืนอัตโนมัติไม่ต่ำกว่าอัตรา 3.65% โดยเฉลี่ยต่อปีของเงินลงทุนเริ่มแรก ซึ่งผลตอบแทนของตราสารที่กองทุนเข้าไปลงทุนอยู่ที่ประมาณ 3.95% ส่วนค่าใช้จ่ายของกองทุนประมาณ 0.30%
ทั้งนี้ ในกรณีที่กองทุนไม่สามารถลงทุนให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้เนื่องจากสภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไป ผู้ถือหน่วยลงทุนอาจไม่ได้รับผลตอบแทนตามอัตราที่ระบุไว้ ทั้งนี้ตราสารที่จะลงทุน สัดส่วนการลงทุน ประมาณการผลตอบแทนและค่าใช้จ่ายของกองทุน อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามที่บริษัทจัดการเห็นสมควร
อย่างไรก็ตาม กองทุนดังกล่าวจะไม่รับซื้อคืนหน่วยลงทุนแบบปกติระหว่างอายุโครงการ โดยบริษัทจัดการจะดำเนินการรับซื้อคืนหน่วยลงทุน ด้วยการทำการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนอัตโนมัติทั้งจำนวนของผู้ถือหน่วยลงทุนทุกราย ณ วันทำการก่อนวันสิ้นสุดอายุโครงการ ไปยังกองทุนเปิดอยุธยาตราสารเงินพลัสซึ่งเป็นกองทุนรวมตลาดเงินที่ลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น รวมไปถึงการลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นในต่างประเทศ