xs
xsm
sm
md
lg

รูดม่าน Mutual Fund Fair ผลตอบรับเยี่ยม..ยอดขายไม่สำคัญ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผ่านพ้นไปเเล้วสำหรับงาน "ตลาดนัดกองทุนรวม : Mutual Fund Fair" ที่จัดขึ้นณ บริเวณชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ วันที่ 18 -21 กันยายน ที่ผ่านมา งานนี้จัดขึ้นโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเเละบริษัทหลักทรัพย์กองทุนรวม(บลจ.)ต่างๆ เเม้ว่าภาวะการลงทุนในช่วงนี้จะซบเซาเเต่ก็พอจะมีนักลงทุนมองเห็นช่วงนี้เป็นจังหวะที่ดีในการลงทุนก็อาจะเข้ามาซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) เเละ กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ประกอบกับใกล้จะสิ้นปีเเล้วทางบลจ.จึงจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายเป็นจำนวนมาก "ทีมงานผู้จัดการกองทุนรวม" จะพาผู้อ่านไปดูตัวเลขยอดทำธุรกรรมเเละจำนวนเม็ดเงินที่ไหลเข้ามาลงทุนกัน

จากยอดการทำธุรกรรมที่บลจ.รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์พบว่า กองทุน LTFได้รับความสนใจจากนักลงทุนถึง 934 ราย คิดเป็นเงิน 74.14 ล้านบาท อันดับที่ 2 คือกองทุน RMF มีการทำธุรกรรมทั้งสิ้น 350 ราย คิดเป็นเงิน 29.33 ล้านบาท อันดับที่ 3 กองทุนรวมตราสารหนี้ต่างๆ มีผู้สนใจทำธุรกรรมทั้งสิ้น 298 ราย คิดเป็นเงินสูงถึง 210.30 ล้านบาท เเละสุดท้ายคือกองทุนประเภทอื่นๆเช่น กองทุนตราสารทุน หรือ กองทุนผสม ได้รับความสนใจจากนักลงทุน 166 ราย คิดเป็นเงิน 76.65 ล้านบาท

นอกจากนี้รายงานของตลาดหลักทรัพย์ยังได้จัดทำรายงานการทำธุรกรรมเป็นเเบบรายวันอีกด้วย ซึ่งวันที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนคือวันเสาร์ที่ 20 กันยายน มีผู้ทำธุรกรรม 650 ราย คิดเป็นเงิน 106.36 ล้านบาท ส่วนวันอาทิตย์ได้รับความสนใจรองลงมา ซึ่งมีผู้ลงทุนสนใจทำธุรกรรมถึง 618 ราย คิดเป็นเงิน 182.36 ล้านบาท ขณะที่วันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน มีการทำธุรกิรรมซื้อขายกองทุนอยู่ที่ 259 ราย คิดเป็นเงิน 69.71 ล้านบาท เเละวันศุกร์ที่ 19 กันยายน มียอดทำธุรกรรม 221 ราย คิดเป็นเงิน 31.95 ล้านบาท

มาดูยอดขายของบลจ.กันบ้างว่ามียอดการขายกองทุนตามที่ตั้งเป้าหรือไม่ อมร ภูษิตรานุสรณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมการตลาดและภาพลักษณ์องค์กร บลจ. ไทยพาณิชย์ จำกัด สรุปยอดขายภายในงานว่า จำนวนผู้ที่เข้ามาลงทุนกับบลจ.อยู่ที่ 359 ราย โดยยอดผู้ลงทุนในกองทุน RMF อยู่ที่ 55 ราย เเละกองทุน LTF มีจำนวน 278 ราย ส่วนกองทุนอื่นที่ผู้ลงทุนสนใจลงทุนอีก 26 ราย

วิโรจน์ ตั้งเจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาธุรกิจและการตลาด บลจ.กรุงไทย จำกัด(มหาชน) กล่าวถึงยอดขายในตลาดนัดกองทุนรวมว่า ยอดขายของกองทุนดีกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ เเต่สิ่งที่สำคัญครั้งนี้คือการได้ฐานลุกค้าใหม่เพิ่มขึ้น โดยฐานลูกค้าที่ได้มานี้มีความเข้าใจการลงทุนในกองทุนรวมเป็นอย่างมาก ซึ่งเเตกต่างจากเมื่อก่อนที่ความรู้เกี่ยวกับการลงทุนในกองทุนนั้นยังมีจำกัดอยู่ในวงเเคบ

พรศิลป์ ชิโนเรสโยธิน ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บลจ.บัวหลวง เปิดเผยว่า ยอดการขายของบลจ.เป็นที่น่าพอใจเช่นกัน ซึ่งนอกจากกองทุนRMFเเละLTF เเล้วบลจ.ยังได้รับการตอบรับจากลูกค้าในกองทุนอื่นอีกด้วย ซึ่งการซื้อขายหน่วยลงทุนในบลจ.ของเรานอกจากจะซื้อด้วยเงินสด เเล้วเรายังอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าซื้อหน่วยลงทุนด้วยบัตรเครดิต ขณะเดียวกันบลจ.เรายังได้ฐานลูกค้าใหม่ที่สนใจการลงทุนในกองทุนอีกด้วย

ทางด้าน จารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บลจ.แอสเซท พลัส จำกัด กล่าวว่า หลังจากบริษัทได้ร่วมออกบูธในงาน ตลาดนัดกองทุนรวม ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ที่ผ่านมานั้น ลูกค้าให้การตอบรับเป็นอย่างดี โดยกองทุนที่ลูกค้าลงทุนมากที่สุด เป็นกองทุนเพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษีทั้ง LTF และ RMF ได้แก่ กองทุนเปิดแอสเซทพลัสหุ้นระยะยาวทวีกำไร (ASP-GLTF) ซึ่งเน้นลงทุนในหุ้นที่มีศักยภาพของการเพิ่มขึ้นของราคาสูงเมื่อเทียบกับราคาตลาด (High Beta Stock) รองลงมา เป็นกองทุนเปิดแอสเซทพลัสตราสารทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (ASP-ERF) ซึ่งเน้นลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และมีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง กองทุนเปิดแอสเซทพลัสหุ้นระยะยาว (ASP-LTF) ที่เน้นลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และมีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งในหุ้นคุณค่า (Value Stock) และหุ้นเติบโต (Growth Stock) ที่มีนโยบายจ่ายเงินปันผลสูง และกองทุนเปิดแอสเซทพลัสกำไรปันผล (ASP-GDF) ซึ่งเป็นกองทุนเปิดตราสารทุน ซื้อ-ขายได้ทุกวันทำการ โดยไม่มีค่า ธรรมเนียมการซื้อขาย

“ในช่วงนี้ลูกค้าส่วนใหญ่ สนใจลงทุนในกองทุนเพื่อประโยชน์ทางภาษี ที่มีนโยบายลงทุนในหุ้น และกองทุนตราสารทุน เนื่องจากลูกค้ารับรู้ว่าตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวลดลงมาพอสมควรแล้ว ในระดับค่า P/E ตลาดหุ้นปัจจุบันที่ 8 เท่า ซึ่งนอกจากจะเป็นการเข้าลงทุนในช่วงจังหวะหุ้นดีราคาถูกแล้ว ยังได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีด้วย นอกจากนี้ การจัดโปรโมชั่นให้ของกำนัลกับลูกค้าที่ลงทุนในกองทุน RMF และ LTF ก็เป็นสีสัน ที่ช่วยจูงใจให้ลูกค้าเลือกลงทุนอีกปัจจัยหนึ่งเช่นกัน”

สรุปยอดบลจ.ต่างๆ
บลจ.อยุธยา มีกองทุนที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ กองทุนเปิดอยุธยาตราสารเงินพลัส (AYFCASHPLS) ซึ่งเป็นกองทุน Money Market สภาพคล่องสูง ซื้อขายได้ทุกวัน ผลตอบแทนที่ได้รับ สูงกว่าเงินฝากออมทรัพย์ และสำหรับกองทุน LTF และ RMF กองทุนที่ได้รับความนิยมสูงสุดสำหรับกองทุน LTF คือ กองทุนเปิดหุ้นระยะยาวอยุธยาหุ้นปันผล (AYFLTFDIV) เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นที่มีแนวโน้มการจ่ายปันผลดี ซึ่งผลตอบแทนย้อนหลังชนะความผันผวนของตลาดหุ้น ผลตอบแทนชนะดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ส่วนกองทุน RMF ด้รับความนิยมสูงสุด คือ กองทุนเปิดอยุธยาตราสารเงินเพื่อการเลี้ยงชีพ (AYFCASHRMF)

บลจ.เอ็มเอฟซี เปิดขายกองทุนทั้งหมด 4 กองทุน คือ กองทุนRMFเเละ LTF กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี มันนี แมเนจเมนท์ และ กองทุนเอ็มเอฟซี โกลบอล อินคัม พลัส ทั้งนี้ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นลูกค้ารายย่อยประมาณ 100 ราย และมีลูกค้าใหม่เพิ่มอีกประมาณ 20% ด้วย ส่วน บลจ.ทหารไทย มีกองทุนที่ได้รับความสนใจคือ กองทุนRMFเเละ LTF โดยทางลบจ.ตั้งเป้าหมายได้ว่า สิ้นปีนี้จะมียอดการลงทุนในกองทุนดังกล่าวไม่ต่ำกว่า 1,200 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม "ทีมงานผู้จัดการกองทุนรวม" ได้สอบถามหลายๆบลจ.พบว่า ยอดขายหน่วยลงทุนภายในงานนี้ ตรงตามเป้าหมายที่วางไว้บ้าง หรือไม่ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้บ้าง เเต่สิ่งที่ได้กลับมาคือ ฐานลูกค้าใหม่ที่พร้อมจะเข้ามาลงทุนทั้งในตลาดหลักทรัพย์ ตลาดตราสารหนี้ เเละตลาดการเงิน ซึ่งการลงทุนของนักลงทุนใหม่นี่เองจะทำให้บรรยกาศการลงทุนของประเทศไทยฟื้นตัวขึ้นอีกครั้ง

กำลังโหลดความคิดเห็น