ทุกวันนี้ เรามักจะพบเห็นคนที่มีปัญหาในเรื่องการเงิน หรือประสบกับสภาวการณ์เงินที่เราเรียกว่าชักหน้าไม่ถึงหลังกันจำนวนมาก สาเหตุหลักๆ ก็เป็นเพราะว่าขาดการวางแผนการใช้จ่ายที่เหมาะสมนั่นเอง หรืออาจจะไม่เห็นความสำคัญของการวางแผนการเงินโดยเมื่อมีเงินก็ใช้ไปจนกว่าเงินจะหมดแบบเดือนชนเดือน อย่างไม่คิดหน้าคิดหลัง ก็อย่างที่ได้บอกไปแล้วมีการวางแผนการเงินมีเหตุผลต่าง ๆ มากมายที่สำคัญมากที่เราต้องคิดให้ดี ๆ และถ้าจะวิเคราะห์เจาะลึกไปว่า สาเหตุอะไรบ้างที่ทำให้การใช้จ่ายของคนเราไม่เป็นไปอย่างมีระบบระเบียบ ใช้ไปเรื่อย ๆ ก็พอที่จะสรุปได้ดังนี้
สาเหตุแรก มาจากความต้องการของเราที่ไม่มีวันสิ้นสุดและจะมีความต้องการที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดังที่ Maslow นักจิตวิทยาชื่อดังได้กล่าวไว้ว่ามนุษย์เริ่มต้นจากการบำบัดความหิวที่เราต้องการเป็นปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิต และความต้องการก้าวไปสู่ความมั่นคง ความต้องการเป็นที่รัก ไปจนถึงความต้องการความสำเร็จในชีวิต จนสุดท้ายความต้องการบรรลุซึ่งศักยภาพของตนเองในที่สุด ไม่ค่อยคิดถึงคำว่า “พอ” กันสักเท่าไหร่ เพราะเมื่อเรามาถึงขั้นหนึ่งก็มักจะต้องการก้าวไปอีกขั้นหนึ่งที่สูงขึ้นอยู่เสมอ เช่น แรกเริ่มก็พอซื้อหาอาหารที่ไหนก็ได้คำนึงมากนักพอให้ท้องอิ่ม พอวันหนึ่งเรามีมากขึ้นอาหารแบบเดิมกินไม่ได้แล้ว ต้องไปซื้อหาตามร้านอาหารที่มีราคาสูงขึ้นถึงจะอิ่ม พอขยับสูงขึ้นก็จะต้องไปทานอาหารตามห้างร้านดัง ๆ และต่อไปถึงขั้นสุด ๆ ก็คือร้านอาหารหรูหราราคาแพงสุด ๆ ที่มีคนบางคนเท่านั้นที่จะเข้าไปกินได้ ทั้ง ๆ ที่ก็อิ่มเหมือนกันซึ่งเหตุนี้จึงทำให้เราใช้จ่ายมากอยู่เรื่อย ๆ ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยที่ทำให้เราเกิดค่าใช้จ่ายเป็นเงาตามตัวนั่นเอง
สาเหตุที่สอง คือ มาจากการที่เข้าใจโลกหรือวิธีการมองโลกที่ไม่เหมาะสม หมายความว่าโดยทั่วไปแล้วคนเรามักจะทึกทักว่าแบบแผนการดำรงชีวิตที่ปรากฏตามสื่อต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโทรทัศน์ คือ แบบแผนของคนปกติทั่วไป แต่สิ่งเหล่านั้นล้วนเป็นสิ่งที่เร้าให้เกิดการบริโภคและใช้จ่ายมากขึ้นต่างหาก และทำให้เกิดการใช้จ่ายโดยที่ไม่จำเป็น หรือตกเป็นเหยื่อของการโฆษณาของสินค้าต่าง ๆ ที่สุดแสนจะหาทางนำเสนอที่โดนใจ และ เราต้องควักเงินออกจากกระเป๋า
สำหรับสาเหตุสุดท้าย ได้แก่ อิทธิพลของสิ่งแวดล้อม ที่เราต้องมีการสื่อสารกับคนในสังคมและต้องการเป็นที่ยอมรับจากกลุ่มคนเสมอ ซึ่งล้วนเป็นสิ่งที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อการใช้ชีวิตและการบริโภค เช่น ถ้าเราใช้สินค้าอย่างนี้ หรือไปในสถานที่อย่างนี้ แล้วจะเป็นคนที่มีระดับ หรืออ้างว่าเป็นเพราะ “คนปกติ” เขาทำกัน หรือเพียงแต่ว่าถ้าเราใช้สินค้าอาหารนั้น ๆ เราก็จะเข้ากลุ่มที่เราต้องการได้ ทั้งหมดก็เพราะอิทธิพลของผู้คน คำพูด และ สิ่งแวดล้อม
จากสาเหตุต่าง ๆ ดังกล่าว จึงนำไปสู่การใช้จ่ายที่มากมายและมักจะสูงกว่ารายได้ในเกือบทุกกรณี ดังนั้น เราต้องรู้จักตัวเราเองมากที่สุด และรู้ว่าเราทำอะไรแค่ไหนก็เพียงพอ หากไม่แล้ว เราก็จะพบกับการขาดความสมดุลระหว่างรายได้และรายจ่าย หรือการกินอยู่ที่เกินกว่าฐานะของตนเอง จึงนำไปสู่การทำให้ตนเองนั้นเดือดร้อนด้านการเงินในการดำรงชีวิตทุกวันนี้
การเป็นหนี้ที่ไม่ฉลาด เป็นการบ่งบอกการไม่ฉลาดของตัวเราเอง คิดให้ดีเพื่อให้มีชีวิตที่ไม่เดือดร้อนไปตลอดกาล
สาเหตุแรก มาจากความต้องการของเราที่ไม่มีวันสิ้นสุดและจะมีความต้องการที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดังที่ Maslow นักจิตวิทยาชื่อดังได้กล่าวไว้ว่ามนุษย์เริ่มต้นจากการบำบัดความหิวที่เราต้องการเป็นปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิต และความต้องการก้าวไปสู่ความมั่นคง ความต้องการเป็นที่รัก ไปจนถึงความต้องการความสำเร็จในชีวิต จนสุดท้ายความต้องการบรรลุซึ่งศักยภาพของตนเองในที่สุด ไม่ค่อยคิดถึงคำว่า “พอ” กันสักเท่าไหร่ เพราะเมื่อเรามาถึงขั้นหนึ่งก็มักจะต้องการก้าวไปอีกขั้นหนึ่งที่สูงขึ้นอยู่เสมอ เช่น แรกเริ่มก็พอซื้อหาอาหารที่ไหนก็ได้คำนึงมากนักพอให้ท้องอิ่ม พอวันหนึ่งเรามีมากขึ้นอาหารแบบเดิมกินไม่ได้แล้ว ต้องไปซื้อหาตามร้านอาหารที่มีราคาสูงขึ้นถึงจะอิ่ม พอขยับสูงขึ้นก็จะต้องไปทานอาหารตามห้างร้านดัง ๆ และต่อไปถึงขั้นสุด ๆ ก็คือร้านอาหารหรูหราราคาแพงสุด ๆ ที่มีคนบางคนเท่านั้นที่จะเข้าไปกินได้ ทั้ง ๆ ที่ก็อิ่มเหมือนกันซึ่งเหตุนี้จึงทำให้เราใช้จ่ายมากอยู่เรื่อย ๆ ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยที่ทำให้เราเกิดค่าใช้จ่ายเป็นเงาตามตัวนั่นเอง
สาเหตุที่สอง คือ มาจากการที่เข้าใจโลกหรือวิธีการมองโลกที่ไม่เหมาะสม หมายความว่าโดยทั่วไปแล้วคนเรามักจะทึกทักว่าแบบแผนการดำรงชีวิตที่ปรากฏตามสื่อต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโทรทัศน์ คือ แบบแผนของคนปกติทั่วไป แต่สิ่งเหล่านั้นล้วนเป็นสิ่งที่เร้าให้เกิดการบริโภคและใช้จ่ายมากขึ้นต่างหาก และทำให้เกิดการใช้จ่ายโดยที่ไม่จำเป็น หรือตกเป็นเหยื่อของการโฆษณาของสินค้าต่าง ๆ ที่สุดแสนจะหาทางนำเสนอที่โดนใจ และ เราต้องควักเงินออกจากกระเป๋า
สำหรับสาเหตุสุดท้าย ได้แก่ อิทธิพลของสิ่งแวดล้อม ที่เราต้องมีการสื่อสารกับคนในสังคมและต้องการเป็นที่ยอมรับจากกลุ่มคนเสมอ ซึ่งล้วนเป็นสิ่งที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อการใช้ชีวิตและการบริโภค เช่น ถ้าเราใช้สินค้าอย่างนี้ หรือไปในสถานที่อย่างนี้ แล้วจะเป็นคนที่มีระดับ หรืออ้างว่าเป็นเพราะ “คนปกติ” เขาทำกัน หรือเพียงแต่ว่าถ้าเราใช้สินค้าอาหารนั้น ๆ เราก็จะเข้ากลุ่มที่เราต้องการได้ ทั้งหมดก็เพราะอิทธิพลของผู้คน คำพูด และ สิ่งแวดล้อม
จากสาเหตุต่าง ๆ ดังกล่าว จึงนำไปสู่การใช้จ่ายที่มากมายและมักจะสูงกว่ารายได้ในเกือบทุกกรณี ดังนั้น เราต้องรู้จักตัวเราเองมากที่สุด และรู้ว่าเราทำอะไรแค่ไหนก็เพียงพอ หากไม่แล้ว เราก็จะพบกับการขาดความสมดุลระหว่างรายได้และรายจ่าย หรือการกินอยู่ที่เกินกว่าฐานะของตนเอง จึงนำไปสู่การทำให้ตนเองนั้นเดือดร้อนด้านการเงินในการดำรงชีวิตทุกวันนี้
การเป็นหนี้ที่ไม่ฉลาด เป็นการบ่งบอกการไม่ฉลาดของตัวเราเอง คิดให้ดีเพื่อให้มีชีวิตที่ไม่เดือดร้อนไปตลอดกาล
