บลจ.เอ็มเอฟซีเป็นปลื้ม กลยุทธ์การตลาดใหม่สร้างเเบนด์ได้ผล ลูกค้าใหม่ตอบรับเข้าลงทุนกว่า 1,500 ราย "กาญจนา"เชื่อไตรมาส 4 ดึงนักลงทุนเข้ามาเพิ่มเเน่ หลังรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้น ประกาศขยายวงเงินลดหย่อนภาษี ล่าสุด เปิดตัวเเคมเปญใหม่"คูณ 2" ลงทุนผ่านกองทุน "RMF/LTF" รับสลากออมสินเป็น 2 เท่า ตั้งเเต่วันนี้ถึง 28 พฤศจิกายน ศกนี้
นางกาญจนา โรจวทัญญู รองกรรมการผู้จัดการ สายการขายเเละการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) หรือเอ็มเอฟซี เปิดเผยว่า ตั้งเเต่ต้นปีที่ผ่านมา ทางบลจ.ได้ใช้การตลาดเเนวใหม่ในการสร้างเเบนด์ ซึ่งการตลาดเเนวใหม่นี้ทำให้นักลงทุนหน้าใหม่สนใจเข้ามาลงทุนภายเเละรู้จักบลจ.มากขึ้นถึง 1,500 ราย จากเดิมที่เราตั้งเป้าลูกค้ารายใหม่ไว้เพียง 1,000 ราย เนื่องจากครึ่งปีเเรก ทางธนาคารพาณิชย์ระดมเงินฝาก ประกอบกับครึ่งปีหลัง ภาวะตลาดอยู่ในช่วงขาลงเเละซบเซา แต่อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าในไตรมาสที่เหลือนี้ น่าจะมีลูกค้าเข้ามาลงทุนกับบลจ.เพิ่มขึ้นประมาณ 500 ราย
ทั้งนี้ ตัวเลขโดยรวมของผู้ที่เข้ามาลงทุนในบลจ.ประมาณ 60,000 ราย เเบ่งเป็นลูกค้าเก่า 50,000 ราย เเละลูกค้าที่มีความเคลื่อนไหวในการลงทุนหรือลูกค้าประเภท active ประมาณ 7,000-8,000 ราย เเละลูกค้ารายใหม่ที่เข้ามาลงทุนอีก 1,500 ราย
"ตั้งเเเราเปลี่ยนการตลาดเเนวใหม่ โดยเน้นการสร้างเเบนด์ให้เป็นที่รู้จัก ปรากฏว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากมีคนรู้จักบลจ.เอ็มเอฟซีมากขึ้น ส่วนงบประมาณในการจัดทำการตลาดของปี 2551 เรามีงบการตลาดเพียงเเค่ 30 ล้านบาทเเท่านั้น โดยในไตรมาส 4 นี้เราจะโฟกัสไปที่กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) เเละกองทุนตราสารหนี้" นางกาญจนา กล่าว
ล่าสุด บลจ.ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด ภายใต้แคมเปญ คูณสอง (X2) ภายหลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2551 มีมติอนุมัติมาตรการภาษีขยายวงเงินการหักค่าลดหย่อนในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (Long Term Equity Fund: LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (Retirement Mutual Fund: RMF) จาก 5 แสนบาท เป็น 7 แสนบาท หรือไม่เกินร้อยละ 15 ของรายได้นั้น นับเป็นโอกาสอันดี
โดยบลจ. เปิดโอกาสให้นักลงทุนที่จะลงทุนผ่านกองทุน RMF/LTF กับ บลจ.เอ็มเอฟซี รับโชคเพิ่มสองชั้น โดยโชคชั้นที่ 1 รับสิทธิ์ในการนำหน่วยลงทุนไปช่วยในการลดหย่อนภาษีสูงสุดถึง 37% และโชคชั้นที่สอง รับฟรีหน่วยสลากออมสินมูลค่า 50 บาท เอกลักษณ์หนึ่งเดียว เมื่อลงทุนในกองทุน RMF/LTF ทุก 10,000 บาทกับบลจ. เอ็มเอฟซี ซึ่งใน ปีนี้บริษัทเปิดโอกาสให้นักลงทุนและประชาชนทั่วไปร่วมสนุกด้วยการตัดโฆษณา RMF/LTF ของบลจ. เอ็มเอฟซีจากหน้าหนังสือพิมพ์ หรือใช้โปสการ์ด RMF/LTF ที่จะแจกจ่ายในย่านธุรกิจต่างๆ นำมาแสดงในวันซื้อหน่วยลงทุน ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 28 พฤศจิกายนนี้ เพื่อรับหน่วยสลากออมสินเพิ่มสองเท่า และยังมีโอกาสลุ้นเงินล้านต่อไปอีก 35 งวด เพิ่มทางเลือกให้ผู้มีรายได้ประจำนำเงินออมไปลงทุนในกองทุนทั้งสองมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ภาพรวมการลงทุนในประเทศขยายตัวต่อเนื่องอีกด้วย
ทั้งนี้ เมื่อลงทุนเริ่มต้นในวงเงิน 10,000 บาทขึ้นไปจะได้รับสลากออมสิน เพิ่มเป็น 2 เท่า ทุกยอดการซื้อหน่วยลงทุนที่เพิ่มขึ้น 10,000 บาท สูงสุด ส่วนนักลงทุนที่ลงทุนในวงเงิน 700,000 บาท จะได้รับสลากออมสินเป็นมูลค่า 7,000 บาท จากปกติเพียง3,500 บาท ทั้งนี้นักลงทุนสามารถนำยอดวงเงินการซื้อทั้ง 2 กองทุนมารวมกันเพื่อแลกรับสลากออมสินลุ้นรับรางวัลที่ 1 มูลค่า 10 ล้านบาท จำนวน 2 รางวัลจากธนาคารออมสิน
สำหรับกองทุนRMF เเละ LTF ภายใต้การบริหารจัดการของบลจ.เอ็มเอฟซี มีดังนี้ กองทุนรวมหุ้นระยะยาว จำนวน 4 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดเอ็มเอฟซีเพิ่มค่าหุ้นระยะยาว (MV-LTF) และกองทุนเปิดเอ็มเอฟซีเพิ่มทรัพย์หุ้นระยะยาว (MA-LTF) กองทุนเปิดเอ็มเอฟซีโกลบอลหุ้นระยะยาว (MG-LTF) และกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี อิสลามิกหุ้นระยะยาว (MIF-LTF) รวมถึงกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ จำนวน 5 กองทุน ซึ่งมีนโยบายการลงทุนที่แตกต่างกัน โดยผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถเลือกประเภทและนโยบายการลงทุนให้เหมาะสมกับความสามารถในการยอมรับความเสี่ยงและผลตอบแทนได้แก่ กองทุนเปิดเอ็มเอฟซีคุ้มครองเงินต้นเพื่อการเลี้ยงชีพ (M-CR) กองทุนเปิดเอ็มเอฟซีออมทรัพย์เพื่อการเลี้ยงชีพ (M-SAVING) กองทุนเปิดเอ็มเอฟซีพันธบัตรเพื่อการเลี้ยงชีพ (M-BOND) กองทุนเปิดเอ็มเอฟซีตราสารหนี้เพื่อการเลี้ยงชีพ (M-FIX) และกองทุนเปิดเอ็มเอฟซีเงินทุนสร้างค่าเพื่อการเลี้ยงชีพ (M-VALUE)
นางกาญจนา กล่าวอีกว่า จากสถานการณ์ราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงค่อนข้างมากในปัจจุบัน นับเป็นจังหวะดีสำหรับนักลงทุนที่จะเข้าไปเก็บหุ้นพื้นฐานดีที่มีราคาถูก และเป็นจังหวะเหมาะที่จะเข้าไปลงทุนในกองทุน LTF และกองทุน RMF นอกจากจะช่วยลดหย่อนภาษีได้แล้ว การลงทุนในช่วงนี้ยังมีแนวโน้มสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวให้แก่นักลงทุนอีกด้วย
นางกาญจนา โรจวทัญญู รองกรรมการผู้จัดการ สายการขายเเละการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) หรือเอ็มเอฟซี เปิดเผยว่า ตั้งเเต่ต้นปีที่ผ่านมา ทางบลจ.ได้ใช้การตลาดเเนวใหม่ในการสร้างเเบนด์ ซึ่งการตลาดเเนวใหม่นี้ทำให้นักลงทุนหน้าใหม่สนใจเข้ามาลงทุนภายเเละรู้จักบลจ.มากขึ้นถึง 1,500 ราย จากเดิมที่เราตั้งเป้าลูกค้ารายใหม่ไว้เพียง 1,000 ราย เนื่องจากครึ่งปีเเรก ทางธนาคารพาณิชย์ระดมเงินฝาก ประกอบกับครึ่งปีหลัง ภาวะตลาดอยู่ในช่วงขาลงเเละซบเซา แต่อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าในไตรมาสที่เหลือนี้ น่าจะมีลูกค้าเข้ามาลงทุนกับบลจ.เพิ่มขึ้นประมาณ 500 ราย
ทั้งนี้ ตัวเลขโดยรวมของผู้ที่เข้ามาลงทุนในบลจ.ประมาณ 60,000 ราย เเบ่งเป็นลูกค้าเก่า 50,000 ราย เเละลูกค้าที่มีความเคลื่อนไหวในการลงทุนหรือลูกค้าประเภท active ประมาณ 7,000-8,000 ราย เเละลูกค้ารายใหม่ที่เข้ามาลงทุนอีก 1,500 ราย
"ตั้งเเเราเปลี่ยนการตลาดเเนวใหม่ โดยเน้นการสร้างเเบนด์ให้เป็นที่รู้จัก ปรากฏว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากมีคนรู้จักบลจ.เอ็มเอฟซีมากขึ้น ส่วนงบประมาณในการจัดทำการตลาดของปี 2551 เรามีงบการตลาดเพียงเเค่ 30 ล้านบาทเเท่านั้น โดยในไตรมาส 4 นี้เราจะโฟกัสไปที่กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) เเละกองทุนตราสารหนี้" นางกาญจนา กล่าว
ล่าสุด บลจ.ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด ภายใต้แคมเปญ คูณสอง (X2) ภายหลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2551 มีมติอนุมัติมาตรการภาษีขยายวงเงินการหักค่าลดหย่อนในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (Long Term Equity Fund: LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (Retirement Mutual Fund: RMF) จาก 5 แสนบาท เป็น 7 แสนบาท หรือไม่เกินร้อยละ 15 ของรายได้นั้น นับเป็นโอกาสอันดี
โดยบลจ. เปิดโอกาสให้นักลงทุนที่จะลงทุนผ่านกองทุน RMF/LTF กับ บลจ.เอ็มเอฟซี รับโชคเพิ่มสองชั้น โดยโชคชั้นที่ 1 รับสิทธิ์ในการนำหน่วยลงทุนไปช่วยในการลดหย่อนภาษีสูงสุดถึง 37% และโชคชั้นที่สอง รับฟรีหน่วยสลากออมสินมูลค่า 50 บาท เอกลักษณ์หนึ่งเดียว เมื่อลงทุนในกองทุน RMF/LTF ทุก 10,000 บาทกับบลจ. เอ็มเอฟซี ซึ่งใน ปีนี้บริษัทเปิดโอกาสให้นักลงทุนและประชาชนทั่วไปร่วมสนุกด้วยการตัดโฆษณา RMF/LTF ของบลจ. เอ็มเอฟซีจากหน้าหนังสือพิมพ์ หรือใช้โปสการ์ด RMF/LTF ที่จะแจกจ่ายในย่านธุรกิจต่างๆ นำมาแสดงในวันซื้อหน่วยลงทุน ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 28 พฤศจิกายนนี้ เพื่อรับหน่วยสลากออมสินเพิ่มสองเท่า และยังมีโอกาสลุ้นเงินล้านต่อไปอีก 35 งวด เพิ่มทางเลือกให้ผู้มีรายได้ประจำนำเงินออมไปลงทุนในกองทุนทั้งสองมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ภาพรวมการลงทุนในประเทศขยายตัวต่อเนื่องอีกด้วย
ทั้งนี้ เมื่อลงทุนเริ่มต้นในวงเงิน 10,000 บาทขึ้นไปจะได้รับสลากออมสิน เพิ่มเป็น 2 เท่า ทุกยอดการซื้อหน่วยลงทุนที่เพิ่มขึ้น 10,000 บาท สูงสุด ส่วนนักลงทุนที่ลงทุนในวงเงิน 700,000 บาท จะได้รับสลากออมสินเป็นมูลค่า 7,000 บาท จากปกติเพียง3,500 บาท ทั้งนี้นักลงทุนสามารถนำยอดวงเงินการซื้อทั้ง 2 กองทุนมารวมกันเพื่อแลกรับสลากออมสินลุ้นรับรางวัลที่ 1 มูลค่า 10 ล้านบาท จำนวน 2 รางวัลจากธนาคารออมสิน
สำหรับกองทุนRMF เเละ LTF ภายใต้การบริหารจัดการของบลจ.เอ็มเอฟซี มีดังนี้ กองทุนรวมหุ้นระยะยาว จำนวน 4 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดเอ็มเอฟซีเพิ่มค่าหุ้นระยะยาว (MV-LTF) และกองทุนเปิดเอ็มเอฟซีเพิ่มทรัพย์หุ้นระยะยาว (MA-LTF) กองทุนเปิดเอ็มเอฟซีโกลบอลหุ้นระยะยาว (MG-LTF) และกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี อิสลามิกหุ้นระยะยาว (MIF-LTF) รวมถึงกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ จำนวน 5 กองทุน ซึ่งมีนโยบายการลงทุนที่แตกต่างกัน โดยผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถเลือกประเภทและนโยบายการลงทุนให้เหมาะสมกับความสามารถในการยอมรับความเสี่ยงและผลตอบแทนได้แก่ กองทุนเปิดเอ็มเอฟซีคุ้มครองเงินต้นเพื่อการเลี้ยงชีพ (M-CR) กองทุนเปิดเอ็มเอฟซีออมทรัพย์เพื่อการเลี้ยงชีพ (M-SAVING) กองทุนเปิดเอ็มเอฟซีพันธบัตรเพื่อการเลี้ยงชีพ (M-BOND) กองทุนเปิดเอ็มเอฟซีตราสารหนี้เพื่อการเลี้ยงชีพ (M-FIX) และกองทุนเปิดเอ็มเอฟซีเงินทุนสร้างค่าเพื่อการเลี้ยงชีพ (M-VALUE)
นางกาญจนา กล่าวอีกว่า จากสถานการณ์ราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงค่อนข้างมากในปัจจุบัน นับเป็นจังหวะดีสำหรับนักลงทุนที่จะเข้าไปเก็บหุ้นพื้นฐานดีที่มีราคาถูก และเป็นจังหวะเหมาะที่จะเข้าไปลงทุนในกองทุน LTF และกองทุน RMF นอกจากจะช่วยลดหย่อนภาษีได้แล้ว การลงทุนในช่วงนี้ยังมีแนวโน้มสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวให้แก่นักลงทุนอีกด้วย