บลจ.พรีมาเวสท์เตรียมขยายบริการ Passbook เพิ่ม หลังประเดิมใช้กับลูกค้าเครือแบงก์กรุงศรีตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม พร้อมเล็งขยายจำนวนกองทุนที่ให้บริการ ทั้งโรว์โอเวอร์ และกองทาร์เก็ตรีเทริน์อายุ 6 เดือน ขณะเดียวกันเตรียมดันกอง KPM เป็นกองเพิ่มยิลด์ระหว่างพักเงินให้กับลูกค้าก่อนลงทุนใหม่
นายเพิ่มพล ประเสริฐล้ำ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) พรีมาเวสท์ จำกัด บริษัทฯ ในเครือธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางบริษัทได้อยู่ในช่วงเปิดทดลองใช้บริการสมุดบัญชีแสดงสิทธิในหน่วยลงทุน หรือ Passbook เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า สำหรับ 9 กองทุนภายใต้การจัดการ ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้ การให้บริการ Passbook จะเริ่มต้นสำหรับลูกค้าที่ลงทุนผ่านธนาคารกรุงศรีอยุธยาก่อน ส่วนผู้ถือหน่วยที่ลงทุนผ่านตัวแทนอื่นๆ ของบลจ.จะเริ่มทยอยให้บริการในอนาคต
“การใช้พาสบุคก็เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้า ซึ่งคุณสมบัติของมันจะคลายกับสมุดบัญชีของธนาคาร ซึ่งก่อนหน้านี้กว่าจะอัพเดทข้อมูลการลงทุนได้ต้องมาที่เรา แต่ตอนนี้สามารถอัพเดทได้ทุกสาขาของธนาคากรุงศรีแล้ว”นายเพิ่มพลกล่าว
นายเพิ่มพล กล่าวอีกว่า การขยายบริการ Passbook ให้ครอบคลุมลูกค้าที่ลงทุนผ่านตัวแทนอื่นนั้น เรื่องดังกล่าวจะต้องใช้เวลา ซึ่งในขณะนี้ระบบมีความพร้อมแล้ว เพียงแต่บริษัทต้องการดูผลตอบรับจากนักลงทุนก่อนว่า ยังมีความต้องการบริการอะไรเพิ่มเติมอีกหรือเปล่า
“ช่วงนี้ยังทดลองกับลูกค้าของแบงก์กรุงศรีก่อน เพื่อที่จะดูว่าลูกค้าต้องการบริการอะไรเพิ่มหรือไม่หรือการตอบรับเป็นอย่างไร และมีข้อแนะนำอะไรเพิ่มเติมอีก”นายเพิ่มพลกล่าว
นอกจากนี้ ในอนาคตทางบริษัทยังมีแผนที่จะขยายการให้บริการเพิ่มเติมสำหรับลูกค้าที่ลงทุนในกองโรว์โอเวอร์ และกองทาร์เก็ตรีเทิรน์อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการใช้ Passbook ที่สามารถขยายความร่วมมือหรืออัพเดทได้กับเซลลิงค์เอเย่นต์อื่นๆนั้น คงจะต้องมีการเจรจากันอีก เนื่องจากจะต้องเป็นการร่วมมือกันทั้ง 2 ฝ่ายที่จะร่วมให้บริการนี้อ ซึ่งหากมีการใช้ Passbook กับกองทุนประเภท โรว์โอเวอร์เชื่อว่าจะทำให้นักลงทุนได้รับความสะดวกมากขึ้น โดยสามารถทราบข้อมูลเอ็นเอวี และนำมาคำนวณพร้อมผลตอบแทนได้หลังจากที่หมดอายุโครงการ ช่วยให้นักลงทุนสามารถลงทุนต่อได้ทันที โดยไม่ต้องถอนเงินสดออกมาซื้อแต่อย่างใด
นายเพิ่มพล กล่าวอีกว่า ในส่วนของกองทุนทาร์เก็ตรีเทริน์อายุ 6 เดือนที่จะให้บริการ Passbook ในอนาคตนั้น ตั้งเป้าว่าเมื่อนักลงทุนต้องการพักเงินหลังจากกองทุนครบอายุแล้ว บริษัทจะมีการนำเงินลงทุนของลูกค้ามาไว้ในกองทุนเปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์ มันนี่ หรือ KPM ซึ่งการให้บริการ Passbook เพราะจะเพิ่มความสะดวกในส่วนนี้ได้มากขึ้น
“นักลงทุนจะลงทุนต่อเลยก็ได้ ซึ่งเมื่ออัพเดทในพาสบุ๊คแล้วเข้าจะทราบทันทีว่ามีเงินทุนอยู่เท่าไร โดยการให้บริการนี้เมื่อนำเงินมาพักไว้ใน KPM แล้วมันจะสร้างผลตอบแทนให้นักลงทุนตลอดเวลาที่พักเงินในนี้ ซึ่งมันจะเป็นประโยชน์แก่นักลงทุนเอง”นายเพิ่มพลกล่าว
สำหรับ กองทุนเปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์ มันนี่(KPM) ถือว่าได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากกองทุนนี้มีความมั่นคงและสภาพคล่องสูง โดยมีนโยบายลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้ของสถาบันการเงินระยะสั้น ทำให้นักลงทุนสามารถขายคืนได้ทุกวัน
นอกจากนี้ ผลการดำเนินงานของกองทุน KPM ถือว่าอยู่ในระดับที่ดี ซึ่ง ณ วันที่ 29 สิงหาคม 2551 มีผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 3.02% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 2.89% ย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 2.85% และตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 3.43% ต่อปี