การลงทุนในปัจจุบันนี้ คงสร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้นักลงทุนอยู่ไม่ใช่น้อย นับตั้งแต่มีวิกฤติปัญหาสินเชื่อด้อยคุณภาพในสหรัฐอเมริกา (ซับไพรม์) ลามจนมาจนถึงวิกฤติของสถาบันการเงินทั่วโลก ที่สร้างความกดดันให้ทางภาครัฐหลายประเทศ ต้องเข้ามาอัดฉีดเม็ดเงินเข้าไปขนานใหญ่ ไล่มาตั้งแต่พี่เบิ้มอย่างสหรัฐอเมริกาเอง เนเธอร์แลนด์ แม้กระทั่งประเทศในแถบเอเชียอย่างญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ก็ยังไม่มียกเว้น
ขณะที่การลงทุนในกองทุนที่เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ที่ได้รับความนิยมในช่วงต้นปี 2550 ก็กลับไปสู่วงจรตกต่ำ อย่างที่เคยเกิดขึ้นกับกองทุนที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ประเภทตราสารการเงิน ของสถาบันการเงินต่างประเทศ (Euro Commercial Paper : ECP) อย่างไม่มีผิดเพี้ยน กองทุนที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศ โดยเฉพาะภาครัฐเลยกลายเป็นพระเอกขี่ม้าขาวของการลงทุนในช่วงนี้ไปโดยปริยาย
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการลงทุนในกองทุนต่างๆ ในช่วงนี้จะมีผลตอบแทนติดลบเสียเป็นส่วนใหญ่ หากนักลงทุนต้องการได้รับได้รับสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษี การลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ยังนับว่าเป็นกองทุนที่น่าสนใจไม่น้อย โดยในช่วงที่ผ่านมา นักลงทุนจะนิยมเข้ามาลงทุนในช่วงปลายปีกันอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากนอกจากจะสามารถหักค่าลดหย่อนในการคำนวณภาษีแล้ว และยังได้รับผลตอบแทนตามแต่นโยบายของกองทุนที่นักลงทุนเข้าไปลงทุนด้วย
วันนี้คอลัมน์ “Mutualfund IPO” วันนี้ขอพาไปดูกองทุนใหม่ที่มีการผสมผสานระหว่างข้อดีของกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ และกองทุนรวมตลาดเงิน (Money Market Fund) เอาไว้ด้วยกัน เพื่อเพิ่มทางเลือกรับผลตอบแทนที่มั่นคงและความเสี่ยงต่ำในภาวะตลาดเงินและตลาดทุนผันผวน
วศิน วัฒนวรกิจกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด (บลจ.บัวหลวง) เล่าให้ฟังถึงที่มาที่ไปว่า กองทุนเปิดบัวหลวงมันนี่มาร์เก็ตเพื่อการเลี้ยงชีพ” (Bualuang Money Market RMF : MM-RMF) ที่เป็นกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ และกองทุนรวมตลาดเงิน ประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุน ด้วยมูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท ซึ่งวัตถุประสงค์กองทุนเพื่อส่งเสริมการออมผูกพันระยะยาว เพื่อการเลี้ยงชีพหลังเกษียณอายุของผู้ถือหน่วยลงทุนที่เน้นความมั่นคงในการดำรงเงินต้น โดยมีเป้าหมายจะได้รับผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ
สำหรับจุดเด่นของกองทุนเปิดบัวหลวงมันนี่มาร์เก็ตเพื่อการเลี้ยงชีพ นับเป็นกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ และกองทุนรวมตลาดเงิน จึงมีความเสี่ยงต่ำกว่ากองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพทั่วไป อีกทั้งผู้ลงทุนยังมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ ขณะเดียวกัน กองทุนใหม่นี้เหมาะสมสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการสิทธิหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่ว่ายังมีความกังวลเรื่องความเสี่ยงจากการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
โดยกองทุนดังกล่าว จะเน้นลงทุนเฉพาะตราสารหนี้ที่มีความมั่นคง และมีอายุไม่เกิน 1 ปี ทั้งนี้ บลจ.บัวหลวงจะเปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) ระหว่างวันที่ 27 ตุลาคม - 10 พฤศจิกายน 2551 นี้ ในราคาหน่วยลงทุนละ 10 บาท (หลังจากนั้นสามารถซื้อได้ทุกวันทำการตามราคาขายหน่วยลงทุน) โดยเปิดจองซื้อขั้นต่ำ 5,000 บาท รวมทั้งสามารถจองซื้อครั้งต่อไปเพียง 500 บาทเท่านั้น
“การเปิดตัวกองทุนดังกล่าวสอดคล้องกับสภาวะการณ์ในปัจจุบัน ที่ตลาดเงินและตลาดทุนทั่วโลก รวมทั้งเมืองไทยมีความผันผวน ซึ่งจะช่วยสร้างความอุ่นใจและความปลอดภัยให้กับนักลงทุนได้เป็นอย่างดี ทั้งยังเป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ เพราะจะเน้นลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น สภาพคล่องสูงและมีอันดับความน่าเชื่อถือตั้งแต่ A- ขึ้นไป รวมทั้งนักลงทุนยังจะได้รับสิทธิหักลดหย่อนภาษีเงินได้อีกด้วย” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กล่าว
สำหรับกองทุนบัวหลวงมันนี่มาร์เก็ตเพื่อการเลี้ยงชีพ จะเน้นลงทุนในตราสารแห่งหนี้ ซึ่งมีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) ในตัวตราสาร และ/หรือผู้ออกตราสาร ผู้ค้ำประกัน ผู้รับอาวัล ผู้สลักหลัง หรือผู้รับรองตราสารหนี้นั้นๆ ระยะยาวสามอันดับแรก และ/หรือระยะสั้นสองอันดับแรกในระดับ National และ/หรือ International Scale ลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ ตราสารหนี้ภาคสถาบันการเงิน และหรือตราสารแห่งหนี้ภาคเอกชนที่มีความมั่นคง และหรือเงินฝากทั้งในและต่างประเทศ โดยกองทุนอาจทำธุรกรรมการให้ยืมหลักทรัพย์ หรือธุรกรรมการซื้อโดยมีสัญญาขายคืน (Reverse Repo) ได้ โดยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.กำหนด
กองทุนอาจจะเข้าทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivative) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดความเสี่ยง (Hedging) ด้านราคาตราสาร และ/หรืออัตราดอกเบี้ย และ/หรืออัตราแลกเปลี่ยนเงินตราเท่านั้น และอาจทำการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน (Fully Hedge) และกองทุนอาจลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารหนี้ทีมีลักษณะสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note) โดยเป็นไปตามหลักเกณฑ์หรือได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.
ทั้งนี้ การลงทุนในตราสารหนี้ การทำธุรกรรมทางการเงินและหรือเงินฝาก รวมถึงหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่น และหารหาดอกผลโดยวิธีอื่น ที่มีกำหนดชำระคืนเมื่อทวงถามหรือมีอายุสัญญา หรือจะครบกำหนดชำระคืนไม่เกิน 1 ปี นับแต่วันที่ลงทุน กองทุนจะพยายามให้อายุเฉลี่ยของตราสาร ธุรกรรมทางการเงิน (รวมเงินฝาก) ที่กองทุนลงทุน (Weighted Average Maturity : WAM) ไม่เกิน 180 วันโดยประมาณ โดยจะคำนึงถึงความมั่นคงและผลตอบแทนของตราสารเป็นสำคัญ
อนึ่ง กองทุนอาจพิจารณาลงทุนในต่างประเทศ ทั้งนี้ ไม่เกินร้อยละ 40 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และไม่เกินวงเงินสูงสุดที่ได้รับการจัดสรรจากสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.หรือธนาคารแห่งประเทศไทย หรือหน่วยงานภาครัฐอื่นใด
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลกองทุนบัวหลวงมันนี่มาร์เก็ตเพื่อการเลี้ยงชีพเพิ่มเติมและจองซื้อได้ที่สาขาธนาคารกรุงเทพ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บลจ.บัวหลวง โทร. 0 2674 6488 ฝ่ายการตลาด กด 8 หรือบัวหลวงโฟน โทร. 1333